CR : Ski and Snowboard Association of Thailand
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองและบิ๊กป้อมใดๆทั้งสิ้น เพราะว่าลุงแกตกยุคไปเรียบร้อยโรงเรียนทักกี้แล้ว แต่เป็นเรื่องของเด็กสาวคนหนึ่งที่ในชีวิตไม่เคยใช้ชีวิตแบบจริงๆในเมืองหนาว หรือเคยเล่นกีฬาเมืองหนาว มาก่อนในชีวิต
ใช่ครับ.....ถ้าเป็นคนในวงการกีฬาก็คงจะเดาได้ว่าผมกำลังจะเขียนถึง “น้องชมพู่” หรือ “น้องแอน” หรือที่ชื่อจริงเธอคือ “อาเซเย กัมเปออล” ที่ได้รับเหรียญเงินโอลิมปิกเยาวชน ฤดูหนาวครั้งที่ 4 ที่เกาหลีเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ในกีฬาที่เรียกว่า Bobsleigh (เลื่อนน้ำแข็ง) ประเภท women’s Monobob ทำเวลาได้ 1:54.17 นาที เข้าเป็นที่ 2 แพ้นักกีฬาจากเดนมาร์ค ที่ทำเวลาได้ 1:53.31 ไปแค่ เสี้ยววินาที สำหรับกีฬาประเภทนี้ คือประมานว่ามีรถเลื่อนซึ่งนักกีฬาจะต้องดันเลื่อนอันนี้แล้วก็วิ่งขึ้นไปนั่ง เลื่อนจะวิ่งไปตามรางที่เป็นน้ำแข็งใครใช้เวลาน้อยที่สุดก็เป็นผู้ชนะไป
เห็นแค่ชื่อใครๆก็คงเดาได้ว่าน้องเป็นลูกครึ่ง.....และ.....คงใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหนาวที่ใดซักแห่งในโลกใบนี้
........ ใช่ครับ น้องเป็นลูกครึ่งอิตาลี อายุแค่ 18 ปี และคงเล่นกีฬาโอลิมปิกเยาวชนได้ครั้งนี้เท่านั้นเพราะครั้งหน้าอายุเกินแล้ว และจะต้องไปเล่นกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวต่อไป แต่ว่าน้องไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในอิตาลีครับเพราะพออายุ 5-6 ปี ก็กลับมาอยู่ที่ประเทศไทยจนปัจจุบัน
อ้าววว....แล้วน้องไปเล่น Bobsleigh (เลื่อนน้ำแข็ง) ได้อย่างไร อะไรเป็นแรงบันดาลใจ หรือ ใจบันดาลแรงครั้งนี้ ตามผมมาครับ
น้องเริ่มเล่นกีฬาที่เรียกว่า โรลเลอร์สกี ก็ยิ่งสงสัยว่าคือกีฬาอะไร ..... มันคือเอาสกีที่เล่นในเมืองหนาวมาใส่ล้อแล้วไถไปตามถนนซึ่งกำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย
CR : Ski and Snowboard Association of Thailand
หลังจากนั้นด้วยความร่วมมือของสมาคมสกีและสโนว์บอร์ดแห่งประเทศไทย กับทางเกาหลีที่มีทุนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้คนในประเทศร้อนหรืออบอุ่น ได้มีโอกาสในการเล่นและแข่งขันกีฬาฤดูหนาว โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้ไปแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ทางสมาคมจึงได้เปิดรับสมัครนำเยาวชนมาเข้าค่าย 28 คน และคัดเหลือ 12 คน แต่ด้วยความสัมพันธ์อันดีและหรือเห็นความตั้งใจจริงของสมาคมและเยาวชนที่เข้าค่ายกันมา เลยเพิ่มให้เป็น 19 คนซึ่งทางเกาหลีเป็นสปอนเซอร์ให้หมดทั้ง ค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร และ คชจ.อื่นๆ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งงบประมาณก็ได้รับการสนับสนุนจาก OLYMPIC SOLIDARITY กองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ และ คณะกรรมการโอลิมปิกของเกาหลี อันเป็นการตอกย้ำถึงปรัชญาของโอลิมปิก ที่มิใช่แค่การแข่งขันเพื่อชัยชนะแต่เพียงอย่างเดียวจะต้องส่งเสริมความเท่าเทียมในทุกๆด้าน จึงได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกๆประเทศในโลกนี้มี “โอกาส” ที่ทัดเทียมกัน ซึ่งได้มีหลายๆโครงการที่เป็นเครื่องตอกย้ำปรัชญานี้ เช่น การมีทีมนักกีฬาผู้ลี้ภัย การให้โควต้ากีฬาประเภททีมเช่นวอลเล่ย์บอลหากทวีปใดไม่มีทีมเข้าร่วมตามโควต้าแรกก็จะให้สิทธิ์ทีมที่อันดับดีที่สุดในทวีปนั้นเข้าร่วมซึ่งในปารีสเกมส์2024 นี้ คงเป็นทีมจากทวีปอัฟริกา เป็นต้น
โดยโครงการนี้เริ่มต้นเมือกลางปี 2022 “ชมพู่” เข้าร่วมการอบรมและได้เล่นเครื่องเล่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งผมเดาว่าน้องคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ไอ้ Bobsleigh (เลื่อนน้ำแข็ง) คืออะไร (ว๊ะ) ?? หลังจากนั้นได้รับการคัดเลือกให้กลับไปเก็บตัวและฝึกฝนกีฬาเลื่อนน้ำแข็ง ที่เกาหลีใต้อีกในปี 2023 ซึ่งในแผนการฝึกซ้อมในรอบสุดท้ายมีเยาวชนไทยได้รับการคัดเลือก 6 คน โดยสองเดือนแรกจะเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายและกล้ามเนื้อต่างๆตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา หลังจากนั้นก็เข้าสู่ฤดูการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนน โดยเริ่มตั้งแต่ ตุลาคม 2522 ถึง เดือน กุมภาพันธ์ 2023 รวมระยะเวลา 5 เดือน เพื่อลงแข่งขันจำนวน 8 ใน 12 ครั้งเพื่อเก็บคะแนนสะสม ซึ่งน้องก็เก็บคะแนนผ่านได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวในที่สุด
เวลาและคะแนนของน้องชมพู่อยู่กลางๆไปแข่งขันแบบไม่มีความหวังเสียเท่าใด ..... แต่ระยะเวลาที่เหลืออยู่ด้วยความทุ่มเทของน้องๆ สมาคม โค้ช ทีมงาน เจ้าหน้าที่ ก็พยายามอย่างเต็มความสามารถ สมกับแนวคิดของโอลิมปิกว่า
“ faster, higher, stronger-together ”
ซึ่งมิได้หมายถึงชัยชนะแต่เพียงอย่างเดียว ยังคงความหมายถึงว่า จะทำให้เร็วกว่าเดิม สูงกว่าเดิม เข้มแข็งกว่าเดิม และ ร่วมด้วยช่วยกันนั่นเอง
ที่สำคัญ.... น้องชมพู่..... มีความมุ่งมั่นอย่างมากทุ่มเทสุดกำลังและพักการเรียน ม.4-5 ที่ รร.กุมพวาปี “ชมพู่” ใช้ใจบันดาลแรง....แล้วแซงเข้าเส้นชัย แม้ลำดับที่สอง แต่ประวัติศาสตร์ต้องจากรึกไว้ว่า “ชมพู่” เป็นคนแรกที่ได้เหรียญทองกีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวของไทย และอาจจะเป็นคนแรกที่คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว(ประชาชาชน) ในอนาคตก็เป็นได้ เพราะน้องเป็นชาวอีสานบ้านเฮาที่เฮ็ดได้ทุกอย่างเด้อ..........