พร่ำบ่น
...ก่นด่า...แต่ไม่หาทางออก
23 พฤษภาคม 2568
ปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก
“โควิด19” จากปลายปี 2019 จนทำให้ต้องปิดประเทศงดการเดินทางในปี 2020-2021
สองปีเศษที่ธุรกิจหยุดชะงัก พอจะเริ่มฟื้นตัวก็มามีสงครามยูเครนกับรัสเซีย สงครามอิสราเอลกับฮามาส ต่อด้วยมาตราการทางภาษีของประธานาธิบดีผู้บ้าคลั่ง
“ทรัมป์” ยิ่งตอกย้ำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ชลอตัว จนเกือบจะอยู่ในภาวะถดถอย เรียกได้ว่ากว่าจะถึง 2030 ในอีก 5 ปีข้างหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีปัญหาหมักหมมมาไม่ว่าจะเรื่อง
การศึกษาที่ผลิตบัณฑิตผิดพลาด ประชากรสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ขาดแคลนแรงงาน ความมั่นคงทางการเมือง การแตกแยกทางความคิด และที่สำคัญที่สุด “การคอรับปชั่น”
ที่วันนี้หันไปทางไหนก็จะพบ ทหารขายปืนเถื่อนในค่ายทหารที่ภาคใต้ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงโอนเงินให้สีกา 300
ล้านบาท (ปิดจ้อปน่าจะเป็นพันล้านหรือไม่)
หมอโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งให้คนไข้เวียเทียนมาแล้วจ่ายยาเพื่อนำยาไปขาย อัยการทุจริตรับเงินทองและช่วยลูกบอส ตำรวจไม่ต้องพูดถึง 55555 ผอ.โรงเรียนอมเงินค่าอาหารกลางวันเด็ก ไม่เว้นแม้แต่ผู้พิพากษาเร็วๆนี้โดนไล่ออกไป 3 คน
แต่เราจะไม่ “ พร่ำบ่น ...ก่นด่า...แต่ไม่หาทางออก “ เพราะบทความนี้จะนำเสนอมุมมองที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการท่องเที่ยว ที่ดูเสมือนว่าในปี 2568 นี้จะยังคงเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่ยังพออยู่ได้ แต่ไม่ค่อยมั่นคงเสียแล้วเพราะคู่แข่งทั้งรอบบ้าน และรอบโลก
ก็คิดเหมือนกันว่าเป็นอุตสาหกรรม QUICK WIN คือขายได้ปั๊บรับเงินเรย และทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินนั้นในทันที
หมายถึงว่าเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในบ้านเรา
เป็นค่า อาหาร เดินทาง ที่พัก ของที่ระลึก
ฯลฯ
ผู้ประกอบการก็นำเงินนั้นไปใช้ต่อได้ทันที่ทำให้เกิดการหมุนเวียน 1.5-3.0 รอบ
จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
เพราะหากเป็นอุตสาหกรรมการผลิตแล้วต้องมีกระบวนการสั่งซื้อวัตถุดิบ การผลิต
การส่งมอบการส่งออก
การจัดจำหน่าย กว่าจะถึงผู้บริโภคก็ใช้เวลานานและหากผิดพลาดขายไม่ออกก็จะมีต้นทุนจมอยู่ในสต้อกสินค้านั่นเอง
แล้วนักท่องเที่ยวเติบโตขึ้นหรือไม่
?? โดยภาพรวมแล้วก็ต้องบอกว่าเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยสาเหตุ
เรื่องความปลอดภัย ราคาค่าใช้จ่า รวมทั้งทัศนคติของคนไทยต่อ นทท.จีน ฯลฯ
ซึ่งท่านคงได้อ่านหรือฟังบทวิเคราะห์ที่หลากหลายมาแล้ว
แต่ลืมไปอย่างหนึ่งที่ “แหล่งท่องเที่ยว” บ้านเรามีอะไรใหม่ๆในรอบ 10-20
ปีที่ผ่านมาบ้าง ?????????
คำตอบคือไม่มีอะไรใหม่ เราขายของเก่า ขายวัฒนธรรม ขายแหล่งธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแต่ก็อาจจะขาดแรงดึงดูด สำหรับสถานทีท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เรียกว่า MAN MADE
DESTINATION
วันนี้หากเรามองไปที่เวียดนามที่พัฒนาการท่องเที่ยวในรอบ
10 ปีนี้อย่างต่อเนื่องและไปในทิศทางเดียวกันและต่อเนื่อง อีกทั้งค่าใช้จ่ายยังมีราคาถูก ทัวร์ไปเที่ยวเวียดนาม 10000บาท เศษๆ
ช่วงโปร ไม่ถึงหมื่นถูกกว่าไปภูเก็ตเสียอีก ทำให้จำนวนักท่องเที่ยวในปี 2024 มีถึง
17.5 ล้าน และว่างแผนว่าในปี 2030
จะมีนักท่องเที่ยว 30 ล้าน เพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว
บ้านเราทะเลาะกันมาว่าภูกระดึงควรมีกระเช้าหรือไม่ตั้งแต่ผมเรียนปี
1 เมื่อ 2521 ผ่านมา 47 ปีเมื่อสัปดาห์ก่อน
ครม.เพิ่งอนุมัติงบศึกษาการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง
รอจนหลานเข้ามหาวิทยาลัยไม่รู้ว่าจะมีกระเช้าหรือไม่ !!!!
ในขณะเวียดนามได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่บานานาฮิลล์
ซาปา
เกาะฟูก๊วก ซึ่งเดิมเป็นป่าเขาลำเนาไพร
ตอนนี้ใครๆก็อยากไปฟูก๊วก
ทั้งหลายนี้เป็น MAN MADE
DESTINATION ทั้งสิ้น มีกระเช้าพานักท่องเที่ยวเดินนทางด้วยความสะดวกสบาย
สำหรับประเทศจีนแล้วเรียกได้ว่าเดินทางท่องเที่ยวตลอดชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะทั่วทุกแห่งในประเทศจีนหรือไม่ แต่ลองมาดูที่อยู่ใกล้ๆประเทศไทย คือ จูไห่
ที่อยู่ติดกับมาเก๊าข้ามชายแดนไปก็จะพบกับ สวนสนุกใหญ่ที่สุดในโลก Chimelong Ocean Kingdom (ฉางหลง
โอเชี่ยน คิงดอม) ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปไม่ขาดสายเพราะมีที่เที่ยวเรียกได้ว่าอยู่ในฉาลหลง สามวันสามคืนไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ได้ แถมไม่ต้องมีคาสิโนก็สามารถถึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน เพราะมีกิจกรรมให้เล่นได้ทั้งสามวันสามคืน ที่แปลกแตกต่างก็คือการนอนในอความเรียม ที่ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลกนั่นเอง
ผมไปสิงค์โปรครั้งแรกเมื่อปี
2525 ทัวร์พาไปดูการกรีดยาง !!!!!
ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นผู้ส่งออกยางพาราแม้แต่น้อย
พอมีสวนยางอยู่เล็กน้อยแต่ก็สร้างกิจกรรมให้คนไม่เคยดูได้ไปดูการกรีดยา ไปอีกครั้งในปี 2527 ไปฮันนีมูน ก็มีแต่สถานที่ท่องเที่ยวดั้งเดิม เช่น เมอร์ไลอ้อนพ่นน้ำ เซนโตซ่า
มีน้ำพุเต้นระบำ แต่ 40 ปีผ่านไป
มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง นับไปนับมานับไม่ถ้วน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็น MAN MADE DESTINATION
เพราะสิงค์โปรไม่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่มีจุดขายทางวัฒนธรรม ดังนั้นจึงต้องสร้างขึ้นไม่ว่าจะเป็น
มีมารีน่าเบย์แซนด์
ArtScience
Museum การ์เด้นออฟเดอะเบย์ จีเวล(Jewel) สิงคโปร์ฟลายเออร์
(Singapore Flyer) River Wonders หรือในชื่อเดิมคือ River Safari Universal
Studios Singapore
ลองนึกดูว่าในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาเรามี แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อะไรบ้าง ???? เอ็นเทอร์เทนเมนท์
คอมเพล็กซ์
รีบๆสร้างเถอะพ่อคุณไม่ต้องมีคาสิโนก็ได้ หรือ ถ้ามีก็แค่ สร้างกฎเกณฑ์ “ห้ามคนไทยเข้า”
ผู้ที่เห็นต่างก็ไม่มีข้ออ้างในการไม่เห็นด้วย แต่...... จะไปขัดกับผลประโยชน์ในด้านอื่นๆ
หรือไม่ ก็ลองพิจารณาดูเด้อ....พี่น้อง...............
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น