บอกต่อไม่รอแล้ว..... นะจ๊ะ
11 กุมภาพันธ์ 2568
ทุกวันนี้มีธุรกิจเกิดใหม่อยู่เกือบทุกวัน และในทิศทางที่กลับกันก็มีธุรกิจที่ล้มหายตายจากไปสารบบ ทั้งนี้ก็มีหลายๆสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นอยู่ไม่ได้ อาจจะเป็นสินค้าที่ยุคสมัยนี้ไม่มีใครใช้แล้ว หรือมีคนใช้งานน้อยลงทุกๆวัน เช่นจักรเย็บผ้า กระดานดำ ช้อคเขียนกระดานดำ หรือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้สินค้านั้นๆ ไม่มีคนใช้งานอีกแล้ว เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องโรเนียว เทปม้วน ซีดี วีดีโอ เป็นต้น ซึ่งหากเป็นสองเรื่องนี้ก็คงไม่สามารถทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากเป็นธุรกิจที่ยังคงมีความต้องการสินค้านั้นอยู่ สินค้ายังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่ก็มีผู้ผลิต บริการ ที่เรียกว่าซัพพลายมากมาย แต่สิ่งที่จะช่วยจรรโลงให้ธุรกิจนั้นอยู่ยืนยาวขึ้นก็คือเรื่องของความใสใจทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น การผลิต คุณภาพ การบริการ และ ดูแลเอาใจใส่ลูกค้า
ขออนุญาตินำโพสของน้องปัทที่ได้โพสข้อความนี้ในเฟสบุ๊ค ผมไม่ได้ปรับ ตัดแต่ง เอามาแบบ 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งผมอ่านแล้วเห็นว่าน่าจะนำมาขยายความให้กับผู้บริหารทุกท่านเพื่อเป็นแนวคิดในการพัฒนา ต่อยอดให้กับองค์กรของท่านต่อไป ดังนี้
โพสต์นี้ยาวหน่อย แต่ Make my day heel ❤️ มากๆค่ะ 😁
ขอเขียนชื่นชม Amazon สาขารังสรรค์เหนือ (ข้างสนง.ประกันสังคมเขต 7) ประชานิเวศน์ 1 ค่ะ คุณพ่ออยู่บ้านคนเดียว แต่อยู่ในช่วงใส่เฝือกเพราะอุบัติเหตุพลัดตกจากที่สูง ทำให้กระดูกขาร้าว ตอนเช้าคุณพ่อต้องทานยาหลังอาหารเช้า แต่ไม่สามารถออกไปซื้อได้ คือถ้ารอแม่บ้าน แม่บ้านจะมาก็เกือบ 11 โมง ส่วนตัวเองอยู่อีกที่ จึงโทรหา amazon สาขานี้ซึ่งเป็นสาขาใกล้บ้านและเคยใช้บริการเพื่อสั่งกาแฟ 1 แก้วและแซนด์วิชเพราะเคยใช้บริการ delivery อยู่ จึงเข้าใจว่าร้านส่งให้ตามปกติ แต่ทางร้านแจ้งว่าต้องสั่ง 6 แก้วจึงจะให้บริการ delivery ได้ อันนี้เข้าใจได้ค่ะ จึงแจ้งไปว่ารบกวนขอความช่วยเหลือช่วยส่งให้คุณพ่อหน่อยโดยแจ้งเหตุผลไปตามข้างต้นและแจ้งร้านไปว่าให้คิดค่าบริการส่งของมาได้เลย ทางร้านแจ้งว่างั้นไม่เป็นไร เด่วทางร้านจะไปส่งให้โดยไม่คิดค่าส่งเป็นกรณีพิเศษเพราะเป็นผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะขาหัก สุดท้ายทางร้านได้ส่งกาแฟร้อนและแซนด์วิชให้คุณพ่ออย่างรวดเร็วและเรียบร้อย
เรื่องที่สองคือในช่วงเวลาเดียวกันนี้ผมได้ไปเยี่ยมลูกค้าที่ปีนัง เข้าพักที่โรงแรมที่ปีนัง G hotel Kelawei เค้าเอาใจใส่ลูกค้าที่เรียกได้ว่าต้องประทับใจจริงๆจนต้องนำมาขยายความ คือ ช้อตแรกตอนเช็คอินหลายโรงแรมก็จะมีน้ำส้ม น้ำผลไม้ให้ดื่มแก้กระหาย แต่ที่โรงแรมนี้เป็นไอศครีมต้อนรับแทน นี่ถ้าตอนเช็คเอ้าท์มีไอศครีมบ้ายบายแทนละก็....ฮื่มมม เข้าไปถึงห้องพักปรากฏว่ามี PILLOW MENU ให้ด้วยเรียกว่าต้องการหมอนแบบไหน ไม่ว่าจะแข็ง นิ่ม ฯลฯ จัดให้ ผมคาดเดาว่าอาจจะบันทึกในประวัติหรือไม่แล้วครั้งหน้าก็จัดหมอนแบบที่เคยร้องขอนี้ให้เรยพร้อมกับจดหมายน้อยว่า “ทราบว่าครั้งก่อนท่านได้เคยแจ้งขอหมอนแบบXX การเช็คอินครั้งนี้จึงขอจัดเตรียมหมอนแบบ XX ไว้ แต่หากท่านจะเปลี่ยนแปลงกรุณาแจ้งที่ YYY “ คิดเผื่อให้นะจ๊ะสุดยอดแน่ๆเรยครับ เพราะกลยุทธ์นี้โรงแรมโอเรียลเต็ลกรุงเทพ ได้เคยจัดทำมาแล้วจร้า
ปกติของในตู้เย็น มินิบาร์ในโรงแรมจะแพงมากจนเราต้องไปซื้อจากร้านสะดวกซื้อมาใส่เพื่อบริโภค แต่ที่โรงแรมนี้ของในตู้เย็นกินได้หมด....... ฟรี ทีแรกนึกว่ามีชุดเดียวหมดแล้วหมดเรย แต่ปรากฏว่าทุกวันเติมส่วนที่เรากินดื่มเข้าไป โอ้ย... ประทับใจครับจนต้องมาบอกต่อ
เท่านั้นไม่พอมีจักรยานให้ยืมขับเล่นไปยังย่านเมืองเก่าที่เป็นรูปคนขึ่จักรยานที่เป็นไอโคนิคของปีนังที่เป็นรูปภาพบนผนังที่เราคุ้นเคยดี ประทับใจไม่รู้ลืมครับ ครั้งต่อไปที่ไปปีนังจะไปพักที่ไหนดี............ ของผมขอยืนยัน G hotel Kelawei แน่นอนครับท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น