มีคำถามว่า
“การท่องเที่ยวและกีฬาจะมาช่วยชดเชยในส่วนนี้ได้อย่างไร”
โดยทั่วไปคนมักจะนึกถึงแค่ไปเที่ยว หรือ
การแข่งกีฬา มหกรรมกีฬาต่างๆ แต่ข้อเท็จจริงแล้วทั้งสองนั้นเป็นตัวก่อให้เกิดการใช้จ่ายใช้สอย
อันเป็นผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจดังที่ได้เคยกล่าวไว้ในบทความก่อนๆของผม ดังนั้นหากผมเป็น รมต.กีฬาก็จะต้องหาแพคเกจในการนี้ให้เป็นรูปธรรม ดังตัวอย่างต่อไปนี้
สร้างอีเวนต์กีฬาหรือท่องเที่ยวโดยใช้โปรโมชั่นที่แรงๆดึงคนออกมาให้ได้ ทุกวันนี้เครื่องบิน รถทัวร์ โรงแรม
สถานที่ท่องเที่ยว ล้วนแต่มีปัญหาทั้งสิ้น
เราต้องเอาทุกส่วนมารวมกันแล้วจัดโปรให้แรง เช่น 4,000 บาท ปกติไปสามวันสองคืนไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ไปวิ่งที่ภูเก็ตโดยรวเครื่องบิน โรงแรม บิบวิ่ง
ชมภูเก็ตแฟนตาเซีย
รถรับส่งตามโปรแกรม อ้าว !!!!
ทำได้เหรอ .....เครื่องบิน
โรงแรม ภูเก็ตแฟนตาเซีย รถทัวร์ ในภูเก็ต ว่างมั้ย ?? ธุรกิจบริการไม่ใช้มันหายไปครับ แต่ต้นทุนเท่าเดิม พนักงานจ้างเท่าเดิม เพิ่มเติมแค่ต้นทุนผันแปรเช่น
รร.จ่ายค่าน้ำไฟเล็กน้อย รถทัวร์ค่าน้ำมัน
เท่านั้น ภูเก็ตแฟนตาเซียได้ขายอาหาร
ของที่ระลึก
ที่สำคัญ....คนไปแล้วต้องกิน
จับจ่ายใช้สอย ของที่ระลึก
ของฝาก
แล้วเงินนี้ดึงมาจากคนมีสตางค์เพราะราคา 4,000
บาทคงไม่สามารถเอามาจากรากหญ้าได้
แถมดึงดารานักร้องมาร่วมกรุ๊ปด้วยก็ยิ่งดีจะช่วยดึงดูดผู้คนให้เข้ามาร่วมกิจกรรมนี้กันให้มากๆ
ถามว่าทำได้จริงหรือ ?? ตั๋วเครื่องบินคิด 1,500 บาท
(ปกติก็เห็นขายกัน 1,000-2,500) โรงแรม
1,000 (พักสองคนเท่ากับได้ 2,000
ตกได้คืนละ 1,000 )
รถทัวร์ 600 บาท อันนี้ต่อคน ภูเก็ตแฟนตาเซีย 300
แต่ได้ขายของที่ระลึก อาหาร ขนม น้ำ อีก 500 บาท เป็นค่าบริหารจัดการ ค่าไกด์
(ดีกว่าตกงาน)
แล้วก็จัดคนภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงไปวิ่งที่เขาใหญ่ คนเชียงใหม่และใกล้เคียงไปวิ่งที่ ขอนแก่น ประมาณว่าเลือกเมืองท่องเที่ยวที่ รร.ร้าง
รถทัวร์จอดนิ่งๆ ไกด์กินแกลบ ร้านอาหานั่งตบยุง ฯลฯ ตามภาษาวัยรุ่นวนไปซัก 10-12 สนาม
คงพอกระตุ้นได้บ้างดีกว่าแค่เพิ่มวันหยุดกระมัง !!!