วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

“กว่าจะสำเร็จ”




                หัวข้อวันนี้ดูเหมือนจะเป็นนามธรรมมากๆและไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ”ธรรมะ”  เพราะว่าผมเป็นคนห่างวัด(พอสมควร)  แต่สืบเนื่องจากมีโอกาสได้ไปเป็นผู้ร่วมดำเนินรายการ  รายการ”รู้เท่ารู้ทัน” ทางไทยพีบีเอสมาแล้วสามครั้ง และคงได้มีโอกาสไปร่วมเป็นระยะตามแต่หัวข้อสนทนาจะเหมาะกับองค์ความรู้ที่เรามี    โดยหลักก็คือไปเป็นผู้รุ่วมสนทนาประเด็นต่างๆที่เป็นที่น่าสนใจในแต่ละช่วงเวลาของสังคมไทย  อันนี้ขอบอกว่าเป็นความฝันของผมที่เป็นไปตามหลักทฤษฎึของแมสโลว์  ลำดับขั้นที่ 5 คือ Self-actualization คือความสมบูรณ์ของชีวิต   ซึ่งหมายถึงอะไรที่บุคคลเป็นได้ เขาต้องเป็น” (“What a man can be, he must be.”) เป็นคำกล่าวของมาสโลว์ที่สรุปความหมายของความต้องการความสมบูรณ์ของชีวิตไว้ ความต้องการนี้ เกี่ยวกับ ศักยภาพสูงสุดของบุคคล และ การตระหนักถึงศักยภาพนั้น มาสโลว์อธิบายว่านี้คือความต้องการที่ปรารถนาจะเป็นมากกว่าที่เขาเป็นอยู่ เป็นความปรารถนาที่จะเป็นทุกๆอย่างที่เขาจะสามารถเป็นได้ (อ้างอิง วิกิพีเดีย : ลำดับขั้นความต้องการของแมสโลว) แต่สำหรับผมแปลง่ายๆก็คือ “ความอยากอันสูงสุด” อิออออ

                        ต้องขอบคุณน้องแจ้ส  ปุณชนิกา  ช่วยนุกิจ  จากไทยพีบีเอส  ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่สามเสนวิทยาลัยที่ให้เกียรติและตาถึง (หรือปล่าวไม่รู้  555 )  ที่ได้ชวนให้มาเป็นผู้ร่วมรายการ “รู้เท่ารู้ทัน”  รู้ไปด้วยกันกับไทยพีบีเอส   ซึ่งเป็นรายการสดไม่มีเทคสอง  เทคสาม  อะไรจะเกิดก็ต้องจัดไปแก้ไขไปตามสถานการณ์   น้องป้างซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการหลักเก่งมากทั้งๆที่ประสบการณ์อาจจะไม่มากเพราะดูจากอายุอานามแล้ว (สงสัยเราจะแก่จริงๆ)  ปกติไปรายการอื่นๆที่เคยมีประสบการณ์ในการออกทีวีอยู่บ้าง  ก็มักจะเป็นรายการที่บันทึกเทปสามารถตัดต่อและแก้ไขได้  แต่เมื่อเป็นรายการสดนั้น  แถมมีรายการทุกวัน จันทร์-ศุกร์ ด้วยแล้ว  ต้องขอบอกว่าน้องแจ้สและทีมงานยอดเยี่ยมจริงๆ  ทำให้เห็นภาพว่าแท้จริงแล้วความสำเร็จของรายการนั้นแน่นอนผู้ดำเนินรายการซึ่งเป็นฉากหน้าของสินค้าตัวนี้  ถ้าจะเปรียบไปแล้วก็เหมือนพนักงานขายที่เป็นผู้บรรยาย แนะนำสินค้าให้กับลูกค้าก็คือคนดู   ต้องมีความสามารถอย่างสูงเพรียบพร้อมไปด้วยทักษะและไหวพริบ  แต่ใครจะหารู้ไม่ว่าทีมงานเบื้องหลังก็มีความสำคัญ  ไม่ใช่แค่ไม่น้อย  แต่  น่าจะสำคัญเท่าๆกันเรย  ไม่ว่าจะเป็นทีม  ข้อมูล ประสานงาน  สคริป  เนื้อหา  คอมพิวเตอร์กราฟฟิค  ช่างกล้อง  ผู้กำกับเวที  แสง เสียง  แต่งหน้าทำผม  ฯลฯ  ก็เปรีบเสมือนกับ  ฝ่ายผลิต  ฝ่ายบริการลูกค้า  บรรจุ  ขนส่ง การเงิน บัญชี สื่อสารองค์กร  ลูกค้าสัมพันธ์  ฯลฯ  ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จะสนับสนุนให้การสินค้านั้นขายได้  และ ทำให้พนักงานขาย “ขายสินค้า” ได้  นั่นเอง
                        ดังนั้นในการบริหารองค์กรก็อย่าเพียงแต่ให้ความสำคัญกับด่านหน้า  หรือ ขุนพล ในด้านการขายการตลาดแต่เพียงอย่างเดียว  ต้องเห็นความสำคัญ ให้โอกาส ให้รางวัล  ชมเชย หรือแม้แต่กล่าวถึง  เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทีมเบื้องหลัง  ทีมสนับสนุน  ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้ขุนพลนั้นรบชนะในสมรภูมิรบทางธุรกิจที่เข้มข้น แล้วคุณจะเห็นว่าองค์กรไหลลื่นและประสบความสำเร็จมากขึ้นเพราะ  โค้ช หรือ ผู้จัดการ เห็นความสำคัญของผู้เล่นทุกตัว  ทั้งที่อยู่ในสนามและตัวสำรองที่นั่งอยู่ขอบสนามเพราะเป็นตัวตามตัวแทน หรือตัวแปลี่ยนเกมส์ได้เรยครับ  

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...