“น่าน”.....จังหวัดเล็กๆในภาคเหนือที่มี ประชากรแค่ 4.78 แสนคนเศษ ในขณะที่มีพื้นที่ 11,472 ตร.กม. ทำให้มีความหนาแน่นของประชากรเป็นอันดับ 3 ของประเทศ คือแค่ประมาณ 41 คนต่อตารางกิโลเมตร สำหรับคนชอบชีวิตวิถีชนบท และสโลว์ไลฟ์แล้วขอแนะนำให้มาที่ “น่าน” ผมได้มีโอกาสไปชาร์จแบตเตอร์รี่ที่น่าน 3 วัน 2 คืน แบบชิลๆ คืนแรกไปนอนโฮมสเตย์ ที่แบบ้านๆบวกกับบรรยากาศแบบหรูแทรกเข้ามานีสนุง คือว่า มีอ่างอาบน้ำแบบทำเอง แต่ว่ามันตั้งอยู่ด้านนอกมองออกไปคือ ป่าเขาลำเนาไพรเรียกว่านอนชิลในอ่างน้ำจนผีสางเทวดาหลบหายหน้าไปหมด ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“บ่อเกลือ ริเวอร์ฮิลล์” เป็นโฮมสเตย์ที่ผมได้เข้าไปพัก มีจำนวนห้องพักแค่ 5 ห้อง ราคาไม่เบาเลยขนาดต่อรองราคาแล้วยัง 4,250 บาท/คืน/2คน พร้อมอาหารเช้าแบบบ้านๆ ที่พักแห่งนี้เกิดจากความคิดของคนหนุ่มที่เห็นโอกาสทางการตลาดและต้องการขายความแตกต่าง เพราะคนไป น่าน / บ่อเกลือ จะไปพักที่หมู่บ้านสะปัน เสียเป็นส่วนใหญ่ ที่พักแห่งนี้ห่างจากสะปันไปประมาณ 4 กม. มีบรรยากาศอีกแบบที่เงียบ สงบ เรียกว่าเข้าไปแล้วนอนชิลๆได้เรย เดิมเป็นบ้านที่เจ้าของหนุ่มที่ขณะนี่กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ เอาบ้านหลังเดิมที่บรรพบุรุษและคุณแม่อยู่อาศัย ประกอบกับมีที่ดินที่สามารถนำมาทำโฮมสเตย์ได้ในแบบที่ไม่เหมือนใครในสะปัน คือขายบรรยากาศอีกแบบซึ่งแตกต่างกันไป เพราะคนนอนสปันจะเห็นสายน้ำ และ สายหมอกจากหุบเขา แต่ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านอยู่สบายๆ มีมุมถ่ายรูปที่ก็ฟินไปอีกแบบหนึ่งทั้งในอ่างอาบน้ำและบริเวณที่จัดทำเสมือนอยู่บนห้องนอนตนเอง แต่มันคือจุดถ่ายรูปที่มองออกไปเป็นทุ่งนา และ สายหมอกในตอนเช้า ทำให้ได้บรรยากาศอีกแบบในบริบทที่แตกต่าง (กรุณาดูภาพประกอบ)
เมื่อเดินทางไปถึงจะได้รับการบริการคือสปาเท้า ซึ่งดูแล้วเหมือนเลิศหรูอลังการงานสร้าง แต่จริงๆก็คืออ่างน้ำอุ่นที่มีเกลือสำหรับแช่เท้านั่นเอง แต่พิเศษและแตกต่างกันคือเกลือนี้คือเกลือสินเธาว์จากบ่อเกลือโบราณที่เป็นจุดท่องเที่ยวใน อ.บ่อเกลือนั่นเอง ที่มันแปลกเพราะบ่อเกลือนี้อายุ่ 800 กว่าปี และเป็นมรดกตกทอดของหมู่บ้านมา เลยทำให้มีความรู้สึกว่าแปลกแตกต่างเพราะมันมีสตอรี่ของเกลือ ของบ่อ ของหมู่บ้าน และอ่างอาบน้ำที่เตรียมไว้นั้นมีบริการตีฟองเพื่อให้ฟินกับรรยากาศ แถมมีเกลือสครับกลิ่นต่างๆให้เลือก 6-7 กลิ่นก็เลือกตามความชอบของแต่ละท่านไป แน่นอนที่สุดเกลือนี้มาจากบ่อเกลือโบราณที่เช่นกันครับ และแถมสุดท้ายก็กลายเป็นซื้อเกลือแช่เท้าและเกลือขัดผิวกลับมาเป็นของที่รลึกของฝากอีกด้วย ..
วันที่ไปพักนั้นมีแขกเข้าพัก 3 ห้อง คืนนี้คุณแม่ก็เก็บสตางค์เข้ากระเป๋าไป ประมาณ 15,000 บาทเพราะเป็นคืนวันจันทร์ อ้อ ....ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พักที่นี่ก็สั่งอาหารน่านฝีมือคุณแม่ที่อายุ 40 ปลายๆทานซะเลย สองคน 980 รวมของใส่บาตรพระอีก 3 ชุด เพราะเรื่องราวของ “น่าน” เพราะ “เกลือจากบ่อโบราณ” เพราะความต่างที่ไม่เหมือนใคร คืนนั้นจ่ายไปทั้งสิ้น 5,250 บาท เป็นอีโคทัวริซึ่มแบบบ้านๆที่มีมูลค่าไม่เบาเลยใช่หรือไม่ครับ ถ้าเราหาความต่างและใส่สตอรี่เข้าไปในตัวสินค้าและบริการที่มันโดนใจผู้บริโภค หาก “ม่วนจั๋ย” แล้ว เท่าไหร่ก็พร้อมจ่าย.......น่าน...นะซิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น