เดือนมกราคมคงเป็นเดือนแห่งชัยชนะของ ทีมนักแบดมินตันไทย ซึ่งในเดือนนี้มีการแข่งขันอยู่ 4 รายการ มีนักแบดไทยประสบความสำเร็จได้ แชมป์และรองแชมป์ รวมทั้งอันดับ3/4 อยู่ในสามรายการที่แข่งขัน ที่สำคัญได้แชมป์ ถึง 7 อีเวนต์ จาก 20 อีเวนต์ในการแข่งขัน 4 รายการของปีนี้ แต่มีนักกีฬาไทยเข้าแข่งขันแค่ 3 รายการ และสองในสามรายการคือรายการแข่งขันระดับ เวิล์ดทัวร์ที่มีการสะสมแต้มเพื่อจัดอันดับโลกในแต่ละสัปดาห์รวมทั้งมีเงินรางวัลจำนวนมาก ซึ่งBWF มีการจัดระดับเวิร์ดทัวร์นี้โดยมี ธนาคาร HSBC เป็นไตเติ้ลสปอนเซอร์ และได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 ระดับ มีการแข่งขันทั้งปี 2022 รวม 26 รายการ ดังนี้
BWF World Tour Super 1000 มี 3 ทัวร์นาเมนท์
BWF World Tour Super 750 มี 5 ทัวร์นาเมนท์
BWF World Tour Super 500 มี 7 ทัวร์นาเมนท์
BWF World Tour Super 300 มี 10 ทัวร์นาเมนท์
และปิดท้ายด้วย World Tour Finals ที่จะเอานักแบดมินตันที่สะสมแต้มอันดับ 1-8 ของโลกมาแข่งขันในเดือนธันวาคมโดยมีเงินรางวัลรวมถึง 1.5 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 50 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา 2021 คู่ผสมของไทยก็สามารถคว้าแชม์ในราการนี้ได้ คือ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้สุดยอดแชม์ปรายการนี้เป็นครั้งที่สอง โดยครั้งแรกได้แชมป์ในปี 2021 ที่กรุงเทพจึงนับได้ว่าเป็นการได้แชมป์รายการนี้ติดต่อกัน ขึ้นแท่นมือหนึ่งของโลกในประเภทคู่ผสมจนถึงปัจจุบันนี้
นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งรายการคือ BWF Tour Super 100 มีการจัดกาแรข่งขัน 31 รายกานในปี 2522 ซึ่งสามารถสะสมแต้มเพื่อจัดอันดับโลกประจำสัปดาห์ได้ แต่ไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของ BWF World Tour แต่ก็นับว่าเป็นเส้นทางของนักแบดมินตันในการแข่งขันเพื่อหาประสบการณ์และสะสมแต้มไปในตัว เพื่อทีจะก้าวสู่การแข่งขันในระดับ World Tour ต่อไป
ผมได้จัดทำตารางในเรื่องแต้มสะสมและ เงินรางวัลของแต่ละรายการ โดยจัดทำสามรายการคือ 100/500/1000 ซึ่งก็จะได้เห็นถึงความแตกต่างกันอย่างมากของทั้งเงินรางวัลและแต้มสะสม ตามภาพประกอบ ส่วนระดับ 300/750 ก็จะมีแต้มสะสมหรือเงินรางวัลอยู่ระหว่างระดับการแข่งขันในระดับที่สูงกว่าและต่ำกว่านั่นเอง
ดังนั้นหากวางแผนการแข่งขันในระดับต่างๆได้อย่างเหมาะสม โดยศึกษาจากแต้มสะสมและประวัตินักกีฬาที่เข้าแข่งขันแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการมีอันดับโลกที่สูงขึ้น เช่น เข้ารอบรองชนะเลิศในรายการ ระดับ 500 จำนวน 3 รายการ ก็จะได้แต้มถึง 19,260 แต้ม ดีกว่าเข้าแข่งขันระดับ 1000 แต่เข้าได้แค่ รอบ 32 คน จะได้แต้ม แค่ 9,000 แต้มเท่านั้น เรียกได้ว่าต้องมีทั้งฝีมือและการวางแผนที่เหมาะสมและหากมีแต้มสะสมอยู่ในอันดับ 1-8 ของโลกก็จะได้เข้าแข่งระดับเวิล์ดทัวร์ไฟนอลที่มีเงินรางวัลรวม ถึง 50 ล้านบาท และแต้มสะสมที่สูงถึง 12,000 แต้มหากได้แชมป์อีกด้วย ....