วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560

“ SALE BUT …NOT SEE “



              






                 อาชีพ “นักขาย”  ใครๆก็เป็นได้  แต่ว่าจะเป็นแล้วให้ประสบความสำเร็จ  คงมีองค์ประกอบที่ต้องใช้ในการพัฒนาทักษะ  และ ต้องมีมุมมองของนักขายแบบมืออาชีพ    สำหรับน้องใหม่ในวงการนักขายมักจะถูกปลูกฝังว่าให้ปิดการขายในครั้งแรกที่พบกัน      จริงอยู่มันเป็นความท้าทายที่มีความเสี่ยงพอสมควรทีเดียว  เพราะว่าการจะปิดการขายได้ในครั้งแรกที่พบกันนั้นอาจจะประสบความสำเร็จ    สำหรับสินค้าที่ “นักขาย” เป็นแค่ “ผู้ให้บริการ” เท่านั้น   เช่น  ขายของในเซเว่น   ขายข้าวแกง  ขายอาหาร ฯลฯ  ที่เรียกว่าคนซื้อพร้อมที่จะซื้ออยู่แล้ว  เพียงแต่เข้ามาเลือกสี  ขนาด  ฯลฯ นักขายจึงเป็นแต่เพียงผู้บริการในการขายเท่านั้น  คือทำให้ลูกค้าประทับใจในบริการ  มิต้องใช้ทักษะในการขายเสียเท่าใด   อาจจะมีมีบ้างที่คอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ
            แต่มีสินค้าบางประเภทที่นักขายจำเป็นต้องใช้ทักษะ  ความชำนาญ  และการสังเกตุ  ว่ามี  “สัญญาณซื้อ”  หรือไม่   ถ้ายังก็อย่าเพิ่งรีบปิดการขาย    หรือลูกค้าเพียงแต่เดินเข้ามาเล่นๆ  สอบถามข้อมูล  ก็จะพยายามปิดการขายอยู่นั่นแหละ    หรือแม้แต่บางครั้งลูกค้าตั้งใจมาซื้ออยู่แล้วเพียงแต่รอเปรียบเทียบกับอีกยี่ห้อหน่อย   ก็พยายามปิดการขายให้ได้  โดยที่ไม่สังเกตุสัญญาณการซื้อหรือ   ดูว่าลูกค้ามีความรำคาญหรือไม่ในบทสนทนาที่กำลังดำเนินการอยู่    จะขอยกตัวอย่างเรื่องจริงสุดๆที่เกิดเมื่อวานนี้  .......น้องเค้ารีบมากๆจนลืมการดูแลลูกค้าให้เป็นลูกค้าถาวร.......เรื่องมีอยู่ว่า
            เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมตั้งใจว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสแห่งหนึ่งที่เซ็นทรัล  แจ้งวัฒนะ   เพราะอยากกลับไปเล่นโยคะอีกครั้งหนึ่ง  เนื่องจากการวิ่งมากๆแล้วหัวเข่ามันเจ็บก็เลยจะกลับมาเล่นโยคะเพราะคงเหมาะกับอายุเรามากว่า  นินิ     
พอนั่งลงปุ๊บน้องเค้าถามว่า    “พี่สนใจสมัครแบบไหนดีคะ”  โอ้ว  ยังไม่แนะนำสินค้าเรย   จะปิดการขายซะแระ    ปิดครั้งที่ 1
เรา  “ โยคะมีวันละกี่คลาส”     เธอ  ก็ตอบโน่นนั่นนี่  ไม่ตรงประเด็นซักที  เราเองก็บอกว่า “บ้านอยู่ตรงข้ามนี่เอง (คือแนวโน้มน่าจะสมัครที่นี่แน่ๆเพราะเดินเข้ามาเอง ไม่ใช่มาจากโปรโมชั่นใดๆทั้งสิ้น ) “   ไม่เป็นรัยอาจจะเป็นน้องใหม่   เมื่อก่อนน้าก็เป็นแบบนี้แหละ
            น้อง  “ พี่เล่นโยคะมานานหรือยัง “  “เล่นที่ไหน “   เล่นได้ระดับใดแล้ว “   โอ้ย  ฟังน้าพูดก่อนดิ  เพราะเธอยิ่งคำถามมาในขณะที่เรา พยายามจะสอบถามว่า     รายละเอียดเกี่ยวกับคลาสโยคะ   เกี่ยวกับสาขา  และ อัตราค่าสมาชิก   นักขายต้องฟังให้มากกว่าพูดและรอพูดในโอกาสที่ลูกค้าอยากฟัง  อิอิ......
            น้อง  “ อัตราค่าสมาชิกมีแบบ  5 เดือน ราคา......12 เดือน ราคา.......จ่ายตัดบัครเครดิตรายเดือน  บลา ๆๆๆ 
            ยังไม่ทันจะถามว่า    “มีค่าแรกเข้าหรือไม่ (เห็นมีอยู่ในโบรชัวร์) “ 
            น้อง “แต่ถ้าตัดสินใจวันนี้นะคะ  หนูคิดค่าแรกเข้าแค่ ......  (ลดไปบานตะไทคะ) “  
            เรา   ......ก็ถามโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ๆ  เพราะมีความสงสัยอะไรประมานนี้    ซึ่งเดิมตั้งใจมาสมัครเรยนะนี่ แต่เจอการขายแบบนี้  เลยบอกไปว่า    เดี๋ยวขอไปดูรายละเอียดของ ฟิตเนส....ที่รัชโยธินก่อนค่อยตัดสินใจ”
            น้อง    ได้คะ.....งั้นเชิญศึกษารายละเอียดนะคะ  หนู ...ขอตัวก่อน “
        อุแม่เจ้า ......การที่เราไม่ตัดสินใจซื้อในวันนี้นี่เป็นความผิดของเรา  ถึงขนาดที่เธอจะจากไปอย่างไม่ใยดีเรยเหรอ    แล้วเธอก็เอาโบรชัวร์ที่มีรายละเอียดที่คุยกัน  มีการเขียนราคา  โปรโมชั่นไปด้วย  หายเข้าไปด้านหลัง    เราก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้จดอะไรไว้เลยจึงเข้าไปขอเอกสารโบรชัวร์อันนั้นเก็บไว้ไปเปรียบเทียบ
            น้อง  “ อันนี้ให้ไม่ได้คะ  หนูต้องเก็บไว้เป็นข้อมูล”
            เรา  “ แน่ใจเหรอ !!   งั้นพี่ขออันที่ยังไม่ได้เขียนอะไรก็ได้  เพราะคิดว่าทางฟิตเนสคงแจกให้นะครับ”
            น้อง  หายเข้าใบในห้องแล้วก็หยิบใบที่เธอบอกว่าให้ไม่ได้ต้องเก็บไว้เป็นข้อมูลมาให้เรา.............
            จบข่าว.......................แม้เราจะเป็นสมาชิกที่ฟิตเนสนี้ก็คงไม่สมัครกับ  ....นาง....เป็นแน่  เพราะนางคงไม่ดูแลเราหลังจากจบการขายเป็นแน่แท้  นางมองแต่ประโยชน์ที่นางจะได้รับจากการขายเพียงอย่างเดียว
            อย่าลืมว่า  .....ไม่ซื้อวันนี้  ....อาจซื้อวันหน้า......  ไม่รู้ใครสอนน้องมาให้รีบปิดการขาย  และ ไม่สนใจลูกค้าถ้าดูแล้วว่า   “คงไม่ซื้อวันนี้”    ...........................เค้าอาจจะซื้อ  “วันหน้าก็ได้นะนู๋”
            อ้อ.................และถ้าน้าจะไปสมัครที่นี่   น้าก็   “ไม่สมัครกับนู๋ นะจะบอกให้” 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...