วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

โหนกระแส ...ไม่ใช่แค่กรรชัย !

 

โหนกระแส  ...ไม่ใช่แค่กรรชัย !

28 มีนาคม 2566


 

            ในประเทศไทยคงไม่มีใครไม่รู้จัก หรือไม่เคยดูรายการ “โหนกระแส”  ที่จัดโดยคุณหนุ่มกรรชัย  ที่เรทติ้งดีไม่มีแผ่ว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานเกาะติดกระแสและเร็วกว่ารายการอื่นๆแถมพี่หนุ่มเองลีลาระดับมืออาชีพเรตติ้งเรยมีแต่ทะยานขึ้นทุกวัน  

            แต่..... ในทางการค้าขายแล้วก็ต้องฉับไว  ตามติดเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลกและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นับวันจะเข้าใจยากขึ้นทุกที  แถมตลาดก็แตกเป็นเสี่ยงๆแบบว่าฝรั่งใช้คำว่า FRAGMENTATION จากเดิมแค่  SEGMENTATION เกริ่นนำ   ในโลกของการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันนี้ความสามารถในการผลิตและออกแบบนั้นสามารถเรียนรู้  และตามกันทันแต่การแสวงหาโอกาสทางการตลาด  แสวงหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย  และการสร้างกระแส  ตามติดกระแส และสร้างคอนเทนต์นั้นมันเป็นศิลป  ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ การเรียนรู้ และการคิดนอกกรอบ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกาะติดกระแสที่โดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

การฉกฉวยโอกาสโดยหากมีประเด็นที่เกิดเป็นกระแสในสังคม  ต้องหยิบยกมาใช้ให้เกิดประโยชน์และรวดเร็ว  แต่ก็ต้องระมัดระวัง / รอบคอบ / ตรวจสอบข้อมูล   ในการนำมาใช้อย่างเหมาะสม   ต้องระวังว่าจะเป็นดราม่าและสร้ากระแสลบต่อสินค้าและองค์กรของตนเองด้วย  ตัวอย่างเช่นสินค้าหลายตัวพยายามเกาะกระแสในสมัยที่สองมหา ขวัญใจชาวเน็ต  พระมหาไพรวัลย์ และ พระมหาสมปอง มีแมทช์หยุดโลก   โดยมีกำหนดการไลฟ์ร่วมกันแบบแบทเทิลซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในการไลฟ์ครั้งนั้นเองมียอดผู้เข้าชมสูงถึง 2 แสนราย   จนทำให้มีสินค้าเข้าไปเกาะกระแสกันอย่างล้นหลาม  แต่อย่าลืมว่าในเรื่องของความเชื่อ  และ ศาสนา รวมทั้งการเมืองนั้นมันจะมีคนที่อยู่เป็นสองฝั่งเสมอ  ก็อาจจะทำให้สินค้านั้นติดลบจากการเกาะกระแสนี้ไปก็ได้

หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือสินค้านมออร์แกนิค และขนมปัง แบรนด์หนึ่งโหนกระแสโดยประกาศตนเองว่า ไม่ใช่สลิ่ม และ ปลอดเชื้อสลิ่ม เท่านั้นแหละครับหาที่จอดรถทัวร์ไม่พอเพราะความเชื่อทางการเมืองเป็นเรื่องแสดง     โดยกระแสตีกลับจนน่วม   

         และล่าสุดเรย  “ป๋าเทพ โพธิ์งาม”  เป็นงัยครับเกากระแสจนตอนนี้ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ  คงจะต้องเก็บไว้ทานเองเป็นแน่แท้  ประกาศยกวัวความหมาแมว (ซึ่งคงไม่จริง เพราะสามารถขายได้ และคงได้หลายสตางค์ด้วย)   ก็คงเป็นเรื่องที่พยายามสร้ากระแสเพื่อให้คนเห็นใจหรือให้งาน   ก็เลยสงสัยว่าลูกเต้าเค้าไม่ดูแลพ่อเลยหรือ      ดังนั้นสจำไว้ว่าอย่านำแบรนด์  องค์กร  มาเล่นการเมือง   และหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง ความเชื่อ  ศาสนา


แต่อีกเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นเรื่องดีๆที่เกาะกระแสได้อย่างเหมาะสม    เอลวิส ฟรองซัวส์ ซึ่งอยู่ที่เกาะเซนต์มาร์ติน (อยู่ตรงไหนในแผนที่โลกก็ม่ายรู้)   ซึ่งเรือถูกกระแสน้ำพัดออกทะเลและลอยอยู่ในทะเล ถึง 24 วัน  โดยที่หนุ่มใหญ่วัย 47 ปีคนนี้อาศัยโดยเพียงซอสมะเขือเทศ ผงกระเทียม และเครื่องปรุงรสชื่อดังแบบก้อนเท่านั้น ในการดำรงชีพ

หลังจากนั้นก็มีคนช่วยเหลือขึ้นฝั่งโดยปลอดภัย  แต่ แบรนด์ซอสมะเขือเทศที่คงเดาได้ว่าแบรนด์อะไร HEINZ นั่นเอง  ได้ทำแคมเปญเพื่อซื้อเรือลำใหม่ให้พ่อหนุ่ม เอลวิส ฟรองซัวส์  โดยมีคอนเทนท์ทั้งใน อินสตราแกมส์  และสื่อโซเชียลมีเดียจนเป็นกระแสไปทั่วยุโรปและอเมริกา 

 

 

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...