วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2565

FIRST+E ช่วยขยี้ยอดขาย

 




            ในการดำเนินธุรกิจแล้วปัญหาสำคัญของผุ้ประกอบการคือการ “สร้างยอดขาย “  ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหากไม่คิดอะไรมาก็คือการ  โปรโมชั่น  โดยเน้นไปที่ราคาแต่คงไม่ใช่คำตอบสุดท้าย  เพราะหากเล่นเรื่องราคาอย่างไม่ลืมหูลืมตาแล้วอาจจะนำมาซึ่งหายนะ   จนทำให้เกิดการขาดทุนได้ในที่สุดเพราะว่าหากเล่นราคามากๆแล้วจะทำให้กำไรต่อหน่วยลดลงไป  ยกเว้นว่าจะทำยอดขายได้ถล่มทลายและครองส่วนแบ่งตลาดได้   คำถามคือสิ่งเหล่านี้มันยั่งยืนหรือไม่ ??

            ดังนั้นก็มีแนวทางในการเพิ่มยอดขายที่นอกเหนือจาก”การลดราคา”  แล้วก็ยังมีแนวทางอื่นซี่งหากมองในภาพรวมก็จะมีสองแนวทาง  คือ

            1.การแสวงหาลูกค้าใหม่

            2.การให้ลูกค้าเดิมนั้นซื้อต่อครั้งเพิ่มขึ้น หรือ ซื้อบ่อยขึ้น

แล้ววิธีการ หรือ สูตรการเพิ่มยอดขายที่จะทำให้ได้ตามแนวทางทั้งสองข้อนั้น  นอกเหนือจากในเรื่องหลักการตลาด 4 P  ที่เป็นหลักเบื้องต้นในการบริหารการตลาด คือ  PRODUCT / PRICE / PLACE / PROMOTION  แล้ว  ยังมีแทคติดที่จะส่งเสริมให้ยอดขายได้เพิ่มขึ้น   ซึ่งขอสรุปเป็นคำเพื่อให้จดจำง่ายๆ คือ FIRST+E    ซึ่งมีความหมายดังต่อไปนี้

 

F=FREQUENCY  ความถี่ในการเข้าร้าน เว็บ  ไลน์  ผู้ประกอบการจะต้องสรรคสร้างและดึงลูกค้าเป้าหมายให้เพิ่มความถี่ในการเข้าร้าน  เข้ามาดูเว็บ  เปิดอ่านไลน์ หรือ สื่อสังคมที่ทางผู้ประกอบการสื่อสาร  หรือ การสร้างจุดเช็คพอยท์  จุดถ่ายรูป  ฯลฯ เพื่อจูงใจให้เข้ามาที่ร้าน เว็บ  ฯลฯ   เพราะเมื่อลูกค้ามีโอกาสได้สัมผัสกับสินค้า บริการ และข้อมูลข่าวสาร  ด้วยโสตประสาทสัมผัสทั้ง 5 ถึ่เท่าใดก็จะยิ่งเพิ่มความอยาก  ความสนใจ  และตัดสินใจซื้อมากขึ้น

I=INTIMACY+IMPRESSION  ความใกล้ชิดสนิทสนม ซึ่งก็หมายถึงการบริการจัดการในเรื่องลูกค้าสัมพันธ์  และประสบการณ์ในการใช้สินค้าและบริการ  ซึ่งพัฒนาได้เป็นลำดับดังที่ผมได้เคยบัญญัติไว้เมื่อปี  พ.ศ. 2536  ว่า จะต้องสร้าให้ได้ขนาด รู้จัก  รู้ใจ รู้ว่าห่วงใย  และทำอะไรเป็นพิเศษ  ก็จะสามารถมัดใจลูกค้าได้อย่างแน่นอน  พอใจประทับใจ บอกต่อ ปกป้องและรอคอย   

R=REPEAT  ซื้อซ้ำๆๆๆๆ  นั่นก็หมายความว่าสินค้าและบริการต้องเป็นไปตามความคาดหวังของลูกค้า  และจะต้องป้องกันไม่ให้เปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าจากคู่แข่งขันอีกด้วย ซึ่งผมได้บัญญัติไว้เมื่อปี พ.ศ. 2536  ว่าต้องสร้างให้ได้ในระดับที่   พอใจประทับใจ บอกต่อ ปกป้องและรอคอย   มิใช่แค่พอใจคือได้ตามความคาดหวังของลูกค้าเท่านั้น

S=SPEND  หมายถึงการใช้จ่ายที่มากขึ้นในการซื้อ หรือ ใช้บริการ  เช่นถ้าเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคก็จพยายามที่จะขายต่อบิลให้มากขึ้น  ขายสินค้าที่ใช้ควบคู่กัน  หรือ ขายสินค้าที่มีโปรโมชั่น  ดังจะเป็นได้จากร้านสะดวกซื้อทั้งหลายที่พยายามขายเพิ่มตอนเราไปชำระเงิน  หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆก็มีสินค้าที่มาจูงใจอยู่ในหัวชั้น  หรือโปรโมชั่นตรงทางเดิน และ จุดชำระเงินเป็นต้น   ส่วนบริการก็เช่นเดียวกันเช่นโรงแรมก็ขายห้องพักพร้อมกับอาหารเช้า หรือแม้แต่การมีเวลคัมดริ้งค์ต้นทุนเล็กน้อยแต่ก็อาจจะเพิ่มให้ลูกค้าเห็นบรรยากาศในผับ หรือ ห้องอาหารที่จะเพิ่มอัตราการใช้บริการได้เป็นต้น  หรือร้านอาหารก็พยายามแนะนำรายการอาหารที่มีราคาสูงกว่า หรือ มีกำไรมากๆ  และยังสามารถขายของหวาน ผลไม้ และเครื่องดื่มพิเศษที่มีกำไรสูงได้

T=TRAFFIC  เพิ่มการหมุนเวียนของลุกค้าและปริมาณลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา  จะช่วยทำให้บรรยากาศเป็นไปแบบว่าร้านนี้น่าสนใจ  ของคงจะดี/อร่อย  คนถึงเต็มร้าน   ในภาษาจีนแต้จิ๋วจะมีคำว่า ”เหล่ายั๊ว”  ซื่งก็เป็นการสร้างบรรยากาศแห่งการจับจ่ายใช้สอย    หากเป็นร้าอาหารก็พยายามเพิ่มรอบในการขายเป็นต้น

            E=EMOTION  เพื่อเพิ่มสุนทรียะในการซื้อสร้างให้มีอารมณ์อยาก   เข้าไปใน ร้าน /เว็บ  แล้วมีอารมณ์ในการซื้อคืออยากซื้อ อยากไปใช้บริการ   เพราะอารมณ์ก่อให้เกิดความอยากบริโภค กิน ซื้อ นั่นเอง

            ดังนั้นผู้ประกอบการทั้งหลายก็คงไปหาแนวทางต่างๆที่จะช่วยเพิ่มยอดขายโดยใช้แนวทางข้างต้นในการพัฒนา  กระบวนการและแผนปฎิบัติการเพื่อเพิ่มยอดขายได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...