วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560

“PITY MARKETING IN MOROCCO”



                       





               ต้นเดือน ถิถุนายน 2560 ได้มีโอกาสไปเยือน “โมรอคโค” ประเทศที่หลายๆคนคงสงสัยว่ามันอยู่ตรงส่วนใดของโลก  และ คงเป็นประเทศท้ายๆที่นักท่องเที่ยวไทยจะเดินทางไป  แต่เนื่องจากผมเองมีเวลาช่วงว่าง(ที่ติดต่อกันหลายๆวัน) ตรงช่วงนั้นพอดีกับมีทัวร์จัดทริปในประเทศหรือเมืองที่ยังไม่เคยไปอยู่ประเทศเดียว  พูดง่ายๆคือไม่มีตัวเลือกที่ตรงกับช่วงเวลาว่าง   อย่ากระนั้นเลย “ไปไหนไปกัน” ก็เลยได้มีโอกาสได้ไปเยือนดินแดนสีสันและอารยธรรม  ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้น   แม้จะเคยขี่อูฐมาครั้งหนึ่งแล้วที่ดูไบก็ตาม 
                        รู้จักโมรอคโคแค่ “คาซาบลังก้า”  ก็จะอะไรเสียอีก  เพลง เพลง  เท่านั้น  หลังจากการเดินทางอันยาวนาน  คือ 6 ชั่วโมงถึงอาบูดาบี  พักรอต่อเครื่องอีก 5 ชัวโมง  แล้วต่อเครื่องไปคาซาบลังก้าอีก 8 ชั่วโมง รวมแล้ว 19 ชั่วโมงนับเป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีประสบการณ์มา  ปกติไปยุโรปก็ประมาณ 12 ชั่วโมงแต่เป็นการเดินทางตรง  แต่โชคดีเครื่องว่างแถวที่นั่ง 4 ที่เลยนั่งสองคนกับภรรยาสบายไป  ประหยัดค่าตั๋วชั้นธุรกิจไป 90,000 บาท/คน   พี่น้องงงมั้ยครับค่าทัวร์ทั้งทริป 60,000  แต่อัพเกรดเป็นชั้นธุรกิจเพิ่มอีก 90,000 บาท   ถามทางทัวร์ไม่ทราบว่าไหงงั้นแต่พอไปถึงสนามบินจึงทราบว่าค่าตั๋วกรุ๊ปทั้วร์นั้นไม่ถึงสองหมื่นบาท  และถ้าแยกไปชั้นธุรกิจต้องแยกตั๋วเป็นตั๋วเดี่ยวทำให้แพงมหาศาล   ผมก็ถามว่าแล้วที่นั่งชั้นธุรกิจว่าหรือไม่ตอนเช็คอินที่สนามบิน   ปรากฏว่าว่างถึง 80 เปอร์เซนต์เลยลองแหย่เล่นๆว่าผมให้ 50,000 บาทต่อคนแล้วจขออัพเกรด  ปรากฏว่าไม่ได้ก็เลยได้นั่งชั้นประหยัดแบบพิเศษแถวสี่คนแต่นั่งสอง   อ้อ.....ลืมบอกไปสายการบิน “เอธิฮัด” ของสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ครับ  ตัวเครื่องและการบริการตลอดจนอาหารเครื่องดื่มก็โอเค อายุของสายการบินนี้แค่ 13 ปี แต่ว่าได้รับรางวัลจากการประเมิน(ไม่ใช่จากการสำรวจผู้โดยสาร)  ว่าเป็สายการบิน 5 ดาว ผิดกับการบินไทยอายุ 60 ปีเศษ ไม่รู้ได้กีดาว แต่เราก็รักของเรานะ...หรือว่ารักในไมล์สะสมก็ม่ายรู้        สายการบินในตะวันออกกลางค่าตั๋วถูกแม้จะต้องแวะต่อเครื่องทำให้เสียเวลาไปมากพอสมควร   ตอนลูกสาวคนเล็กไปเรียนที่อังกฤษก็ให้ไป”อิมีเรสต์” ต่อเครื่องที่ดูไบทำให้ประหยัดไป เกือบสองหมื่นก็เหมาะสำหรับคนไม่รีบร้อน  และต้องการประหยัดทั้งนี้ก็แล้วแต่อัธยาศัยของท่านนะครับ  แต่อย่างไรก็ตามการเดินทางไปโมรอคโคจากประเทศไทยไม่มีการบินตรงอยู่ดีจึงนับว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด..............จบข่าว.....

                        สถานที่ท่องเที่ยวในโมรอคโคไม่สมคำล่ำลือ (หรือว่าเราคาดหวังมากไปก็ไม่รู้)  เพราะไม่เลิศหรูอลังการงานสร้าง  หรือสีสันตระการตาเท่าที่  มโน....ไว้แต่ประการใด    ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ต้องนั้งรถวันละ 200-300 กม. และเปลี่ยนโรงแรมทุกคืนรวม 6 คืน  รวมนั่งรถ กว่า 3
,000 กม.  เพราะว่าแต่ละเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวน้อย  ก็ประมาณว่าเมืองละ 1 จุดอะไรประมาณนี้   ที่น่าสังเกตุคือแทกซี่แต่ละเมืองนั้นจะมีสีที่แตกต่างกันไป  เช่น คาซาบลังก้าสีขาว  มาราเกซซึ่งเป็นเมืองสีชมพูรถแทกซี่จะสีไข่ไก่  เมืองเซฟซาอูนสีฟ้า   เป็นต้น   ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ในสถานที่เที่ยวแต่ละแห่ง   ..............
                        แต่ไฮไลท์อยู่ที่    การพักโรงแรมในทะเลทรายซาฮาร่า  และ ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้น”  นี่แหละคือจุดสุดยอดของทริปนี้  เพราะแม้จะเคยขึ่อูฐมาแล้วที่ดูไบ  แต่ไม่เคยขึ่ชมพระอาทิตย์ขึ้นแบบนี้ทำให้ตื่นตาตื่นใจ   และจบทริบขึ่อูฐด้วยการที่น้องๆที่เป็นคนพื้นเมืองนำของที่ระลึกมาขายซึ่งก่อนหน้านั้นหัวหน้าไกด์ก็เล่าให้ฟังถึงความลำบากของน้องๆเหล่านี้  และก็อยากให้ช่วยซื้อนิดหน่อยหรือทิปให้น้องๆเค้า  พอน้องๆเค้างัดของมาวางเรียงบนทรายอะเอีดยสีนวลๆ  ฟังราคาแล้วตกใจเพราะตอนเดินตลาดเราก็พอจะประมาณราคาได้   หินฟอสซิลที่เป็นพวกกุญแจ  ในตลาดขาย 20 ดีแรมตกประมาณ 80 บาท  น้องเขาตั้งราคาไว้ 100 ดีแรม 400 บาท  
                             พอจะอ้าปากต่อน้องเขาว่า  THIS IS NOT FOR BUSINESS  BUT IT FOR MY FAMILY   เท่านั้นแหละครับ  ควักกระเป๋าจ่ายไป 100 ดีแรม  พร้อมกับน้ำตาแห่งความปิติไหลพรากที่ได้มีส่วนช่วยเหลือครอบครัวของน้องเค้า  อุตะ...อุตะ....อุตะ   ใครสั่งใครสอนหว่าประโยคนี้  แต่ก็นึกว่าเหมือนกับซื้อของ 80 บาท  ทิปน้องไปอีก 320 บาท    ก็โอ......นะจะบอกให้ @@@@@@   สงสารมาร์เก็ตติ้ง  PITY MARKETING  เท่านั้นเองที่เราพร้อมควักกระเป๋าจ่ายตังไป  คิดได้ดังนี้ก็สบายใจจริงมั๊ย.......!!!!!!!!

บอลข่าน ย่านสงคราม

  บอลข่าน   ย่านสงคราม 26 เมษายน 25678             ช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมาผมได้ลางานมากที่สุดในประวัติการทำงานของผม   คือลางานทั้...