วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

“การบินไทยไปไหนดี”



                             จั่วหัววันนี้มันมีสองความหมาย “การบินไทยไปไหนดี”  ในความหมายแรกคือเวลาเราจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อพักผ่อนเราก็มักจะถามไถ่กันว่า   “ไปไหนดี”  ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการเดินทางไปประเทศต่างๆนั้นเรามักจะเดินทางด้วยสารการบินที่มี ฮับ ในประเทศนั้นๆ  เช่น ประเทศไทยก็คงจะเลือก  การบินไทย  ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ เป็นต้น  กับสายการบินของประเทศที่เราจะเดินทางไป(ถ้ามีบินตรง)  เช่นจะเดินทางไปฮ่องกง ก็คงเป็น คาเธ่ย์แปซิฟิค  หรือ ดราก้อนแอร์ เป็นต้น     ทั้งนี้ก็แล้วแต่เงินในกระเป๋าและความประทับใจในบริการเมื่อเทียบกับราคาค่าตั๋ว    แต่นัยะในวันนี้ผมคงจะหมายถึงว่า “การบินไทย”  จะมีทิศทางในการปรับปรุงความล้มเหลวในการบริหารงานที่ผ่านมาอย่างไร  ในมุมมองของคนเล็กๆคนหนึ่งที่บินกับการบินไทยปีละไม่ต่ำกว่า 20 ไฟล์   เพราะไม่อยากให้การบินไทยขาดทุน ปีหนึ่งเกือบ 10,000 ล้านบาท  ในขณะที่สายการบินเอกชนอื่นๆกำไรกันท้วนหน้า  ไม่ว่าจะ ไทยแอร์เอเชีย  นกแอร์  บางกอกแอร์เวย์


                                ท่านผู้อำนวยการใหญ่ของการบินไทยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะใช้  3S กับ 6 แนวทาง ซึ่งผมขอนำมาขยายความและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจากมุมมองของผู้รับบริการคนหนึ่งที่ขี่การบินไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า  300 ไฟล์    3S ที่ว่าคือ   1/ STOP  BLEEDING  ความหมายคือการหยุดการขาดทุน      2/STRENGTH BUILDING  ร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้การบินไทย  จากเดิมที่เป็นสายการบินระดับโลกติดลำดับต้นๆ  แต่ปัจจุบันหาอันดับไม่เจอ  รางวัลที่ได้รับส่วนใหญ่จะเป็น  ไวน์ดี  ห้องรับรองดี  เท่านั้นไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา  เรามีความแข็งแกร่งแต่มองข้าม ละเลย  ปล่อยวาง จนทำให้วัฒนธรรมของการบินไทยเปลี่ยนแปลงไป   จนหาความแข็งแกร่งไม่ค่อยเจอ  3/SUSTAINABLE   GROWTH  การสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต  ซึ่งก็จะเป็นผลมาจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง  
                                สำหรับ 6 แนวทางเพื่อตอบโจทย์แรก คือ STOP BLEEDING โดยมีเป้าหมายเพื่อลดค่าใข้จ่ายให้ได้ 15,000-20,000 ล้านบาท  ที่มอบหมายให้ประชาคมการบินไทยไปดำเนินการซึ่งกล่าวได้ว่านักบริหารธุรกิจแม้แต่เอสเอ็มอี  หรือร้านอาหารตามสั่งก็ต้องทำในลักษณะเดียวกัน   ปัญหาสำคัญก็คือ “คนการบินไทย” พร้อมจะร่วมมือกันปฎิบัติกันได้  หรือปฎบัติกันอย่างจริงจังหรือไม่   ซึ่งทั้ง 6 แนวทางมีดังต่อไปนี้
                                1.ยกเลิกเส้นทางการบินที่ขาดทุน  ดูเหมือนว่าจะยกเลิกไปแล้วได้แก่  โยฮันเนสเบิรก และจะยกเลิกเที่ยวบิน  แมดริด  กับมอสโคว  เป็นต้น ซึ่งแนวทางนี้สามารถดำเนินการได้ทันที  แต่ที่ตกใจคือการบินไทยมีจุดบิน 72 จุด  แต่เกือบครึ่งหนึ่งบินแต่ละครั้งก็ขาดทุน  โอ้พระเจ้าช่วย  เอสเอ็มอีเล็กๆหากเขามีสินค้า 72 อย่างบางอย่างซื้อมาแล้วขาดขาดทุนเขายังไม่ซื้อมาขายต่อเรยครับ  นี่ระดับบริษัทมหาชนระดับโลก  ทำไมทนบินในไฟลท์ที่ขาดทุนอยู่ได้   เพราะยิ่งบินยิ่งขาดทุน(แล้วจะบินไปทำไม)  หรือเป็นเพราะนักการเมือง ???     แถมพอประกาศออกมาปั๊บ  รมต.ท่องเที่ยวออกมาค้านบอกว่าจะทำให้ขาดไฟท์บินพานักท่องเที่ยวมาเมืองไทย   คำถามง่ายๆถ้ามีนักท่องเทียวมามากพอทำไมไฟลท์นั้นขาดทุน ??   และคำถามคลาสสิค ทำไมโตชิบา ซึ่งท่านรมต.เป็นเจ้าของทำไมถึงไม่ผลิตทีวีต่อ(คำตอบเพราะทำแล้วขาดทุน  555 )
                                2.ปรับปรุงฝูงบิน  ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินทั้งสิ้น 109 ลำ  แต่เป็น 9 รุ่น 11 แบบ  เฉลี่ย  แบบละ 1:6    ในขณะที่สายการบินแอร์ฟร้าน มี 350 ลำ  6 แบบเท่านั้น เท่ากับ 1:60    ไทยแอร์เอเชียมีกี่ลำไม่ทราบแน่ชัด  แต่รู้สึกว่ามี แบบเดียว  A320  (ถ้าจำไม่ผิด)   ตัวนี้มันบ่งบอกถึงอะไรท่านทราบหรือไม่ครับต้นทุนค่าใช้จ่ายในเรื่องการสำรองอะไหล่ตามมาตราฐานการบิน   ต้นทุนในการฝึกอบรมนักบินไม่ใช่เหมือนขับรถขับเป็นก็สามารถขับรถเก๋งได้ทุกรุ่น  ต้นทุนในการบำรุงรักษา   อำนาจต่อรองในการจัดซื้อ ฯลฯ  คำถามๆว่าคนการบินไทยไม่ทราบเรื่องนี้เมื่อ 20-30 ปีที่แล้วเหรอครับ   แต่ก็น่ายินดีที่มาคิดได้ตอนนี้ไม่รู้ว่าสายเกินไปหรือไม่   จนขณะนี้กล่าวได้ว่าอายุเฉลี่ยเครื่องบินและสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องบินอยู่อันดับท้ายๆของชาวบ้านแล้ว    4 ไฟลท์สุดท้ายก่อนเขียนบทความนี้ผมเจอเครื่องทีไม่มีจอทีวีส่วนตัว   ก็ไม่ว่ากันยอมรับเครื่องเก่าแต่ที่รับไม่ได้คือจอที่ฉายหนังนั้นมันมีสีเดียว “คือสีเขียว”  ถามพนักงานได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไหล่ซ่อม (จอฉายภาพมันมีอายุกี่ชม.ก็ไม่ทราบมันก็เสื่อมจนเหลือสีเดียว)   แต่ข่ววงในของผมทราบมาว่าไม่มีเงินซ่อม(คือเห็นว่ายังไม่สำคัญมั้ง)  เลยนำเงินไปใช้ในส่วนอื่นๆแทน คงคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญมากกว่า     แต่ปีใหม่ที่ผ่านมาผมเดินทางไปต้าลี่ลี่เจียง   ขาไปการบินไทยสายการบินพรีเมียมจอเขียว   บินในประเทศสายการบินโลว์คอสของจีนจำไม่ได้สายการบินอะร  “มีแท้ปเล็ท”  ให้เล่น ดูทีวี แทนจอทีวีส่วนตัวที่พนักพิง  “นี่แหละคือวิธีการแก้ปัญหา”  ไม่ใช่ไม่มีอะไหล่ซ่อม  อิอิ....................แล้วเดี๋ยวนี้แท็ปเล็ทเครื่องละ 1,000 กว่าบาทเท่านนั้นเอง
                                3.เพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้  แก้ได้ง่ายนิดเดียวยกเลิกระบบเอเย่นต์  หรือปรับปรุงระบบเอเย่นต์  ไม่ใช้ให้เอเย่นต์ล้อกที่ไว้ทำให้เสียโอกาสในการขาย  หลายครั้งจะจองบิซเนสคลาสปรากฏว่าเต็ม  แต่พอขึ้นเครื่องจริงปรากฏว่าที่ว่าบานตะไท  เหตุผลคืออะไรทำไมชาวบ้านจองไม่มี ??  ใครรู้ช่วยตอบทีเถอะ  เงิบมาหลายครั้งแล้ว  แล้วทำไมไม่บินไป  อิสตันบูล  กับ  เวียนนา  เพราะผมไปทั้งสองเมื่องนี้ในปีที่แล้วที่นั่งเต็มทุกไฟล์  ที่สำคัญบิซิเนสคลาดของออสเตรียนแอร์ไลน์เค้ามีเชฟมาปรุงอาหารให้บนเครื่องบินครับ  ไม่ใช้ใช้อุ่นแบบการบินไทย 5555555
                                4.ปรับปรุงการปฎิบัติการ  เพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย   แต่ปรากฎว่าท่านจะเชิญพนักงานเก่าๆ ที่เกษียณ  มาร่วมกันระดมสมองเพื่อเสนอแนวทางในการปรับปรุง   โถ่....แค่คิดก็ผิดแล้วครับ .............ทำไมไม่เชิญคนนอก  คนที่ใช้การบินไทยประจำ (อย่าผม   อิอะ@@  )    ต้องให้คนนอกมองคนในมองก็มองแบบเดิมๆแถมเอาคนเก่าๆมาอีกโลกมันเปลี่ยนชั่วข้ามคืน   คิดแบบนี้งัยการบินไทยถึงไม่ไปไหน...............ตัวอย่างเช่น  ที่สนามบินมะนิลา  การบินไทยบินวันละเที่ยวเดียว   แต่มีห้องรับรองเป็นเอกเทศเรียกว่าใช้งานห้องรับรองแค่วันละ  3 ชม.(หรือน้อยกว่า)   แต่มีต้นทุนประจำไม่ว่าจะค่าเช่า  ค่าพนักงาน ฯลฯ  ทำไมไม่ไปใช้ห้องรับรองกลางโดยการบินไทยจ่ายต่อหัวให้กับห้องรับรองกลางที่สนามบินมะนิลาแทนละครับพี่น้อง
                                5.การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร  อันนี้สำคัญระบบการทำงานและโครงสร้างองค์กรของการบินไทยเป็นแบบกึ่งราชการ   เก้าอีบนเครื่องบินเสียทราบมาว่ากว่าจะซ่อมได้เอกสารจะต้องวนเวียนตามระบบอยู่หลายวัน  แต่เครื่องบินต้องบินทุกวัน วันละหลายเที่ยวด้วยซ้ำสำหรับเครื่องบินระยะสั้น  ทำไมไม่จากกับตันตรงไปยังหัวหน้าช่างเลย  ต้องไปวนหลายวันเหมือนราชการไทย   และการซื้ออะไหล่ก็แบบราชการแต่ไหงกลับมีข่าวทุจริตในทุกขั้นตอน  ทุกอย่างต้องใช้จิตวิญญาณในการทำงาน  เรียกได้ว่าถ้าเป็นบริษัทเอกชนเจ้งไปนานแล้ว    ซีอีโอแอร์เอเชียที่เป็นชาวมาเลเซียเคยให้สัมภาษณ์คุณสุทธิชัยหยุ่นว่า  สิ่งแรกที่การบินไทยหรือพนักงานการบินไทยต้องคิดคือ “การบินไทยเจ๊งได้”   เพราะถ้าคิดว่าเจ๊งไม่ได้ก็ทำงานไปเรื่อยๆเหนื่อยก็ไม่ทำ(ไม่ใช่แค่พัก)   สัมภาษณ์ได้ไม่ถึงสองสัปดาห์มีการประชุมปฎิรูปรัฐวิสาหกิจท่านนายกประยุทธออกมาการันตีว่า “การบินไทยไม่มีวันเจ๊ง”   เงิบกันไปทั้งบางเลยก็แล้วกัน   เราจะมาลองดูกันในอีกสามปีข้างหน้าดีกว่า   คำตอบจะออกมาในรูปใด
                                6. การจัดกลุ่มธุรกิจของบริษัทอย่างเป็นระบบ โดยให้แยกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน และไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทางการบิน (Non-Core)  อันนี้ขอแสดงความคิดเห็นสั้นๆ  ว่าน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว...............

                                ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ก็เพราะรักการบินไทย  อยากเห็นสายการบินนี้อยู่คู่คนไทยและเป็นหน้าตาของประเทศไทย  ................ไม่อยากได้ยินว่าค่าตั๋วแพงแต่บริการงั้นๆ    ไม่ต้องพูดถึงสิงค์โปรแอร์ไลน์   ตอนนี้อิมิเรสต์ หรือเอธิฮัด  ตุรกี  กำลังแซงเราไปแล้วครับ.............บอกได้คำเดียวเสียดาย #######

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...