วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

“ปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา”






ฟอร์เวิดเมล์ที่ส่งๆกันต่อๆมานั้นบางครั้งก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเหมือนกัน เพราะว่าในสังคมข่าวสารรู้สึกว่าคนรุ่นใหม่จะล้นไปด้วยข้อมูลข่าวสาร การค้นหาข้อมูลต่างๆเป็นไปเพียงแค่นิ้วจิ้มไปยังเสิรช์เอ็นจินต่างๆ เช่นกูเกิ้ล เป็นต้น แต่ในสังคมแบบนี้ก็ต้องระมัดระวังและเสพข่าวสารอย่างมีสติ ไม่ใช่ใครส่งอะไรมาก็เชื่อกันไปหมด ดูอย่างช่วงหนึ่งมีฟอร์เวิดเมล์ว่าในจีนมีการทำไข่ปลอมออกมาขายกัน แต่ถ้าวิเคราะห์อย่างมีสติเราก็จะรู้ว่า คงไม่มีใครโง่ทำไข่ไก่ปลอมหรอกครับเพราะว่ามันไม่คุ้มกัน ถ้ามีสติเราก็จะคิดได้ว่าคนที่จะปลอมอะไรมาขายสักอย่างหนึ่งย่อมต้องหวังว่าจะได้กำไร แล้วไข่ปลอมมันจะกำไรได้อย่างไรเพราะมูลค่าของไข่แค่นิดเดียวเอง แถมฟังกระบวนการทำไข่ปลอมก็เดาได้แน่นอนว่าต้นทุนต้องแพงกว่าไข่จริงๆแน่ (แล้วจะปลอมมันไปทำไม ?? ) แต่พอเห็นฟอร์เวิดเมล์ที่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ในสิงค์โปรที่มีสระน้ำเป็นรูปเรืออยู่บนดาดฟ้า ชื่อ มารีนาเบย์แซนด์ ซึ่งเป็นการลงทุนของกลุ่ม SANDS คาสิโนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาแล้วก็ขอบอกว่ามันน่าจะไปเยี่ยมชมสักครั้งหนึ่ง ผมเลยถือโอกาสเร็วๆนี้เดินทางพาครอบครัวไปพักผ่อนและเที่ยวยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ พร้อมทั้งนอกที่โรงแรมนี้สองคืนค่าห้องถ้าราคาเต็มก็ประมาณหนึ่งหมื่น แต่พอดีมีเพื่อนของเพื่อนทำงานเป็น ผ.อ.ฝ่ายการขายอยู่เลยเสียแค่ 5 พันบาทเศษนึกเสียว่าครั้งหนึ่งในชีวิตก็แล้วกัน
แต่ขอบอกว่าการไปสิงค์โปรเที่ยวนี้ทำให้เห็นอะไรหลายๆอย่างๆเพราะว่ใครๆก็มักคิดว่าไปสิงค์โปรแค่ครั้งเดียวไปเที่ยวก็พอแล้ว (ยกเว้นไปช๊อปปิ้ง) เพราะที่เที่ยวมีจำกัดแต่เที่ยวนี้ต้องขอบอกว่าคิดผิดคิดใหม่ได้นะครับเพราะที่เที่ยวในสิงค์โปรแยกออกเป็นสองส่วน คือที่เที่ยวใหม่ๆเช่น โรงแรมเซนด์กลายเป็นที่ท่องเที่ยวคนที่ไม่ใช่แขกก็ขึ้นไปเยี่ยมชมดาดฟ้า(แต่ไม่สามารถเข้าไปยังส่วนสระว่ายน้ำได้ ชิงช้าสวรรค์แบบว่ารอบละครึ่งชั่วโมงชมวิว แถมมีบริการพิเศษทานอาหารแบบสุดหรูสองรอบบนกระเช้าขายพร้อมอาหารเย็นสองคนคิด ประมาณ 6,300 บาท มีการแข่งขันฟอร์มูล่าวันที่เป็นการแข่งขันบนถนนเรียกว่าปิดถนนแข่งแถมแข่งตอนกลางคืนนับว่ามีที่เดียวในโลก ค่าบัตรเข้าชมคนละนับหมืนบาทเลยแค่เข้าไปนั่งดูรถวิ่งผ่านแค่เสี้ยววิวนาทีแถมยังเสียงดังซะไม่มีผมอยู่บนชั้น 57 สระน้ำของรร.แซนด์ยังได้ยินเสียงดังมากๆๆ มียูนิเวอร์แซลสตูดิโอ พวกนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเก่าๆอย่างไนท์ซาฟารีก็มีการปรับปรุงมีบริการและการแสดงใหม่ๆเสริมเข้ามาแน่นอนว่าต้องมีการเรียกดูดเงินในประเป๋าเราอีกแน่นอน เกาะเซนโตซ่าที่ผมเคยไปครั้งแรกเมื่อเกือบสามสิบปีก่อนก็มีการปรับปรุงและบริการใหม่อีกเช่นกัน เช่นมีการจัดชก MARTIAL ART COMBAT ประมาณว่าเป็นการต่อสู้บนสังเวียน ค่าบัตรเข้าชมตั้งแต่ 1,250-7,500 บาท ทั้งที่บ้านเราเป็นต้นกำเนิดศิลปะการต่อสู้มวยไทย สวนนกจูรงก็เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าแต่ละสินค้าหรือแหล่งท่องเที่ยวของสิงค์โปรมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพราะว่าประเทศนี้ไม่มีอะไรเป็นจุดขาย ไม่ว่าวัฒนธรรม หรือว่าทรัพยากรธรรมชาติจึงต้องพึ่งพาสมองส่วนที่สร้างสรรค์กิจกรรม และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้คนที่มาสิงค์โปรมาแล้วมาได้อีกเรียกว่าเป็นลูกค้าประจำ มี่ร้านขายสินค้าแฟชั่นอยู่ร้านหนึ่งซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆทั่วโลกก็ว่าได้ในขณะนี้ CHARLES & KEITH ตอนแรกนึกว่าเป็นแบรนด์ของฝรั่งมังค่าเขาที่ไหนได้เป็นแบรนด์ของคนสิงค์โปร์ ชื่อนายชาลร์ หว่อง กับ นายคีธ หว่อง เพิ่งก่อตั้งร้านขายสินค้าแฟชั่นเมื่อปี 1996 แค่สิบสี่ปีเอง แต่ว่าความชื่นชอบของสาวๆทั่วโลกกลับคลั่งไคล้สินค้ายี่ห้อนี้ก็นอย่าล้นหลามมีร้านอยู่ทั่วโลกทั้งเอเชีย ญี่ปุ่น ยุโรป และ อเมริกา แน่นอนรวมทั้งกรุงเทพด้วย ที่มองๆดูก็จะพบว่าการออกแบบสินค้าน่าจะโดนใจสาวกและที่สำคัญราคาไม่แพงมากจนไม่มีปัญญาซื้อนะครับ แน่นอนท่านคงเชื่อได้ว่าทั้งสองคนคงไม่มีโรงงานในสิงค์โปรเป็นของตนเองเป็นแน่น่าจะผลิตสินค้าจาก จีน ไทย เวียดนาม และ อินโดนีเซีย อย่างแน่นอน นี่แสดงให้เห็นถึงสมองของคนสิงค์โปร์รู้จักทำมาหากินและพยายามพัฒนาปรับปรุงสินค้าและบริการอยู่ตลอดเวลาเรียกว่าไม่ยอมหยุดนิ่งว่างั้นเถอะ
ขอย้อนกลับมาที่ รร.มารีนาเบย์แซนด์อีกนิดนึงก่อนจบว่าถ้ายังไม่เคยไปก็ไปซะ แต่ขอบอกว่านอกจาก สระว่ายน้ำสุดเริดและงดงามเร้าใจแล้วไม่มีอะไรประทับใจเลย โรงแรมใหญ่ๆขนาด 1,500 ห้องที่คอยบริการคนมากมายขนาดนั้นบริการย่อมต้องไม่เป็นไปตามความคาดหวังของท่านอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีบริการที่ครบครัน หรูหรา แต่ถ้าคนขาดเสียซึ่งจิตบริการแล้วละก็เป็นเรื่องลองดูซักเรื่องสองเรื่องก็แล้วกันครับ ผมมีปัญหาเรื่องการจองคอมพิวเตอร์แสดงไว้ว่าจองห้องเดียวกัน ผมก็ถามเจ้าหน้าที่ต้อนรับชื่อโจนาธานว่าห้องเต็มหรือปล่าวคำตอบคือไม่ แต่ไม่สามารถให้ห้องผมเพิ่มได้เพราะจองมาแค่ 1 ห้อง(ตามข้อมูลในคอมฯ) ดูมันคิดไม่เป็น วันรุ่งขึ้นปรากฏว่าห้องมันล๊อกเข้าห้องไม่ได้มันบอกว่าเราจองแค่คืนเดียวต้องล๊งเล็งกันพักหนึ่งมันถึงยอมให้พักต่ออีกหนึ่งคืน ที่สำคัญมันมีห้องว่าแต่มันต้องให้เราเม๊งแตกก่อนถึงจะให้ห้องเราดูมันคิดซิครับ เพราะงั้นผมถึบอกว่า “ถ้ายังไม่เคยไปก็น่าไปสักครั้ง แต่อย่าไปซ้ำเลยขอบอก 555+ “

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...