ทุกๆสี่ปีจะมีการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งเป็นกีฬาที่มีคนเผ้าติดตามมากที่สุดในโลก การแข่งขันฟุตบอลถือเป็นรายการโทรทัศน์งานแข่งขันกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก
โดยมีผู้ชมรวมในทุกนัดการแข่งขันของฟุตบอลโลก 2006 มีราว 26.29
พันล้านคน และมีมีผู้ชม
715.1 ล้านคนเฉพาะในนัดตัดสิน ซี่งนับว่ามากกว่าการแข่งขันโอลิมปิคเสียอีก ทั้งที่มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันเพียง 32 ทีม
เท่านั้นถ้านับแมทช์การแข่งขันแล้วจะมีเพียง
111 แมทช์เท่านั้น แต่ในปี 2026 จะมีทีมเข้าแข่ง 48
ทีม
เพิ่มจากจำนวน 32 ทีมในปัจจุบันซึ่งก็จะทำให้แมทช์การแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ
และไปรษณีย์ไทยคือผู้ที่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจากฟุตบอลโลกมากที่สุดเพราะสามารถขายไปรณียบัตรได้ถึง
200 ล้าน กำไรเกือบจะเนื้อๆ 400
ล้านบาท
จนอยากให้มีการแข่งขันทุกสองปีเลยทีเดียว
และแน่นอนในการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่มีผู้ชมทั้งในสนามและทางทีวีอยู่เป็นพันล้านคนขนาดนี้ ย่อมต้องมีธุรกิจต่างๆสนใจมาเป็นสปอนเซอร์ แต่ในการแข่งขัน 2018
ครั้งนี้เราจะเห็นแปลกกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา จะมีสินค้าจากจีนมาเป็นสปอนเซอร์มากขึ้น โดยปกติแล้วเราจะเห็นสินค้าจีนเช่น หัวเหว่ย
ไฮเออร์ เลอเนอโว
ซึ่งไม่แปลกอะไร
แต่ที่เราให้ในจอทีวีซึ่งเป็นป้ายข้างสนาม และ
ที่แบคดร้อปเวลาทีมต่างๆแถลงข่าว ก่อนและหลังการแข่งขัน จะเป็นทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษซึ่งชื่อก็ไม่คุ้นหูเราเสียเท่าใด ลองดูว่าฟีฟ่าแบ่งระดับของสปอนเซอร์เป็นสามระดับ คือ ระดับพาร์ทเนอร์
หรือเรียกได้ว่าผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ
ได้แก่ โค้ก อาดิแดส เกีย / ฮุนได
และวีซ่า ซึ่งเป็นรายเก่าๆ แต่ปีนี้เราเห็น การ์ต้าแอร์เวย์ ซึ่งมาแทน
อิมิเรสต์อันนี้ไม่แปลกเพราะอีก 4 ปี คือ 2522
การแข่งขันฟุตบอลโลกก็จะไปแข่งที่ประเทศการ์ต้านั่นเอง อีกสองธุรกิจที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย ได้แก่
GAZPROM เป็นบริษัทพลังงานจากประเทศรัสเซียเจ้าภาพนั่นเอง และจากจีน
WANDA GROUP ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักเสียเท่าใดเพราะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจหลากหลายมาก ในหมวด “ธุรกิจวัฒนธรรม” กลุ่มธุรกิจภาพยนต์ กลุ่มธุรกิจสวนสนุกสำหรับเด็ก กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และกลุ่มสุดท้ายคือ “ธุรกิจ กีฬา” โดยเป็นผู้จัดการแข่งขันกีฬา นอกจากนี้ยังมีธุรกิจในหมวดอสังหาริมทรัพย์ หมวดธุรกิจการเงิน และ หมวดธุรกิจการบริหารจัดการองค์กร มีธุรกิจทั้งในประเทศจีน และ ทั่วโลก
ติดอันดับ ฟอร์จูน 500
นับว่าเป็นบริษัทระดับโลกที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยเสียเท่าใด หากต้องการรู้จักเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซท์ www.wanda-group.com
นอกจากนี้แล้วยังมีสปอนเซอร์ระดับรองลงมากอีก 5 ธุรกิจ
ซึ่งสามในห้า คือสินค้าจากจีน
ได้แก่ HISENSE เครื่องใช้ไฟฟ้า VIVO
โทรศัพท์มือถือที่มียอดขายอันดับสี่
รองจากซัมซัง ไอโฟน และหัวเหว่ยนั่นเอง
และ สุดท้ายคือ MENGNIUซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องดี่มโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นม
สปอนเซอร์ระดับที่สามคือ
เป็นระดับภูมิภาคมีสี่ธุรกิจเป็นสัญชาติจีนหนึ่งธุรกิจ คือ YADEA
เป็นธุรกิจมอเตอร์ไซค์ จะเห็นได้ว่าจากสปอนเซอร์ทั้งหลาย 15 สินค้า
เป็นจีนเสีย 5 สินค้า นับเป็น 31.25%
แต่ถ้าในบรรดาสปอนเซอร์นั้นตัดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฟีฟ่าออก (คือนับแต่คนนอกล้วนๆ)
แล้วจะเหลือแค่ 13
สินค้าก็จะนับเป็นถึง 38.46% ..........................
ธุรกิจจีนจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องและครองตลาดในโลกไปเรื่อยๆ รวมทั้งขนาดของเศรษฐกิจจีนที่ตอนนี้เป็นอันดับสอง
รองจากสหรัฐอเมริกาและมีการคาดการ์ณกันว่า
ขนาดเศรษฐกิจของจีนจะแซงหน้าสหรัฐในปี
2023 โดยอินเดียจะขยับจากอันดับ 5
เป็นอันดับ 3 แซงญี่ปุ่นหล่นลงมาเป็นอันดับ 4 ดังนั้นใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเตรียมค้าขายกับใครก็ลองมอง จีน / อินเดีย และขอแถม อินโดนีเซีย
ไว้ในอ้อมอกของทุกท่านอีกประเทสหนึ่งด้วยนะครับ เพราะจะขยับจากอันดับ 16 มาเป็นอันดับ 10
ของโลก ในปี 2032 แค่ 14 ปีเท่านั้นเองครับ ส่วนประเทศไทยก็คงจะขยับ จากอันดับที่ 25 ของโลกไปเป็นเท่าใดคงมิอาจคาดการณ์เพราะ ท่านที่วางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
น่าจะตายไปหมดแล้วในอีก 14 ปีข้างหน้า
WAIT and
SEE ครับพี่น้อง