วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บริการที่ไล่ ล่า (ฆ่า) ลูกค้า




และแล้ว"น้องน้ำ" ก็ผ่านพ้นไปแต่ทำความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างใหญ่หลวงแก่ประเทศไทย จนสามารถกล่าวได้ว่าเป็น"มหาอุทกภัย"ครั้งที่ใหญ่ที่สุดในปรเทศไทย แม้ในขณะนี้บางส่วนน้ำก็ยังไม่แห้งสนิทแถวบางใหญ่ บางกรวย ฯลฯอยู่ก็ตาม แต่ด้วย"จิตอาสา" ของคนไทยในยามวิกฤติก็ทำให้เราเห็น "น้ำใจ"ไทยกันอย่างน่าปลาบปลื้มเพราะว่าในทุกภาวะการณ์เรามักจะเห็นสิ่งดีๆเกิดขึ้นเสมอ พวกที่เกิดในยุค 60 ตอนนี้ก็ประมาณ 50 ปีขี้นเป็นส่วนใหญ่ช่วงนั้นนิสิตนักศึกษาเรียนรู้สังคมมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จนเรานึกกันว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักเสียสละและทำตัวให้เป็นประโยชน์เพราะเราเห็นแต่เยาวชน(ส่วนใหญ่) หลงระเริงกับแสงสีเสียง เทคโนโลยี่ และความฟุ้งเฟ้อ แต่ "น้ำท่วม"ครั้งนี้ทำให้เราสิ่งที่เราคิดนั้นเปลี่ยนแปลงไปหมดเพราะเราเห็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ เสียสละออกมาช่วยผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้กันอย่างล้นหลามแต่มากับศัพท์คำใหม่ว่า "จิตอาสา" ซึ่งมันก็คือสิ่งเดียวกับคนรุ่น 60 ที่เรียกว่า "บำเพ็ญประโยชน์" นั่นเอง ก็ทำให้เชื่อได้ว่าจิตสำนึกที่ดีๆยังมีอยู่ในคนไทยแต่ทำไมต้องรอให้เกิดวิกฤติถึงจะออกมาทำ หรืออาจจะเป็นว่าไม่มีเวทีให้เขาได้เล่นเพราะหลงไปกับแสงสี และเทคโนโลยี่จนขณะนี้เราเห็นคนในร้านอาหาร หรือ ในที่สาธารณะต่างๆนั่งกันอยู่แต่ไม่พูดกันนั่งกด บีบี หรือ แชท ทางมือถึอกัน แต่ก็คงไม่ปราถนาให้มีวิกฤติบ่อยๆ แค่อยากให้วิกฤตครั้งนี้สอนบทเรียน และสร้างจิตสำนึกให้แก่คนไทยทุกภาคส่วนว่าควรประพฤติหรือมีจิตสำนึกอย่างไรเสียมากกว่า




พูดถึงเรื่อง "จิตสำนึก" แล้วก้มานึกได้ว่าในการทำธุรกิจหรือค้าขายทั้งหลาย การที่จะมีสินค้าดี มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ดี ราคาเหมาะสม โปรโมชั่นโดนใจ เท่านั้นไม่พอทุกๆค่ายก็ต้องเพิ่ม "บริการ"ที่อาจจะเรียกได้ว่าสุดๆไปเลย เพื่อจะได้ครองใจลูกค้าไว้เปรียบเสมือน"ลูกค้าหาไม่ยาก แต่ยากตอนรักษาให้อยู่กับเรานานๆ" และการบริการจากจิตสำนึกก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถตรึงลูกค้าให้เกิดความประทับใจและบอกต่อในสินค้าหรือบริการนั้นนั่นเอง และจะมีโฆษณาใดดีกว่าลูกค้าที่เคยใช้สินค้าหรือบริการนั้นเป็นคนบอกกล่าวโฆษณาให้กับเพื่อนฝูง สังคม และคนรอบข้างละครับ เมือเดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมาผมได้เดินทางไปประเทศสเปน ซึ่งก่อนไปก็สั่งบริการแพคเกจอินเตอร์เน็ตแบบอันลิมิเต็ดไว้ซึ่งก็จะเป็นค่าบริการประมาณ 2000 กว่าบาท แต่พอไปถึงการเชื่อมต่อมีปัญหาก็โทรกลับมาที่ศูนย์บริการ พร้อมกับยกเลิกการใช้บริการแบบอันลิมิเต็ดไปซึ่งในการโทรเข้าศูนย์บริการนี้ไม่เสียค่าบริการ(ได้ใจไปหนึ่งดอก) เพราะต้องคุยกันนานมากๆ แต่พออีกสองสามวันการใช้งานก็ดีเป็นปกติก็เลยติดต่อศุนย์ฯใช้บริการแต่เป็นแบบปกติคือคิดตามเวลาและข้อมูล(GB) ทีนี้ก็มีเรื่องเกิดขึ้นคือว่า บางครั้งเราไปเชื่อมต่อโดยไม่ตั้งใจทำให้ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากประมาณ 10,000 กว่าบาทโดยที่เราไม่ทราบ แต่ด้วยจิตสำนึกในการบริการก็ได้รับโทรศัพท์เมื่อก่อนถึงงวดบิลค่าบริการจะส่งมาถึงแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทราบดีว่าเรากดโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะเป็นการเข้าใช้บริการครั้งละ ไม่กี่วินาทีเท่านั้นแต่เข้าบ่อยๆมากๆติดต่อกันซึ่งอาจะเกิดจากการเข้าโดยไม่ตั้งใจหรือระบบทางสเปนมีปัญหา เราก็คิดว่าตายละซิแล้วจะทำยังไงดียังไม่ทันได้เอ่ยปากเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า "ไม่เป็นไรครับเราจะแก้ไขให้เป็นการซื้อบริการแบบอันลิมิเต็ด(แบบย้อนหลัง)ให้" ผมเสียค่าบริการไปเพียงสองพันกว่าบาท โอ้พระเจ้าจอร์จเรายังไม่ทันเอ่ยปากต่อรองก็จัดการให้เราเรียบร้อยอะไรจะปานนั้น ไม่รู้ว่าค่ายอื่นจะมีการมอนิเตอร์และบริการลูกค้าอย่างค่ายนี้หรือไม่หรือว่าต้องรอให้ลูกค้าโวยวายก่อนค่อยลดค่าบริการลงให้ ผมเองคาดหมายว่าไม่ว่าราจะให้น้อยหรือมากต้นทุนของค่ายมือถือที่เค้ามีพันธมิตรกันอยู่ทั่วโลกคงจะเป็นการเหมาจ่ายมากกว่าซึ่งหมายความว่าต้นทุนที่ผมใช้บริการนั้นมันตายตัวแบบเหมาจ่ายอยู่แล้ว แต่ว่าการที่มีคนมอนิเตอร์และแก้ปัญหาให้เรานี่สิสุดยอดจริงๆครับ "เอไอเอส"




ไม่พ้นเรื่องมือถึงช่วงแรกเป็นโอเปอเรเตอร์ต่อไปนี้มาดูทางด้านฮาร์ดแวร์บ้างคือตัวโทรศัพท์มือถือ เห็นใครๆเขาก็ใช้ "สมารท์โฟน" แต่ไม่รู้ว่าคนใช้ SMART OR STUPID เพราะเครื่องทำฟังชั่นได้ 108 ประการ แต่เราใช้แค่ 8 ประการเองแต่งต้องจ่ายเกือบสองหมื่นเพื่อให้ดู "สมาร์ท" ไม่ว่ากันแต่พอซื้อมาก็รู้สึกแปลกๆเพราะว่า ถ่านมันหมดเร็วมากๆและไม่สม่ำเสทมอประมาณว่าบางวันสิบเอ็ดโมงก็หมดแล้ว บางวันอยู่ได้ถึงห้าโมงเย็นก็ทะแม่งๆอยู่ แต่ก็คิดว่าสงสัยเราเข้าอินเตอร์เน็ตมากไปมั้งจนมาระยะหลังๆนี่เครื่องมันแฮงค์บ่อยๆ จนถึงขั้นบางวันมันดับไปเอง มาจนถึงขั้นวันเกิดเหตุดับไป 5 ครั้งทนไม่ไหวต้องเอาเข้าศูนย์บริการไม่น่าเชื่อว่าค่ายนี้ยอดขายอันดับสองแต่ว่าศูนย์บริการเท่ารูหนูดีนะที่ไปตอนเค้าเพิ่งเปิดประตูบริการมีคนแค่สามคน เจ้าหน้าที่ก็โอเคและบอกว่าหนูเองก็ใช้รุ่นนี้อยู่ก็มีปัญหาคล้ายๆกัน ผมเอาเข้าศูนยบริการวันที่ 13 พย. 54 ซึ่งในใบรับก็แจ้งว่าประมาณ 2 สัปดาห์ พอครบสองสัปดาห์ก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนโทรมาแจ้งว่าอะไหล่ไม่มีต้องรอจากเมืองนอกใช้เวลาอีกสองสัปดาห์ก็ไม่ว่ากัน อีกอาทิตย์หนึ่งโทรมาอีกบอกว่าซ่อมไม่ได้จะเปลี่ยให้ใหม่เราก็ดีใจว่าจะได้เครื่องใหม่ให้ส่งเอกสารไปให้ แจ้งกลับมาว่าต้องใช้เวลาอีกสองอาทิตย์กว่าจะทำเรื่องเสร็จซึ่งยิ่งกว่าระบบราชการเสียอีกผมก็ไม่รู้ว่าเป็นระเบียบปฏิบัติของค่ายนี้หรือว่าเป็นความล่าช้าของเจ้าหน้าที่เองมันน่าจะปรับปรุงหรือไม่ครับ ในกรณีอย่างนี้ที่ลูกค้าส่งโทรศัพทย์มาซ่อมและพบว่าเครื่องมีปัญหาอย่างแรงทำไมไม่รีบบรรเทาหรือเยียวยาโดยพลัน ซึ่งโดยพลันของผมหมายถึงเมื่อส่งเอกสารไปให้ก็ให้นำเอกสารนั้นไปส่งฝ่ายต่างๆเซนต์อนุมัติหรือเบิกสินค้าผมว่าถ้าทำจริงๆวันเดียวไม่เกินสองวันก็เสร็จ ต้องคิดว่าเป็นเหตุการณ์วิกฤติของบริษัทลูกค้ากำลังโมโหสุดๆเพราะเสียเงินเกือบสองหมื่นแล้วซ่อม/เปลี่ยนเป็นเดือนๆ ถ้าตั้งใจจริงหรือเปลี่ยนระเบียบปฏิบัติได้ เจ้าหน้าที่คนที่รับเอกสารจากผม เดินไปเลยครับตรงดิ่งไปให้หัวหน้าเซนต์ ส่งต่อผู้จัดการ ผู้อำนวยการ ฯลฯ ก็ว่าไปแล้วเอาไปเบิกสินค้าที่คลังเลยครับ วันรุ่งขึ้นส่งเจ้าหน้าที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งให้ถึงที่ นี่ซิครับเรียกว่าบริการที่ไล่ล่าลูกค้าให้มาเป็นลูกค้าตลอดชีพ ไม่ใช่ "บริการที่ไล่ฆ่าลูกค้า" เพราะมันเป็นมือถึอ "ซัมซุง".................




ท่านทราบหรือไม่ครับหลายครั้งเราถูกบริษัทมือถือมันโกงเราอย่างหน้าด้านๆเพราะเราไม่เคยสั่งใช้บริการแต่มันมาคิดค่าบริการจากเราครับ เร็วๆนี้ผมได้รับข้อความสั้นจากค่ายมือถืออีกค่ายหนึ่ง(มีใช้สองเบอร์) ว่าคุณใช้บริการเสียงเรียกเข้า.......หากจะยกเลิกบริการจะต้องกด..... ซึ่งก็งานเข้าซิครับเพราะว่าผมไม่เคยสั่งใช้บริการอันนี้ ก็เลยโทรไปหาเจ้าหน้าทีคุยไม่ทันจบเพราะผมก็ยอมรับว่าตำหนิไปมากพอสมควร จู่ๆสายก็สัญญาณขาดหายไปแน่นอนเราเป็นผู้รับบริการก็ต้องคิดว่าเจ้าหน้าทีเค้าวางสายไป รอสักครู่เพราะคิดว่าน้องเค้าคงจะโทรมาใหม่(หากเป็นกรณีสายหลุด เพราะค่ายนี้สายหลุดบ่อยมาก) รอจนครึ่งชั่วโมงไม่โทรเข้ามาเราก็โทรกลับไป กว่าจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่นานๆมากๆกว่าที่ติดที่คอลเซนเตอร์นี้ซึ่งก็เป็นประจำของค่ายนี้เขาแต่ที่เรายังใช้อยู่ก็เพระว่าราคามันถูกนั่นเอง อิอิ... น้องเค้าบอกว่าไม่ได้วางสายพยายามชี้แจงกับเราว่าสายมันหลุดไปเองไอ้เราก็สวนกลับไปว่าถ้าสายหลุดแล้วทำไมไม่โทรกลับหาเรา 555 น้องเค้าบอกว่าไม่รู้เบอรโทรเรามันคงเห็นว่าเรามีนกเอี้ยงเกาะอยู่บนหลังมั้ง ก็เราโทรไปต่อว่าบริการคุณอยู่คุณจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเบอร์โทรเราเบอร์อะไรเพราะยังตอบเราอยู่เลยว่าเราสั่งใช้บริการริงโทนแต่อาจจะเป็นแบบว่าไปกดยอมรับ หรือเบอร์ตอบรับโดยไม่ได้ตั้งใจ(ซึ่งก็โยนไปว่าเป็นความผิดของผู้ให้บริการริงโทน) อึ้งไปเลยแบบว่าให้ข้อแก้ตัวที่ผูกมัดตัวเองเข้าไปอีกแกไม่ยอมขอโทษกลับแก้ตัวแบบน้ำขุ่นต่อไปว่าพยายามโทรแล้วแต่โทรไม่ติด 555 ใครเชื่อมั่งยกมือขึ้น ผมเลยถามต่อว่าถ้ามีจิตสำนึกจริงๆก็ส่งข้อความสั้นมาให้เราก็ได้ว่าเมื่อสักครู่สายมันหลุดไปไม่ได้วางสายและพยายามโทรกลับแล้วแต่ไม่ติดกรุณาโทรหา....ที่ศูนย์บริการและต่อ..... มีอีกร้อยแปดพันประการที่จะแก้ไขสถานะการณ์นี้ดีกว่ามาแก้ตัวแบบน้ำไม่มีโอกาสใสเลยถึงสองครั้งในเวลา 1 นาที ....หากใครต้องการรู้ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้เพราะได้อัดเทปการสนทนาไว้หมดเรียบร้อยแล้วครับ โดยเฉพาะผู้บริหารของ "ทรูมูฟ" ...........................







ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...