วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

“ชื่อสินค้าพาจน”



                                 


                                     “ชื่อ”  นั้นสำคัญฉไน  เป็นคำถามที่น่าสนใจมาก    ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของชื่อบุคคล  หรือ ชื่อสินค้า  เริ่มที่ชื่อบุคคลตั้งแต่คลอดก็ต้องให้พระ หรือผู้รู้ ตั้งชื่อให้เพื่อความเป็นศิริมงคลไม่มีอักษรกาลกินี   ซึ่งเป็นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่   สำหรับลูกของผมเองแล้วตั้งเองครับแต่ก็ดูอักษรสระนีสนุงบอกแล้วงัยว่าไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่  เลยตั้งชื่อลูกคนแรกว่า  “พัสสน” ซึ่งแปลว่าฝนตก  เพราะนางเกิดเดือนมิถุนายน  ส่วนลูกคนที่สองตั้งชื่อแปลกไปอีก “สรส” ซึ่งแปลว่า ชุ่มช่ำ  เพราะฝนตกแล้วก็ชุ่มช่ำ   ดีว่าไม่มีลูกคนที่สามอาจต้องตั้งชื่อว่า  “อุทก” เพราะน้ำคงท่วม  5555

                                ตอนผมสอนวิชาการตลาดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   ก็จะมีให้นิสิตจัดทำแผนการตลาดสินค้าพวกนิสิตตั้งชื่อได้  แร๋มม้วกๆ  สำหรับนิสิต รุ่นที่  21  ตั้งชื่อสินค้า ดังนี้     ICE BERRRYCO…WINEFINE..…..ONEARTH .........POWER PLUS+   ก็มีที่มาที่ไปแตกต่างกันไปตามที่นิสิตได้นำเสนอแผนงานการตลาดนั้นๆ   ทีนี้ลองมาดูในสังเวียนการตลาดที่แท้จริงมีชื่อสินค้าหลายๆชื่อที่ดูเหมือนดี แต่อาจไม่ดี  ไม่โดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย  ลองดูสินค้าเครื่องดื่มประเภทจับเลี้ยง     มีสามค่ายที่แข่งขันกัน  แน่นอน  “เย็นเย็น”  ของลุงตันแกไม่ต้องพูดถึง  ชัดเจน ได้ใจความ สองพยางค์      มาดู “จับใจ”  ของไทยเบฟ  ก็ชัดเจน  ไทยๆ สองพยางค์    ค่ายสุดท้าย  “เก็กหล่อ”   น่าจะมาจากสองทางคือ  กินแล้วทำหน้าหล่อ (อาจไม่โดนใจ หรือไม่ ?)   หรือ มีส่วนผสมของ  น้ำเก็กฮวยกับหล่อฮั่งก้วย   สองพยางค์ได้ใจความแต่คงไม่โดน  ซึ่งยอดขายก็ไม่ไปไหนแต่อาจจะไม่ได้มาจากชื่อก็ได้เพราะราคาแพงมาก 18 บาทในขณะที่บรรุจแค่ 330 ซีซี   แพงกว่าสองค่ายแรก  และงบโปรโมชั่นน้อยกว่าค่ายบิ๊กเบิ้มสองค่ายแรกอย่ามากมากย  ดังนั้นผมฟันธงอีกไม่นานก็หายไปจากตลาด

                                ดังนั้นแนวทางในการตั้งชื่อสินค้าก็ควรจะมีหลักการที่เหมาะสม  และสามารถสนับสนุนให้แผนการตลาดบรรลุวัตถุประสงค์ได้  ซึ่งก็มีแนวทางในการตั้งชื่อดังนี้

                **  แปลก  แตกต่าง  ไม่จำกัดความคิด      เครื่องดี่มเซปเป้  ได้ฟังจากเจ้าของเรยว่าต้องการตั้งชื่อให้ไม่มีความหมาย  จริงๆ  ......ซะงั้น  ก็ดีเพราะชื่อที่มีความหมายดีในประเทศหนึ่งอาจมีความหมายในทางลบในอีกประเทศหนึ่งก็ได้  (คงมองการณไกล จะไปขายทั่วโลก)   หรือ  “ปังเว้ยเฮ้ย”  ถูกจัยวัยรุ่น

                **  มีความหมาย  หรือแฝงความหมาย    เช่น SUPER SPORT  ชันเจนว่าขายอะไร คงไม่มีใครไปหาซื้อ แมว ในร้านนี้เป็นแน่แท้   HOME PRO   เป็นต้น    หรืออย่าง  “ไซโจ  เดนกิ”  ผมไม่รู้ความหมาย  แต่คงแฝงความหมายว่าเป็นสินค้าหรือเทคโนโลญี่   “ญี่ปุ่น”  แต่เป็นสินค้าไทย 100 เปอร์เซนต์  แต่สามารถส่งไปขายญี่ปุ่นได้ด้วยการทุ่มเท  วิจัยและตอบสนองลูกค้าเป้าหมายได้อย่างดียิ่ง

                **  ออกเสียงง่าย   อันนี้สำคัญเพราะออกเสียงยากคนก็จดจำได้ยากตามไปด้วย    เค็กบ้านสวน   ไนกี้  อาดีแดส  แอปเปิ้ล  ซัมซุง 

                ** ติดหู   อันนี้คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว  ต้องมีการสื่อสารให้ติดหูลูกค้าไว้ตลอดเวลา   เห็นได้ชัดจากบริษัทบิ๊กเบิ้มทั้งหลายนั่นเอง  โออิชิ   เวอร์จิ้น  กรีนเวฟ    โตโยต้า

                ** นานาประเทศ  ก็สามารถออกเสียงได้ง่าย  (และต้องไม่มีความหมายในทางลบ)   นารายา สินค้าไทยที่เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ  จีน ฮ่องกง    3(แบตเตอรี่)  RED BULL       CHANG      แต่ถ้าเป็น  พันท้ายนรสิงห์ ละต่างประเทศเรียกยากมั๊ยยยยยย 

                **  3 พยางค์  6  ตัวอักษร   แต่ไม่ต้องเป๊ะแบบนี้ก็ได้  ประมาณว่าอย่ายาวเกินไป  ยกเว้น  โชโกบุตซึโมโนกาตาริ   ยาวเหยียดแต่ยอดขายสบายๆสไตล์โชโกเค้า  ไม่ต้องไปหาซื้อในยุโรป  อเมริกา นะ 

                **  หมิ่นเหม่  แต่เก๋ไก๋      ต้องระวังปฎิกิริยาเชิงลบด้วย  เช่น    FCUK  อ่านผ่านๆ คล้ายกับอีกคำหนึ่ง  อิอิ  แต่จริงๆมันมาจาก FRENCH CONNECTION UNITED KINGDOM      ซ้อเจ็ด  (ง่ายๆ แต่ดูเหมือนแกจะ ข้อมูลเยอะประมาณนี้)

                จะตั้งอย่างไรก็เลือกเอาตามสะดวกนะครับ  ...........................เลือกกันเอาเองครับพี่น้อง....................###

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...