“ฤาประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
??.
ปีม้าปีนี้หลายๆคนก็ห่วงว่าเศรษฐกิจมันจะไปทางไหน เพราะถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะกระเตื้องขึ้น
แต่ปัญหาภายในประเทศของเราโดยเฉพาะปัญหาทางการเมืองที่มีแต่ความแตกแยก คงไม่จบลงได้อย่างง่ายๆ และดูเหมือนว่าจะเป็นแผลหรือโรคเรื้อรังรักษาไม่หายขาดได้เป็นแน่ แต่สำหรับนักธุรกิจแล้วโอกาสมาก็ต้องคว้าแม้จะมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย ถ้าใครจำได้เมื่อประมาณปี 2549
พวกเราคงจำได้ว่ามีขนมปังยี่ห้อหนึ่งที่เป็นที่ลือลั่นสนั่นเมือง
ใครไม่ไปลองซื้อมากินรู้สึกว่าจะตกยุคตกสมัย กลายเป็นเต่าล้านปีไปเลยขนาดที่ว่าไปยืนเข้าคิวรอซื้ออย่างกับแจกของปอเต็กตึงเลยกว่าจะได้กิน ถ้ายังจำชื่อกันไม่ได้ขอเตือนความจำท่าน “รอตติบอย” จำได้หรือยังครับ
ผ่านไป 2553
มีสินค้าใกล้เคียงกันเข้ามากระตุ้นต่อมความอยากเราอีกแล้วครับท่าน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “โดนัทคริสปี้ครีม” “Krispy Kreme Doughnuts” รอซื้อที่พารากอนจนแถวยาวเป็นงู ถึงกับต้องจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปเข้าคิวซื้อเลย
ซึ่งผมก็ได้เขียนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553
แต่มาวันนี้เป็นอย่างไรครับ “เงียบ” จนน่าตกใจ ผมไม่เห็น “รอตติบอย” แล้ว แต่ “โดนัทคริสปี้ครีม”
ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ก็อยู่แบบ “เหงา เหงา”
เพราะอะไรลองไปหาอ่านดูนะครับ
มาวันนี้ปีที่ “ SHUT DOWN BANGKOK”
มีสินค้าแฟชั่นขวัญใจหนุ่มสาวยุคใหม่เปิดตัวร้าน “การ์เร็ต ป๊อปคอร์น” GARRETT POPCORN สายพันธ์อเมริกัน ที่มีอายุถึง 65 ปี เพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1949 ตกทอดมา 3
ชั่วอายุคนแล้ว
ไม่รู้ว่ามันดังได้อย่างไรน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่หนุ่มสาวไทยไป สิงค์โปร
ฮ่องกง
ซื้อมาฝากมากินกันจนกลายเป็นแฟชั่นซึ่งเป็นข้อสังเกตุของผมเอง
บนสมมุติฐานว่าไม่เคยได้ยินมาก่อนพอรู้จักปั๊บก็ดังเลย หรือว่ามันจะเป็นเพราะราคาที่ค่อนข้างสูง
(ที่ยังพอจ่ายได้) ก็ไม่รู้ทำให้เรา(หนุ่มสาว) อุปทานว่า “ร๊อยมาก” ลองดูตารางเปรียบเทียบราคา
ถ้าดูที่ราคาอย่างเดียวกก็เหมือนกับว่าไม่แพงเท่าใดเพราะเวลาเราไปชมภาพยนต์ ราคาป๊อปคอร์นก็ประมานนี้ ซึ่งผมเองได้โอกาสไปลองชิมมาแล้วครับพี่น้องต้องฝ่ามวลมหาประชาชนเข้าไปถึงได้ลิ้มลอง
ไม่ผิดหวังครับสำหรับรสชาติเพราะเข้มข้นจนรู้สึกว่าถูกปากถูกใจ
แต่จะเป็นอุปทานของหมู่มหาประชาชนหรือไม่ทราบได้ว่าอาจจะเป็นเพราะราคาสูงเลยคิดว่ามันอร่อย หรือเปล่า ?? กลัวด่าตัวเองว่าโง่อะไรปานนั้น
คำถามถามว่า ??......................ชะตาชีวิตของ “การ์เร็ต” จะเหมือน “รอตติบอย” หรือ “คริสปี้ครีม”
หรือไม่เพราะเวลาเปิดตัวมันเหมือนกับหนังเก่าเก็บเอามาฉายซ้ำ และผมก็ยังเชื่ออีกต่อไปว่า @@@
ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
เป็นแน่แท้
เพราะว่าสินค้านี้เป็นสินค้าฉาบฉวย
กระแสสร้างขึ้นได้แต่ว่าจะอยู่ยาวหรือไม่คงมีเหตุปัจจัยหลายประการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่ามีคนกินป๊อปคอร์นเป็นกิจวัตรมากน้อยแค่ไหน แม้จะมีรสชาติที่โดนมากๆแถมกินแล้วดูดีมีชาติตระกูลอีกต่างหาก
แต่เมื่อมันใม่ใช่วิถีชีวิตของคนไทยแล้วมันก็จะค่อยๆถอยออกไปเองเมื่อกระแสมันอ่อนลง ต่างจากกาแฟ “สตาร์บัค”
เพราะว่าคนไทยกินกาแฟกันเป็นกิจวัตรนั่นเอง เขียนแปะข้างฝาเลยให้เวลา 1 ปี กุมภาพันธ์ 2558 มาดูกันว่ายังมีคนต่อแถวซื้อ “การ์เร็ต”
กันอีกกีมากน้อย
รับรองเข้าคิวไม่เกิน 15 คน .........................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น