วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

“อิทธิฤทธิ์ทีวีดาวเทียม”


เวลาแค่10 ปีที่ทีวีจากอานาล๊อกปรับมาเป็นดิจิทอลไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบันทีวีมีในประเทศไทยมีมากกว่า 200 ช่อง และเราคงเห็นแล้วว่าอิทธิฤทธิ์และอานุภาพของทีวีดาวเทียมนั้นมันมีแรงส่งมหาศาลแค่ไหน เพราะว่าอย่าลืมว่าคนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันหมดทุกคนไม่ว่าจะฐานะอะไร การศึกษาสูงหรือต่ำ รายได้มากหรือน้อย ฯลน ไม่ว่าเราจะแตกต่างกันอย่างไรทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ความเชื่อ แต่เราก็มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงเท่ากัน และในเวลาใดเวลาหนึ่งนั้นเราสามารถเสพสื่อได้เพียงอย่างเดียว ดังนั้นหากเราสามารถทำรายการได้โดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแล้วละก็อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นครับ
ดูตัวอย่าง เอเอสทีวี ของค่ายเสื้อเหลืองซิครับรับประกันได้ว่าถ้าไม่มีช่องนี้กลุ่มนี้ไม่สามารถขยายเครือข่ายได้ขนาดนี้ นี่เห็นว่ามีสินค้าที่ตีตราเอเอสทีวีขายทั้งในทีวี ทั้งในหนังสือเครือผู้จัดการไม่ว่าจะเป็น ข้าสาร อาหารแห้ง น้ำปลา ฯลฯ มาดูค่ายทีวีของเสื้อแดงบ้างก็เฉกเช่นเดียวกัน มีขายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำดื่ม เครื่องดื่ม ฯลฯ แล้วเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองค่ายนั้นต่างก็โฆษณาชวนเชื่อแบบเดียวกัน โจมตีฝ่ายตรงข้ามแบบไม่ลืมหูลืมตา (เหมือนกัน) แล้วสังคมเราจะอยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างไรครับก็เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างก็ปลุกระดมฝ่ายตนและมองฝ่ายตนถูกแบบไม่ลืมหูลืมตา และฝ่ายตรงข้ามก็ผิดแบบไม่ลืมหูลืมตาเช่นเดียวกัน นี่เป็นอิทธิพลของทีวีดาวเทียมทางด้านการเมือง
ข่าวคราวการจับกุมป้าเช็ง และ ปูแดง ตลอดจน เหรียญพลังมหัศจรรย์พันลึกอะไรนั้น ก็เป็นเครื่องบ่งบอกถึงอิทธิฤทธิ์ทีวีดาวเทียมได้เป็นอย่างดีในแง่ของการโฆษณาชวนเชื่อทางธุรกิจ มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก และสามารถสร้างรายได้อย่างมากมายให้กับเจ้าของช่อง เจ้าของสินค้า และปัจจุบันนี้การเปิดทีวีดาวเทียมซักช่องหนึ่งไม่ใช้เรื่องยากเย็นทางด้านต้นทุน แค่ราคาเท่ากับรถเบนซ์สักคันหนึ่งเท่านั้นเองเจ้าของสินค้าสมัยก่อนกว่าจะทำโฆษณาทางทีวี จ่ายค่าแอร์ไทม์ ฯลฯ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในหนึ่งปีของสินค้าตัวหนึ่งอาจจะสร้างทีวีดาวเทียมได้ 10 ช่องเลยก็ได้ ยิ่งเนื้อหาหรือคอนเทนท์ของทีวีดาวเทียมก็สร้างกับแบบสุกเอาเผากิน เอามิวสิควีดีโอมาเปิดบ้าง เอาหนังเก่าๆมาฉายบ้าง เชิญคนนั้นคนนี้มาพูด ฯลฯ แบบไม่ต้องเตรียมการอะไร หรือลงทุนอะไรมากนัก ถึงเวลาก็โฆษณาขายสินค้าแบบชวนเชื่อจนผู้คนหลงเป็นเหยื่อมากมายโดยเฉพาะคนในต่างจังหวัด ก็ได้แต่นั่งดูกทช.หรือ กสช.ซึ่งบัดนี้ยังตั้งกรรมการกันไม่ครบและไม่เห็นทำอะไรเลย ต้องรอให้ผู้คนตาบอด หรือถูกหลอกจนทนไม่ไหวต้องแจ้งความจึงดำเนินการ ก็ได้แต่สงสารคนไทยที่ถูกเค้าหลอกอยู่ร่ำไป บางค่ายก็หันมาทำทีวีดาวเทียมกันเองแล้วไม่ว่าจะเป็น สหมงคล จีเอ็มเอ็มในเครื่ออากู๋แกรมมี่ มีช่องรายการการศีกษา รายการทางการเงินตลาดหลักทรัพย์ เร็วนี้ก็จะมีช่องสาม และช่องอื่นๆก็ขยายตามมาอย่างแน่นอน หรืออาจจะมีช่องที่เกี่ยวกับ ทองคำโดยตรง การเกษตร การป่าไม้ ช่องกีฬาก็คงจะมีมากขึ้นเพราะการจัดการกีฬาในปัจจุบันเป็นแบบธุรกิจ คงเห็นได้จากไทยพรีเมียลีคที่เติบโตทั้งในแง่จำนวนผู้ดูฟุตบอล และสปอนเซอร์ ตลอดจนสินค้าของสโมสร ฯลฯ และทั้งฟันธงรวมทั้งคอนเฟิมทั้งนั่งยันนอนยันว่าอนาคตทีวีดาวเทียมมีเป็น 1,000 ช่องแน่นอน (หนึ่งพันช่องครับ ไม่ได้พิมพ์ผิดครับ) เพราะการจัดทำทีวีดาวเทียมนั้นนอกจากต้นทุนถูกแล้ว ยังสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงไม่เหมือนฟรีทีวีที่จะเป็นแบบทีวีแมสหรือทีวีมวลชนไป และที่สำคัญไปกว่านั้นราคาจานดาวเทียมถูกลงจนไม่น่าเชื่อจากหลายหมื่น หรือแค่หมื่นกว่า และเหลือแค่ 2,000 กว่าบาทในปัจจุบัน เชื่อว่าเร็วๆนี้อาจจะต่ำกว่า 2,000 แน่นอน แล้วเราจะค่อยๆเห็นว่าเสาทีวีแบบก้างปลาจะหายไปและเป็นสินค้าที่ถูกจัดเข้าสู่พิพิธภันฑ์ในอนาคตอันใกล้นี้ แล้วเราจะไม่มองหาลู่ทางในการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ทั้ง ราคาถูกมากออกโฆษณาในฟรีทีวีหลังข่าวหนึ่งนาที ออกทีวีดาวเทียมได้เป็นเดือนเลยครับพี่น้อง ตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย สามารถโฆษณาได้ความถี่มากกว่าเดิม ทำให้ข้อความสื่อสารตอกย้ำอยู่ในใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและตัดสินใจซื้อได้ในที่สุด ดูอย่างป้าเช็งแก่ซิครับพูดกรอหูอยู่ทุกวันคนยังซื้อน้ำหมักไปหยอดตาได้เลยครับพี่น้อง จากน้ำหมักเหม็นเป็นน้ำเทวดาได้แล้วจะไม่เรียกว่า “อิทธิฤทธิ์” หรือครับ ???? นี่เห็นว่าคุณตัน โออิชิ แกก็กำลังจะทำทีวีดาวเทียมอยู่เหมือนกันและเชื่อฝีมีและวิสัยทัศน์คุณตันได้ว่าแกทำอะไรแล้วไม่ผิดหวังแน่นอนจะต้องลือลั่นสนั่นเมือง แบบว่าเล็กๆไม่ใหญ่ๆตันชอบงะพี่น้อง แล้วคนไทยจะบริโภคชาเขียวของพี่แกแทนน้ำเหมือนว่าไปเยรมันน้ำเปล่าแพงกว่าเบียร์ยังไงยังงั้นเลยครับเจ้านาย

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...