ช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เราะจะเห็นได้ว่ามีจิตอาสามากมายที่อุทิศตนเพื่อมาช่วยงานส่วนรวมเป็นจำนวนมาก โครงการจิตอาสาครั้งนี้น่าจะเป็นการรวมตัวของผู้มีจิตอาสาที่มีจำนวนมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะหน่วยงานภาครัฐได้มีการสรุปตัวเลขออกมาแล้วว่า ยอดรวมผู้สมัครจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ทุกประเภท มีจำนวนทั้งสิ้น 4,006,825 คน (CR :: https://www.posttoday.com/analysis/report/521825 ) ตีตัวเลขกลมก็คือ 4 ล้านคนที่ได้ลงทะเบียนเพื่อมาช่วยเหรืองานพระราชพิธีดังกล่าว อันนี้ไม่รวมถึงจิตอาสาอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ลงทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นพ่อครัวแม่ครัว มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ฯลฯ รวมแล้วน่าจะถึง 10 ล้านคน..............
นับว่าเป็นภาพที่งดงามในสังคมไทยอันยากที่จะหาได้ในสังคมอื่นๆ
ในการรวมตัวของประชากรเกือบสิบเปอร์เซนต์ของทั้งประเทศร่วมมาทำงานเพื่อสาธารณะ โดยมีจุดรวมใจของชาวไทยทั้งหลายคือ “พ่อหลวง” ของพวกเรา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันพระราชพิธีดังกล่าว กระทรวงมหาดไทย ระบุ
มีผู้ถวายดอกไม้จันทน์ใน 76 จังหวัด และ 802 อำเภอ รวม 16,188,175 คน
ส่วนกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,896,734 คน
รวมมีผู้เข้าร่วมพิธี 19,084,909 คน ( CR :: http://www.bugaboo.tv/watch/347256 ) ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่วโมงบางคนเป็น 10 ชั่วโมง เพื่อขอให้มีเวลาแค่ 10 วินาที
ในการถวายดอกไม้จันทน์แก่ “พ่อหลวง” ของเราทั้งหลาย ผมเองไม่เคยไปนั่ง ยืน
รอ อะไรนานๆมาก่อนแต่ครั้งนี้เพื่อ
“พ่อหลวง”
เรายอมทำทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้าย
โดยเข้าคิวรอตั้งแต่ 11.30
ได้ถวายเวลา 18.30 น. 7
ชั่วโมงเต็ม ทั้งยืน นั่งพื้น เพราะเมื่อยมากๆ และนั่งเก้าอี้ซึ่งมีจำกัดเฉพาะแถวหน้าประมาณ
40 แถว ตอนเลื่อนมาอยู่แถวหน้าบริเวณพิธี
ที่ศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะแต่ก็ยังนับว่าดีกว่าอีกหลายๆที่
เพราะว่าอยู่ในอาคารติดแอร์เพราะหากไม่แล้วตากแดด หรือยืนต่อแถว 3-4 ชั่วโมงก็คงไม่ไหวแล้ว ในงานนี้ได้พบจิตอาสามากมายคอยดูแล ช่วยเหลือ ไม่ว่าจะจัดแถว แจกอาหารเครื่องดื่ม เก็บขยะ
ฯลฯ
“จิตอาสา” ในครั้งนี้จะทรงพลังที่ยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต หากได้มีการแปรเปลี่ยนเป็น “จิตสำนึก” ซึ่งในความหมาย ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน คือ ภาวะที่จิตตื่นและรู้ตัวสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากประสาทสัมผัสทั้ง
๕ คือ รูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยกาย. นั่นป็นการแปลตามตัวอักษรจากราชบัณฑิตยสถาน แต่หากถามชาวบ้าน ร้านตลาด คนเดินถนน คนสามัญ
ก็คงได้ความาหมายที่แตกต่างกันออกไป
แต่ถ้าถามผมน่าจะหมายถึง “การประพฤติตามกรอบแห่งความเหมาะสม และ ดีงาม โดยปราศจากข้อบังคับใด
อย่างไม่ลังเลและชักช้า ” ก็เลยฝันและฝากต่อไปด้วยว่าจากนี้ไป
“ เราจะทำตามคำพ่อสอน” อย่างจริงๆกันเสียทีหนึ่ง
อ้าว..............ก่อนจบ มีดราม่าเกิดขึ้นในสังคมไทย มีนายแบบคนหนึ่งโพสภาพตนเองกับกิจกรรมที่ดูดีมีระดับ พร้อมกับ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ “ หรือ
เรียกง่ายๆว่าบัตรคนจนนั่นเอง เมื่อคืนวันที่ 30 ตุลาคม 2560
นายแบบคนดังกล่าวได้ไปออกรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” ทางช่องทีวีอัมรินทร์ ตอบคำถามพิธีกรว่า ภาพต่างๆที่เห็นในเฟสบุ้คของตนเองว่า กาแฟ
อาหาร นาฬกา รถยนต์
เสื้อผ้าหน้าผม
และการเดินทางไปต่างประเทศนั้น
เพื่อน....................ออกตังให้ทั้งสิ้น ตนเองมีรายได้สอง สาม
สี่
พันบาทต่อเดือน................... จากการประกอบอาชีพ “รับรีวิว”
สินค้า ..............อะไรชีวิตจะดี๊ดีอย่างนี้.........มีกัลยาณมิตรคอยหล่อเลี้ยงจุนเจือ....... คำถามคือ “ มีไอโฟน แม้เป็น ไอโฟน 6 แต่ตอนซื้อมันราคา 3 หมื่นกว่านะครับ “ สรุปว่า
มีจิตสำนึกหรือไม่ อายุ 29 หน้าตาดี มีระดับ เกาะกัลยาณมิตร ................น้องจ๋า มาทำงานบริษัทพี่มะ เป็นแม่บ้านก็ได้ ให้ 10,000 ต่อเดือน ..........ฮัลโหลๆ ....สนใจหลังไมค์มาโลด...................