วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

“CREONOMIC”


นานมากแล้วที่หลักเศรษฐศาสตร์เคยสอนเราไว้ว่าให้ ECONOMY OF SCALE คือยิ่งผลิตมากๆราคายิ่งถูกลงเรื่อยๆ รวมทั้งเกิดทักษะจากการผลิตเมื่อต้นทุนต่ำกว่าก็สามารถขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าซึ่งน่าจะทำให้เกิดยอดขายที่สูงได้ แต่ถ้าถามว่ากำไรสูงสุดหรือเปล่าในสมัยก่อนคงตอบว่าน่าจะใช่ แต่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นคำตอบนี้อาจจะไม่ใช่ก็ได้ การขายน้อยชิ้นกว่าอาจทำกำไรได้มากกว่าก็ได้ถ้าหากสินค้านั้นมันตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งทางเหตุผลและอารมณ์ เหมือนอย่างเช่นการผลิตน้ำดื่มธรรมดาๆก็คงขายได้ขวดละไม่เกิน 5-7 บาท แต่ถ้าน้ำดื่มนั้นบรรจุขวดที่สวยงามและสามารถสื่อสารได้ถึงความบริสุทธิ์และดื่มแล้วมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิต (และที่สำคัญต่ออารมณ์ของคุณ)แล้วละก็ขวดละ หลายร้อยก็ขายได้ เช่นน้ำดื่มยี่ห้อ BLING H2O ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถขายน้ำดื่มได้ราคาสูงสุดถึง 2,600 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 83,000 บาท ผมเขียนไม่ผิดหรอกครับเพราะเป็นรุ่น Dubai Ten Thousand เพราะขวดประดับด้วยคริสตรัลสวารอฟสกี้ หนึ่งหมื่นเม็ดครับแถมเป็นรุ่นที่มีจำกัดผลิตตามคำสั่งซื้อเท่านั้น ถ้าเป็นพระเครื่องคงจะต้องตอกเลขประจำด้วย คนซื้อนอกจากมีเงินอย่างเดียวไม่พอครับต้อง “โง่และบ้า” ด้วย แต่มีคนซื้อจริงๆครับไม่เชื่อเข้าไปดูได้ที่เว็บไซท์ http://www.blingh2o.com/ ได้เลยครับ ราคารุ่นที่ต่ำสุดรู้สึกว่าจะประมาณขวดละพันบาทครับผม
ตั้งแต่พฤษภาคมถึงตุลาคมปี2553นี้จะมีมหกรรม WORLD EXPO ที่เซี่ยงไฮ้ก็เป็นอะไรอีกครั้งหนึ่งที่จีนมหาอำนาจโลกชาติหนึ่งจะจัดขึ้นหลังจากที่จัดโอลิมปิกไปเมื่อปี 2008 โดยลงทุนไปถึง 1.4 แสนล้านบาทประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณประเทศไทยครับ มีพื้นที่ในการจัดงาน 5.28 ตร.กม.ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมาก แถมตั้งอยู่ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งที่ผ่ากลางเมืองเซี่ยงไฮ้เป็นอะไรที่เลิศหรูอลังการมากยิ่งใครได้ดูทีวีพิธีเปิดงานแล้วอึ้งไปสามวันเลยครับ เป้าหมายของการจัดงานจะมีคนเข้าชม 70 ล้านคนครับ โดย 80 เปอร์เซนต์เป็นคนจีนจากมณฑลต่างๆ ลองนึกภาพดูนะครับจะเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเท่าไหร่หากมีคนมาในเมืองถึง 70 ล้านคนคิดเล่นๆว่าจะใช้จ่ายเงินคนละ 15,000 บาท ก็จะมีการหมุนเวียนของเงินรอบแรก 1.1 ล้านล้านบาทโดยประมาณ ก็ประมาณงบประมาณของรัฐบาลไทยทั้งปีละครับ นี่แค่รอบแรกคือเมื่อเราใช้จ่ายเงินไปซื้อของหรือใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องมีผู้ผลิต ผู้ขายส่ง ผู้ขายปลีก คนงานที่รับค่าแรง คนขายของ ฯลฯ ก็จะก่อให้เกิดการหมุนเวียนไปไม่รู้เท่าไหร่ ในขณะที่ประเทศไทยต้องกู้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ”ไทยเข้มแข็ง” 4 แสนล้านบาท ก็ลองคิดดูครับว่าใครเป็น CREONOMIC กว่ากัน เพราะคำนี้มาจากคำว่า CREATIVE+ECONOMIN นั่นเอง คือต้องใส่ความคิดสร้างสรรค์ ดีไซน์ ไอเดีย ไลฟ์สไตล์ มุมมอง และนำเสนอ เป็นระบบและกระตุกต่อมเร้าของลูกค้าได้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ได้อ่านข่าวว่าคุณอรรคพล สรสุชาติ ซึ่งเป็น ผอ.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ มีแนวคิดจะให้ไทยเสนอตัวรับเป็นเจ้าภาพ WORLD WXPO ในปี 2020 คืออีก 10 ปีจากนี้ไปคงต้องไปแข่งขันกันนำเสนอตัวเป็นเจ้าภาพถ้าสำเร็จประเทศไทยก็คงเฮละครับ แต่น่าคิดต่อไปว่าจะหาคนมาร่วมงาน 50-70 ล้านคนได้อย่างไรงานอย่างนี้ต้องอาศัยลูกค้าหรือกำลังซื้อในประเทศหรือประเทศใกล้เคียง ผมก็ห่วงว่าคนไทยที่มีศักยภาพและอยากดูงานนี้มีซักกี่ล้านคนเพื่อนบ้านลาว เขมร พม่า ไม่ต้องพึ่ง อาเซียนที่เหลือคงพอเก็บตกคนมาร่วมงานได้บ้าง เพราะอย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่ค่าบัตรเข้างานต้องมีค่าเดินทางหากเดินทางมาจากยุโรป อเมริกา อัฟริกา คงมีไม่กี่มากน้อยต้องอาศัยคนในภูมิภาค ก็คงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องช่วยกันคิดต่อไปในอนาคต(หากได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพ) แค่คิดว่าจะขอเป็นเจ้าภาพก็รู้สึกได้ถึงความเป็น CRATIVE แล้วครับ ผมให้คะแนนคุณอรรคพลเต็มร้อยครับ ทำไมเกาหลีเค้าพัฒนาประเทศไปได้เร็วกว่าไทยจำได้ว่าสมัยผมเด็กๆเกาหลีไม่มีเงินจัดเอเชียนเกมส์รู้สึกว่าจะครั้งที่ 6 ไทยรับเป็นเจ้าภาพให้ครับเกาหลีมีโครงการ “พัฒนาประเทศเรียกว่า ซะมะเอินอุนดง(แต่คงสะกดไม่ถูก) “ ก็คงคล้ายกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของเรานะครับ ตอนนี้เค้าจัดโอลิมปิก ฟุตบอลโลกไปเรียบร้อยแล้วครับ เค้าสร้างสังคมเศรษฐกิจสร้างสรรค์จริงๆครับ จนสำเร็จเป็น K-TREND ที่ลูกหลานเราเป็นสาวกอยู่ทุกวันนี้ไงละครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ดารา นักร้อง ภาพยนตร์ อาหาร ฯลฯ โอ้ยๆฝันว่า T-TREND กำลังจะเกิดครับผม
แค่ฝันก็เป็นสุขได้ครับแต่อย่าฝันแบบว่าลมลมแล้งๆที่ไม่มีโอกาสเป็นจริงได้ก็แล้วกัน เช่นฝันว่าคนๆหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยไปตามที่เราต้องการได้ทั้งหมด แล้วเราจะมาจมทุกข์อยู่กับความไม่สามารถเปลี่ยนแปลงของเค้าอยู่ทำมัยละครับ BOSS ผมเลยสอนว่า “อย่าโกรธเขาเพราะเขาไม่ใช่คนที่เรารัก” คิดได้ดังนี้ก็มีความสุขแล้วครับเจ้านาย ก็ลองดูซิครับว่าลูกชาวบ้านติดยาเราไม่โกรธแต่พอลูกเราติดยาเราคงโกรธนะเพราะเรา “รัก” เขานั่นเอง ขอบคุณครับ BOSS คุณภคิน นิธิธนภัทร.....

1 ความคิดเห็น:

  1. ของแพงสุดคาด มีผู้ซื้อและเป็นผู้กระจายข่าวด้วย เลยนึกได้ว่า คนไทยยุคใหม่ มีลักษณะ "5 ขี้" ประกอบด้วย 2 ก กับ 3 อ ได้แก่ ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้อวด ขี้อิจฉา และ ขี้เอา
    คงไม่แรงเท่าไร ยังเติมได้อีกหลาย ขี้ เอาไปเป็นแง่มุมทางการตลาดยังได้

    Schaiwath

    ตอบลบ

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...