แล้ว..............มันเกี่ยวอะไรกับ
“เศรษฐกิจไทย” ถ้าจีนทรงไทยจะทรุด......
แล้วถ้าจีนทรุดไทยจะไปอยู่ตรงไหน
เป็นคำถามที่น่าสนใจว่าแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจไทยกันแน่ พอแบ่งออกได้ 4 ประเด็น คือ
1.ท่องเที่ยวก็คงชลอดตัวหรืออาจะเลวร้ายถึงหดตัวก็เป็นได้ อาจจะได้นักท่องเที่ยวเพิ่มขี้นบ้างแต่ว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวงคงทรงตัวหรือถ้าเลวร้ายอาจจะปรับลดลง ทั้งนี้เพราะค่าทัวร์มาไทยแพงขึ้นถึง 20เปอร์เซนต์ อันเป็นผลมาจากค่าเงินหยวนของจีนที่ มกราคม
2560 มีค่าเท่ากับ 5.37 บาท มกราคม 2561 มีค่า 5.07 มกราคม 2562 มีค่า 4.77
พอ ธันวาคม 2562 มีค่า 4.35 บาท
จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 18.99 % ตัวเลขกลมๆ ก็ประมาณ 20%
เมื่อเทียบกับปี
2560
ทำให้โอกาสมาท่องเที่ยวน้อยลงหรือมาแล้วก็จับจ่ายใช้สอยน้อยลงอันเป็นผลมาจากค่าเงินนั่นเอง ดังตัวอย่าง สมมุติว่าบริษัทในไทยคิดค่าทัวร์จีนคนละ 25,000 บาท ในปี
2560 คนจีนจ่ายเงินแค่ 4,655 หยวน แต่ปี
2562 ต้องจ่ายเงินถึง 5,747 หยวน
2.คอนโดทั้งหลายที่บ้านเราผุดกันขึ้นเป็นดอกเห็ด เรียบได้ว่าบางแท่งขายจีนทั้ง 49 % เลยก็มีก็จะเช่นเดียวกันจะขายไม่ออก ขายได้น้อยเพราะคนจีนต้องใช้เงินเพิ่มถึง 20% ในการซื้อของนั่นเอง
ผู้ประกอบการไทยจะลดราคาลง 20%
เพื่อให้ขายของได้หรือไม่
คำตอบคืไม่ได้เพราะกำไรในอุตสาหกรรมอสังริมทรัพย์นั้นจากข้อมูลในปี 2559
อัตรากำไรสุทธิ
( Net Profit Margin
: NPM) ปี 2559 ของอุตสาหกรรมนี้
โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอัตรากำไรสุทธิราว 9.6 % (
อ้างอิง https://www.terrabkk.com/news/173655 )
3.การส่งออกของไทยจะมีปัญหาตามมาเพราะว่า การที่จีนส่งสินค้าไปขายสหรัฐอเมริกา หรือยุโรปได้น้อยลงนั้นเพราะการกีดกันทางการค้า สงครามการค้า
และ เศรษฐกิจอเมริกากับยุโรปก็ทรงกับทรุด
ก็จะยิ่งทำให้ซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าต้นน้ำจากประเทศไทยน้อยลงไปเงาตามตัว ที่สำคัญไปกว่านั้นอัตราการส่งออกสินค้าของไทยไปจีนนั้นนับเป็น
20 เปอร์เซนต์ของยอดส่งออกรวมทั้งหมด
โดยปี 2560 ส่งออกไปจีน 1.515
พันล้านบาท คิดเป็น 19.96 % ปี 2561 ส่งออกไปจีน 1.621
พันล้านบาท คิดเป็น 20.11% ปี 2562 รวม 9
เดือนส่งออกไปจีน 1.163 พันล้านบาท
คิดเป็น 20.46 % นับว่าเป็นปัญหาที่แก้ยากมาเพราะโจทย์นี้มันซับซ้อนและมีเหตุปัจจัยหลายประการที่มากระทบ
4.การนำเข้าสินค้าของจีนที่ไม่เกี่ยวกับการนำไปเพื่อเป็นวัตถุดิบในการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา
และยุโรปนั้นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
เพราะคนจีนต้องใช้เงินซื้อสินค้าถูกลงถึงประมาณ 20%
เพราะค่าเงินหยวน
แต่เมื่อค่าเงินไทยมีค่าแข็งขึ้นก็ทำให้ต้องปรับราคาขายสินค้าไปด้วยก็จะทำให้สินค้า อาหาร
ผลไม้ ที่ส่งไปจีนไม่ได้มีราคาถูกลง 20 เปอร์เซนต์ตามค่าเงิน ก็คงมีผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของคนจีนไม่น้อย
เพราะอย่างลืมว่าเมื่อเศรษฐกิจจีนเติบโตช้า รายได้ของคนจีนก็เติบโตช้าตามไปด้วยทำให้อำนาจการซื้อไม่เพิ่มขึ้นเหมือนสมัยก่อน
ก็จะทำให้สินค้าเราส่งออกไปยิ่งได้น้อยลงไปใหญ่นั่นเอง
ดังนั้นก็ตัวใครตัวมัน รับปี 2020
นะครับพี่น้อง.............@@@