วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566

“พันธมิตร เพื่อพิชิตเส้นชัย”

 


            **** กิจการงานใดที่จะทำให้สำเร็จ  ต้องมีพันธมิตร  และทีมงาน   ในธุรกิจก็เช่นกัน  ก็มีหลายวิธีในการแสวงหาความร่วมมือทางธุรกิจ****

นิรนามเคยกล่าวไว้ว่า   : if you want to go fast, go alone; if you want to go far, go together?

           การหาพันธมิตรทางธุรกิจเป็นทางเลือกหนึ่ง เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญและเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรโดยการนำเอาทรัพยากรและดวามเชี่ยวชาญของพันธมิตรทางธุรกิจ มาบูรณาการให้เกิดประโยชน์

สูงสุดในรูปแบบความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน

***พันธมิตรทางธุรกิจ* **  หมายถึง ความร่วมมือระหว่างสององค์กรขึ้นไป   โดยตกลงร่วมมือกันในการนำ ประสบการณ์  เงินทุน  เทคดนโลยี่  ความเชี่ยวชาญ  มาแลกเปลี่ยน  หรือมาร่วมมือในการสร้างผลิตภัณฑ์ หรือ องค์กรใหม่ในการที่จะดำเนินธุรกิจร่วมกัน   ทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาวและเป็นการต่อเนื่องก็ได้

 สามารถแบ่งลักษณะความร่วมมือได้  3 ประการ คือ

            1. ความร่วมมือทางการตลาด อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และการใช้ช่องทางการตลาด

ร่วมกัน เพื่อพัฒนาสื่อการโฆษณาและส่งเสริมการขายร่วมกัน รวมถึงการนำเสนอตราสินค้าร่วมกัน (Brand X Brand )

เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่กว้างมากยิ่งขึ้น เป็นตัน  รวมถึงการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกัน

            2. ความร่วมมือด้านการผลิต  ทั้งอาจจะแลกเปลี่ยนข้อมูล  เทคโนโลยี่  กระบวนการผลิต  หรือ รับจ้างผลิตก็ได้  เช่น ขณะนี้พวกอาหารเสริม และเครื่องสำอางค์ทั้งหลาย  เซเลบทั้งหลายก็ไม่มีโรงงานผลิตจะเป็นการจ้างผลิตโดยอาศัยสูตร  เครื่องจักร  ฯลฯ ของผู้รับจ้างซึ่งผลิตให้กับหลายๆแบรนด์สินค้า   ในขณะที่เซเลบนั้นมีชื่อเสียง  มีคนติดตามในสื่อโซเชียล  มีช่องทางในการสื่อสาร โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และช่องทางจัดจำหน่าย  เป็นต้น 

            3. ความร่วมมือต้านการวิจัยและพัฒนา   สำหรับส่วนนี้ในประเทศไทยมักจะเป็นระหว่างหน่วยธุรกิจกับองค์กรอของรัฐหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ   เพราะองค์กรธุรกิจในประเทศไทยเองมีหน่วยงานวิจัยเองน้อยมากๆยกเว้นธุรกิจขนาดใหญที่มีทั้งงบประมาณและทรัพยากรในการดำเนินการดังกล่าว   ส่วนองค์กรขนาดเล็กก็มักจะอยู่ในลักษณะของการพัฒนาสินค้าไปตามองค์ความรู้  ประสบการณ์  และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ

วัตถุประสงค์ของการความร่วมมือทางธุรกิจ

            1. การเติบโตของกิจการ (Growth)  ซึ่งจะทำให้เกิดพลังในด้านการขาย  เพิ่มยอดขาย  เพราะอาจจะเป็นลักษณะของการการแชร์ฐานแฟนคลับ  ของทั้งสองแบรนด์   และยังช่วยสะท้อนภาพของการเป็นผู้นำ  หรือนวตกรรมของทั้งสององค์กรได้   และประการสุดท้ายเป็นการสร้างสีสันผ่านกิจกรรมทางการตลาด  ตลอดทำให้เกิดช่องทางการขายใหม่ๆ   ตัวอย่างที่น่าสนใจเช่น  โอวัลติน  ร่วมมือกับนมตรามะลิ  ขนมปังฟาร์มเฮาส์  ไอศครีมวอลล์  นำผงโอวัลตินไปใส่ในผลิตภัณฑ์ทั้งสามเป็นการเพิ่มยอดขาย  และพันธมิตรก็มีผลิตภัฑณ์รสชาดใหม่ๆในท้องตลาด     หรือการที่ อาริกาโตะร่วมมือดยการนำเอาเอ็ม150  มาผสมในเครื่องดื่มของอาริกาโตะ  ก็เป็นการเปลี่ยนโพสิชั่นนิ่งของเอ็ม 150 หรือ แสวงหาฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆอีกด้วย

            2.สร้างผลตอบแทนทางธุรกิจ ( Profitability)   ความร่วมมือบางครั้งก็สามารถทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ  หรือ ภูมิภาคใหม่  เช่น  ธนาคารกรุงเทพ เข้าซื้อกิจการของ ธนาคารเปอร์มาตา ของอินโดนีเซียโดยใช้เงินถึง  8 หมื่นกว่าล้านบาททำให้ได้ฐานลูกค้าอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากถึง 280 ล้านคน และเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งเปอร์มาตามีลูกค้ารายย่อย ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและลูกค้าองค์กร รวมกว่า 3.5 ล้านราย  ทำให้การลงทุนสามารถรับรู้ผลกำไรได้ทันที่  อีกทั้งยังทำให้ฐานะของธนาคารกรุงเทพมั่นคงยิ่งขึ้น

            3.ประหยัดเวลา  และเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน  (Saving time and increasing staff productivity )  เป็นการอาศัยความสามารถในการแข่งขันของแต่ละองค์กรมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน  ทำให้เกิดผลผลิต หรือ ประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น  นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดต้นทุนอีกทางหนึ่งด้วย

            4.คุณภาพของสินค้า และ งานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น  (Quality of work output )  การนำเอาประสบการณ์ ตลอดจนเทคนิกไม่ว่าจะทางด้านการผลิต การบริหารจัดการ  ประสบการณ์มาแบ่งปันทำให้คุณภาพของงานและผลลิตนั้นมีคุณภาพที่เพิ่มสูงขึ้น

            5.เพื่อร่วมเสริมสร้างนวตกรรม  (Innovation )  เป็นการเพิ่มนวตกรรมในทุกกระบวนการเพราะแต่ละองค์กรก็มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันออกไป  และยังเป็นการมุมมองและวิสัยทัศน์ใหม่ๆที่เกิดจากกการกระตุ้นการเรียนรู้ร่วมกัน  เช่นเอซซีแอสเส็ท  ร่วมมือกับอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น  โตเกียว ทาเทโมโน  ซึ่งเป็นเสริมแกร่งทั้ง  ทุน  องค์ควารู้เพราะโตเกียวทาเคโมโน  เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานถึง 126 ปี   และยังเชี่ยวชาญในทุกเซ้กเมนท์   และเชื่อได้ว่าจะได้ฐานลูกค้าที่เป็นชาวญี่ปุ่นอีกด้วย

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...