เวลานักบริหารธุรกิจใหญ่ๆแสวงหากลุ่มเป้าหมายทางการตลาด
มักจะเลือกแหล่งหรือเป้าหมายใหญ่ๆที่มีปลาอยู่มาก
เพราะคิดว่าอย่างไรเสียก็สามารถตกปลาได้ในจำนวนที่มากพอต่อการลงทุนเป็นแน่แท้ จนหลงลืมตลาดบางส่วนที่คู่แข่งขันหลายคนมองข้าม แต่ก็มีนักการตลาด
นักบริหารหลากหลายองค์กรที่มองตลาดในมุมที่กลับกัน โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดที่เป็นส่วนน้อย (NICH MARKET ) หรือมุ่งตลาดต่างจังหวัดเพราะคิด (เอาเอง)
ว่าไม่มีกำลังซื้อ แน่นอนครับถ้ากำลังซื้อต่อหัวแล้วคงไม่สามารถเทียบกรุงเทพมหานคร
หรือเมืองใหญ่ๆที่เป็นหัวเมืองหลักได้
แต่หากเอากำลังซื้อของแต่ละคนคูณด้วยจำนวนคนก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนและแสวงหาตลาด
อีกทั้งตลาดเหล่านี้คนจะลงมาเล่นน้อยเพราะใครก็มุ่งตลาดกรุทเทพ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ จนหลงลืมกลยุทธ์ทางการตลาดทีเรียกว่า “ป่าล้อมเมือง”
ผมขับรถผ่านถนนพระรามสองเพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวหลายครั้งก็สังเกตุเห็นมีร้านค้าปลีกค้าส่งขนาใหญ่โต ทำธุรกิจวัสดุก่อสร้างและวัสสดุตกแต่งบ้านแบบเดียวกัน
โฮมโปร หรือ ไทวัสดุ
แต่ก็ไม่เห็นว่ามีสาขาอื่นๆกระจายตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร ก็เลยสงสัยว่า “ดูโฮม” ออเจ้าเป็นใครมาจากที่ใดไหงมาโผล่ที่พระรามสองของข้าได้ บัดนั้นจึงได้ไปค้นหาข้อมูลว่าสูเจ้าเป็นใครมาจากไหนจึงถึงบางอ้อ จุดเริ่มต้นของ “ดูโฮม”
เป็นบริษัทจากต่างจังหวัด คือ บริษัทอุบลวัสดุจำกัด โดยมีฐานที่มั่นตามชื่อบริษัทเรยครับ สาขาแรกที่อุบลราชธานี แล้วต่อด้วย นครราชสีมา แวะมาแตะๆ กทม ที่
รังสิต บุกไปขอนแก่น อุดร
แวะมาพระราม 2 ตี กทม.ด้านตะวันตก
บางบัวทอง เชียงใหม่ รวมแล้วปัจจุบันมี 8 สาขา
มีพื้นที่ขายรวมกันถึง 600,000 ตารางเมตร
ยอดขายไม่เบาครับ 14,000 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มเป็น 22,000 ล้านบาทในปี
2560 ไม่กลัวขาใหญ่ทั้ง “โฮมโปร” และ “ไทวัสดุ” นอกจากนี้แล้วในปัจจุบันมีการขายผ่านออนไลน์ไม่แพ้ขาใหญ่ทั้งสองอีกด้วย
ลองเข้าไปดูในเว็บก็เก๋ไก๋ไม่เบาค้นหาสินค้าได้ง่ายซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์ประสบความสำเร็จ
อย่ากระนั้นเลย.............เลี้ยวรถเข้าไปดูเขาหน่อยว่าหนุ่ม
ตจว.จะมีหน้าตาเก๋ไกชวนหลงไหลเหมือหนุ่มเมืองกรุงเฉกเช่น “โฮมโปร”
หรือไม่อย่างไร
ต้องขอบอกว่านี่เป็นเพียงทัศนคติของการแวะชมที่สาขาเดียวคือ
สาขาพระรามสองเท่านั้น ก็นับว่าเก๋ไก๋ไม่เบาแต่ก็ไม่ถึงกับชวนหลงไหลและฝันถึงเหมือน “โฮมโปร”
แต่อย่างไรก็น่าสนใจกว่า “ไทวัสดุ”
ที่ผมก็เคยแวะแค่สาขาเดียว สาขาแจ้งวัฒนะ
ซึ่งไม่ประทับใจเลยเพราะว่าจัดเหมือนโกดัง
แสงก็ไม่ชวนทำให้เดิน
ของในชั้นนี้ฝุ่นจับเลยขอบอก
(ขอย้ำว่าแค่สาขาเดียว)
ส่วนโฮมโปรนั้นแวะบ่อย แวะหลายสาขา
มันน่าหลงไหลกว่าชวนเดินกว่าแต่อย่างว่าแหละครับหากต้องการวัสดุ / สินค้า
ในปริมาณมากๆราคาคงเป็นเรื่องที่ต้องสนใจ
ใส่ใจมากกว่าอารมณ์แบบว่าแวะไปซื้อก้อกน้ำหนึ่งตัวเป็นแน่ นั่นคงเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของ “ดูโฮม” แบบว่า ลูกค้าซื้อประมาณไม่ใช่ตกแต่ง /
ปรับปรุง เล็กน้อย แต่ต้องขนาดว่ารีโนเวทบ้าน หรือ สร้างบ้านใหม่แหละ แบบจัดหนัก / จัดเต็ม คงเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนกว่า
สุดท้ายแล้วก็ต้องมาดูที่ ยอดขาย/
พื้นที่ขาย และ กำไร/ การลงทุน
ที่เรียกว่า ROI นั่นเอง ว่าแบบใดจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เพราะบางบริษัทเท่ห์แต่กินไม่ได้เพราะเห็นมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายๆราย ดูดีมีชาติตระกูลแต่ ยอดขาย กำไร
ผลตอบแทนน้อยกว่าหลายๆบริษัทที่เป็นแบบบ้านๆ เสียอีก.....
ชอบแบบไหนก็เลือกเอานะครับ ....@