สำหรับข่าวที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขแล้ว ลองไปดูในยูทูปและเสริช์หาคำว่าคลอเลสเตอรอล เราจะพบว่ามีข้อมูลให้เลือกรับชมได้มากมายโดยมีทั้งบุคคลากรทางการแพทย์ และใครก็ไม่รู้ที่ออกมาพูดโดยอาจจะศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่างๆแล้วมาสื่อสารต่ออีกครั้ง ทำให้ข้อมูลนั้นอาจจะคลาดเคลื่อน หรือแม้แต่จะบิดเบือนไปได้ถ้าตั้งใจจะขายของหรือสินค้าที่ตอบโจทย์ตรงนั้นได้ เพราะคนที่เสิรช์หาข้อมูลนี้คงเกือบทั้งหมดคงเป็นผู้ที่มีปัญหาในด้านนี้
ข่าวรัฐมตรีอนุทิน “อนุทิน กราบเท้าประชาชนให้มาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยืนยันกรณีมีผู้เสียชีวิตหลังฉีด ไม่เกี่ยวกับวัคซีน 100 % (จากเดอะสแตนดาร์ด 26 มีนาคม 2564 ) รวมทั้งข่าวที่ว่า บุคลากรทางการแพทย์ และ ตำรวจ ไม่ยอมฉีดวัคซีน แถมล่าสุดการลงทะเบียนฉีดวัคซีนสำหรับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและโรคเสี่ยง 7 โรค มีผู้มาลงทะเบียน 14 วันแค่ ประมาณ 2 ล้านคนเท่านั้นจากจำนวนทั้งหมดประมาณ 15-16 ล้านคน มันแสดงออกให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน กลัวตายจากวัคซีนมากกว่ากลัวตายจากโควิด ทั้งๆที่โควิดมีความเสี่ยงในการติด และ การตายมากกว่าไม่รู้กี่เท่าตัว
มันบ่งบอกถึงระบบการสื่อสารของรัฐล้มเหลว แน่นอนปัญหาส่วนหนึ่งมาจากสื่อสังคมออนไลน์ที่มีทั้งข่าวจริง ข่าวปลอม ข่าวปั่น ข่าวสร้างตัวตนในสังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศจะต้องมีการแก้ไขปัญหาในการสื่อสาร และ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ และทันเวลาด้วย....... สุดท้ายคนที่ให้ข้อมูลจะต้องเป็นบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือ และ ยอมรับในสังคมด้วย
รมต.แต่ละท่านรวมทั้งท่านนายกรัฐมนตรีด้วย อะไรที่เป็นเรื่องทางวิชาการควรให้หมอที่มีความรู้ และ ความศรัทธา (จากใจ) ของประชาชนเป็นผู้ให้ข่าวดีกว่า การแถลงของศบค. รายวันทุกวันนี้แทบจะไม่มีข้อมูลใหม่อะไรเลยนอกจาก จำนวนผู้เสียชีวิต ผู้หาย ติดจากไหน ฯลฯ แถมดันลงรายละเอียดว่าแต่ละคนที่ตายมีโรคแทรกซ้อนจากโรคอะไร เรียกว่าอ่านครบทุกคนแต่ตอนหลังๆจำนวนคนตายเพิ่มมากเป็น 20-30 คนก็เป็นสรุปว่ามีโรคแทรกซ้อนอะไรกี่คน ฯลฯ บลาๆๆๆ
ล่าสุด 'โน้ส อุดม' ขอบคุณ 'สรยุทธ' เล่าข่าววัคซีนโควิด จน 'คุณนายทองสุก' เปลี่ยนใจ ยอมไปฉีด เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ???? คนไม่เชื่อ นายก ไม่เชื่อ รมต. ไม่เชื่อหมอ. แต่ เชื่อ “สรยุทธ”
ข้อเสนอ ต้องจัดแถลงข่าว
1.โดยผู้รู้จริง
2.โดยผู้ที่ได้รับความน่าเชื่อถือ
3.โดยผู้ที่ประชาชนมีความศรัทธา
4.โดยรวดเร็ว สามเวลาหลังอาหารยิ่งดี เพราะว่าสื่อโซเชียลมันไปเร็วกว่าที่เราคิด
5.นายก และ รมต. พูดให้น้อยๆหน่อย 55555 ขำไม่ออก.....