วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

“อะไรก็เกิดขึ้นได้”

                      ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอน รู้สึกว่าคำนี้ผมจะได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆไม่ทราบว่าใครเป็นคนบัญญติไว้ แต่เข้าใจเอาเองว่าคงไม่ได้มาจากราชบัณฑิตแน่นอน เพราะพวกท่านเหล่านั้นจะบัญญัติอะไรที่มักจะไม่ค่อยได้ตรงใจวัยรุ่นเสียเท่าไหร่ และดูเหมือนว่าท่านไม่ค่อยจะเห็นชอบกับวัฒนาการของภาษา หรือแม้แต่บางครั้งภาษาแฟชั่นท่านก็เอามาเป็นเรื่องเป็นราว เพราะท่านไม่เข้าใจว่าถ้าเป็นภาษาแฟชั่นมันมาเดี๋ยวด๋าวแล้วก็จากไป ชิมิชิมิ.......ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ยินก็แล้ว เพราะมีคำว่า “น่ารักจุงเบย” มาแทนที่ อิอิ....


                 ผมเขียนบทความนี้ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ “น้องเม”เอรียา จุฑานุกาล ซึ่งเธออายุเพียง 17 ปีเท่านั้น เพิ่งพลาดโอกาสในการเป็นแชมป์ LPGA ทั้งๆที่เมื่อจบหลุม 17 นำอยู่ถึง 2 สโตรค เพราะว่าในหลุ่ม 18 เพียงแค่เซฟพาร์ หรือแค่โบกี้ ก็ยังสามารถเป็นแชมป์อยู่เพราะว่าคู่แข่งขันของเธอ ปาร์ค อิน บี จากเกาหลีใต้ เล่นจบ 18 หลุมไปแล้วและ “น้องเม” ยังนำอยู่ 2สโตรค หรืออย่างเลวล้ายที่สุดออกดับเบิ้ลโบกี้ซึ่งจะทำให้มีคะแนนเท่ากัน ก็ยังสามารถมาเล่นเพลย์ออฟคือเรียกว่ามีโอกาสแก้ตัวเล่นใหม่เพื่อหาแชมป์เดี่ยวๆได้ ซี่งนักกอล์ฟในระดับโลกขนาดนี้ การออกดับเบิ้ลโบกี้แทบจะเรียกได้ว่ายากมากๆที่จะมีใครเล่นแย่ขนาดนั้น ใครเลยจะเชื่อว่า “น้องเม” ตีช๊อตที่ 2 ไปตกในทรายแถมอยู่ที่ขอบและต้องยอมเสียดร๊อป ตีขึ้นจากทรายก็หลุดเลยกรีนไปต้องพัทเข้ามาใหม่ ดันติดฟินขอบกรีนอีกทำให้ต้องพัทซึ่งโอกาสน้อยมากเพราะระยะค่อนข้างไกลแถมถ้าพัทแรงไปจะไหลลงกรีนเลย ถ้าพัทลงก็ยังสามารถได้แชมป์รับเงินรางวัล 6 ล้านกว่าบาทไป แน่นอนพัทไม่ลงก็เลยต้องพัทอีกครั้งในระยะที่เรียกว่าไม่น่าพลาด เพราะถ้าพัทลูกนี้ลงก็ยังมีโอกาสแก้ตัวไปเล่นเพลย์ออฟได้อีก ไม่น่าเชื่อว่าระยะแค่นั้นกับดีกรีนักกอล์ฟระดับโลก .......”อะไรก็เกิดขึ้นได้” น้องเมพัทไม่ลงและเสียตำแหน่งแชม์ปทั้งๆที่ ปาร์คอินบี ขยับแข้งขยับขาเพื่อเตรียมรอแข่งเพลย์ออฟแล้ว ทำให้ได้แชมป์ไปแบบส้มหล่นไม่ต้องเหนื่อยทั้งๆที่เรียกได้ว่าโอกาสลุ้นแทบไม่มีอยู่แล้ว..................น้องเม ได้แค่รองแชมป์รับเงินรางวัล ไปประมาณ 4 ล้านบาท......@@


               เลยทำให้ผมนึกถึงการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษครั้งหนึ่งที่มีปาฎิหาร์เกิดขึ้นคล้ายๆกับ “น้องเม” เหมือนกัน เมื่อปีกลายนี้ 2555 คู่ปิดฤดูกาลชิงตำแหน่งแชมป์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด “แมนยู” กับ แมนเชสเตอร์ซิตี้ “แมนซิ” ทั้งสองมีคะแนนเท่านกันเพียงแต่ว่าประตูได้เสีย “แมนซิ” ดีกว่า คือหมายความว่า ถ้านัดนี้ทั้งสองทีมชนะ “แมนซิ” จะได้แชมป์ไปแม้คะแนนจะได้เท่ากันแต่พราะประตูได้เสียดีกว่า ครบเวลาเล่นทาง “แมนยู” ชนะไป 1 ต่อ 0 ในขณะที่ “แมนซิ” หมดเวลาแล้วยังตามคู่แข่งอยู่ 1 ต่อ 2 แต่มีทดเวลา 5 นาที ใครเลยจะเชื่อว่า “แมนซิ” จะยิงได้อีก 2 ประตู ในเวลา 5 นาที ทำให้ชนะไป 3 ต่อ 2 และเป็นแชมป์ไปชนะเพียงแค่ขนจมูกแบบต้องถ่ายรูปเลย เรียกได้ว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้” จริงๆ ทั้งสองกรณีนี้คงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า “ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน” เพราะหากยังไม่หมดเวลาแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้เพียงแต่มีความมุ่งมั่น ไม่ประมาท และมีสมาธิกับเกมส์เพราะเห็นได้ชัดว่า “น้องเม” สมาธิหลุด และใจเสียตั้งต้องเสียดร๊อปในหลุมทรายแล้ว ยิ่งตีขึ้นจากทรายก็เลยออกนอกกรีนไปอีก ยิ่งใจเสียไปกันใหญ่แต่น้องเค้ายังเด็กมีโอกาสอีกมากมายหลายสิบปีที่แจะพัฒนาต่อไปและเชื่อว่าจะยืนอยู่ในตำแหน่งต้นๆของนักกอล์ฟระดับโลก อายุเพียงแค่ 17 ปี ยังมีดีอีกเยอะครับน้องเมเพราะเด็กไทยอายุ 17 ปีอีกหลายล้านคนยังวิ่งเล่น และติดเกมส์ ติดยา ติดหญิง อยุ่เลยครับน้องอย่าได้เสียกำลังใจและมุ่งมั่นสู้ใหม่ และน้องจะยิ่งใหญ่ทั้งในเกมส์กอล์ฟ และ ยิ่งใหญ่ในหัวใจของกองเชียร์ชาวไทยอย่างแน่นอน
  
                   ในเกมส์ธุรกิจก็เฉกเช่นเดียวกันแม้เราจะมีข้อมูลและวางแผนทั้งแผนธุรกิจหรือแผนตลาดที่ดีเพียงใดก็ตาม  แม้คู่แข่งขันของเราจะอ่อนแรงลงอย่างไรก็ตาม  แต่ "อะไรก็เกิดขึ้นได้"  เฉกเช่นเดียวกับตัวอย่างของเกมส์กีฬาทั้งสองข้างต้น   ดังนั้นก็เหมือนกับที่พระท่านว่า "อย่าประมาท" และ "อนิจจัง" คือความไม่เที่ยงแท้แน่นอนนั่นเอง

                      อีก 5 วัน ก็จะได้เลือกผู้ว่า กทม. ซึ่งจะได้คนเก่าหรือคนใหม่ประชาชนเท่านั้นเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะครั้งนี้รู้สึกว่าคะแนนจะสูสีกันมากที่สุดเท่าที่เคยมีการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.มา แม้โพลหลายสำนักจะออกมาตรงกันว่า “จูดี้” จาก เพื่อไทย จะนำ “คุณชาย” จาก ประชาธิปัตย์ อยู่ มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่โพล ที่สำคัญทุกโพลให้ “จูดี้” นำทุกโพลนี่ซิน่าคิดครับ เพราะ “อะไรก็เกิดขึ้นได้” สุดท้ายประชาชนเป็นผู้ตัดสิน เพราะเกมส์นี้ไม่ใช่ นักแข่งทั้งสองคนเป็นคนตัดสิน เหมือน “น้องเม” และ “แมนซิ” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัคร หรือ คู่แข่ง แต่อยู่ในมือของประชาชนดังนั้น เชื่อผมเถอะว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้” ไหงมามาลงที่ ผู้ว่า กทม. ก็มิรู้ “คิดไม่ถืกเลย “ (ไม่ได้พิมพ์ผิด ขอบอก )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...