เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินจำได้ว่าเพิ่งฉลองปีใหม่ไปเมื่อเร็ว
ๆ นี้เอง แป๊ปเดียว ก็จะฉลองปีใหม่อีกแล้ว
คล้ายกับบทเพลงที่ว่า “เวลาผ่านไปเหมือนมีปีกบิน” ก็ต้องกลับมาทบทวนว่า ในปีที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรบ้างหรือมีบทเรียนอะไรบ้างที่เราจะต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ดีขึ้นในปีหน้า 2 เดือนที่ผ่านมาคือ เดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
2558 ผมได้มีโอกาสเดินทางเป็นระยะทางไกล
ๆถึง 2 ทริป คือ มิลานประเทศอิตาลี และแคว้นทัสมาเนีย ของประเทศออสเตเลีย แต่การเดินทางทั้ง 2 ครั้งนี้มีข้อที่แตกต่างไปจากการเดินทางไปต่างประเทศ
215 ครั้งตลอดชั่วอายุของผม เพราะการเดินทางครั้งนี้ผมมีแขนข้างเดียว อันเป็นผลมาจากต้องใส่เฝือก เพราะแขนขวาท่อนบนหักต้องใส่เฝือก ทำให้ไม่สะดวกด้วยประการใด ๆ ทั้งปวง ประกอบกับการเดินทางทั้ง 2
ครั้งนี้เป็นระยะเวลา 9-12 ชั่วโมง
ซึ่งมีข้อสังเกตุที่อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
ทริปแรก ในเดือนพฤศจิกายน 2558
เดือนทางไปร่วมงาน ITMA 2015 ซึ่งเป็นงานนิทรรศการแสดงเครื่องจักร และอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมสิ่งทอง ซึ่ง 4 ปีจัด 1 ครั้ง
และนับได้ว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว มีผู้เข้าร่วมชมเป็นแสนคนตลอดระยะเวลา การเดินทางครั้งนี้ผมเดินทางโดยการบินไทยเที่ยวบินที่
TG940 วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ในชั้น
บิสิเนสคลาส แต่อย่างนึกว่าผมรวยจนมีตังค์นั่งชั้นบิสิเนส
เพียงแต่อาศัยคูปองอัพเกรดซึ่งได้รับมาตอนได้รับบัตรทองของการบินไทย เลยทำให้ได้มีโอกาสนั่งชั้นบิสิเนสคลาสกับเขาบ้าง ตอนขาไปแน่นอนว่าต้องได้รับการบริการที่ดีกว่าชั้นธรรมดา
แต่ขอบอกว่าที่ไม่ธรรมดาคือพนักงานบริการที่ชื่อ “คุณอุบลลักษณ์” เธอได้บริการช่างหน้าประทับใจมากเพราะเธอเสริฟอาหารเสร็จซึ่งมีแยมอยู่ในขวดเล็ก
ๆ เธอก็บอกว่า “เดี๋ยวหนูเปิดให้น่ะค่ะ”
เพราะเธอคงเห็นว่า ผมไม่สามารถช่วยตัวเองได้
ในทำนองกลับกันตอนเดินทางกลับเที่ยวบินที่ TG941 วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 เหตุการณ์ทำนองเดียวก็เกิดขึ้นแต่ครั้งนี้ต่างไปเพราะพนักงานบริการเมื่อเสริฟเสร็จเธอก็จากไป ไม่ถามแม้แต่ “มือเป็นอะไรค่ะ”
เรียกได้ว่าฉันทำตามระเบียบปฎิบัติ (PROCEDUER) ครบถ้วนสมบูรณ์แล้วนั้นเอง ทีนี้พอผมไม่สามารถเปิดขวดแยมได้ก็ต้องเรียกเธอและบอกว่าช่วยเปิดให้หน่อย เธอไม่หันหน้ามามองเพียงแค่บอกว่ารอสักครู่น่ะค่ะ (ไม่รู้หรืออย่างไรว่าฉันกำลังยุ่ง ?) 5555555 รวมทั้งตลอดทั้ง
12 ชั่วโมงในการเดินทางเธอก็คงคิดว่าผมสามารถช่วยตัวเองได้เหมือนคนปกติ นี่แสดงให้เห็นว่าการบริการนั้นนอกจากทำตามระเบียบปฏิบัติซึ่งใช้
“กาย” ในการทำงานนั้นย่อมไม่พอเพียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานบริการ ต้องใช้
“ใจ” ในการ
“ใส่ใจ” และ “เข้าใจ” ในลูกค้าในทุกมิติด้วย ก็จะทำให้บริการนั้นแตกต่างเป็นที่จดจำ เป็นที่ชื่นชมยินดีของลูกค้าผู้รับบริการ ขอขอบคุณจากใจ “คุณอุบลลักษณ์ TG940 13 พ.ย. 2558” คุณอยู่ในใจผม!!!
ส่วนในเดือนธันวาคม 2558
ผมเดินทางไปออสเตรเลียโดยสายการบินแควนตัสในชั้นธรรมดา ซึ่งแน่นอนการบริการก็ย่อมลดหลั่นกันไปตามราคาตั๋วอันนี้ก็ไม่ว่ากันแต่ไม่น่าเชื่อว่าที่นั่งจะกว้างและระยะห่างระหว่างแถวมีขนาดใหญ่กว่าของการบินไทย
ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนนั่งการบินไทย ขาไปโดยรวมก็เป็นไปตามสภาพของชั้นประหยัด
แต่ตอนขากลับมีพนักงานบริการท่านหนึ่งทราบภายหลังว่าเป็นคนลาวแต่ไปอยู่จนได้สัญชาติออสเตเลีย เธอพูดไทยได้ชัดเจนบริการดีมากพร้อมด้วยอัธยาศัยที่เป็นมิตรอย่างยิ่ง จนทำให้รู้สึก “ประทับใจ” ไม่ใช่แค่
“พอใจ” เท่านั้น ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็เพื่อจะบอกว่า “SERVICE FROM HEART NOT PROCEDURE” หรือถ้าจะแปลขำ ๆ ว่า “บริการด้วยใจมิใช่แค่สักแต่ว่าทำตาม (ระเบียบปฎิบัติ)” ท่านที่อยู่ในธุระกิจทั้งหลายลองตรองดูเถิดเพื่อเกิดประโยชน์กับการพัฒนาพนักงานและองค์กรของท่าน “อันนี้ก็แล้วแต่ เอาที่สบายใจ
ก็ละกัน!!!!!!”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น