วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

“ตลาดเทศกาล เบิกบานยอดขาย”



                     ก็เหมือนเช่นเคยที่เทศกาลสงกรานต์ของประเทศไทยที่นับว่าเป็นเทศกาลที่น่าจะมีเงินหมุนเวียนมากที่สุดเทศกาลหนึ่ง   เพราะมีวันหยุดยาวและผู้คนเดินทางกลับไปเยี่ยมบุพการีและเป้นวันครอบครัว   แต่ก็อีกเช่นกันจะเป็นเทสกาลที่มีคนตายหรือประสบอุบัติเหตุจากการเดินทางทางรถยนต์มากที่สุด  ทุกปีมีคนตายประมาณ 300 คนเศษซึ่งปี 2557 นี้ก็มีคนตาย 300 คนเศษเช่นเดิม   เป็นปัญหาซ้ำซากที่ไม่สามารถแก้ได้เลยหรือ ??  จากปี 2550 เป็นต้นมามีเพียง ปี 2554 เท่านั้นที่คนตายน้อยกว่า 300 คน     เดิมคาดการณ์กันว่านักท่องเที่ยวที่จะมาช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คงจะลดน้อยลงอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ทางการเมืองในบ้านเรา  นี่ดีที่เหตุการณ์ทุเลาลงบ้างเลยทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยกันอย่างคึกคัก  แถมยังมากกว่าปี 2556  และมีเงินหมุนเวียนประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

                            และในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้อีกเช่นกันสินค้าหลายๆตัวก็จะทำการส่งเสริมการตลาด   ส่งเสริมการขาย  เพราะเทศกาลเป็นช่วงแห่งความคึกคักและสร้างอารมณ์ให้ผู้คนได้จับจ่ายใช้สอย   เรียกง่ายๆว่าทำให้มีอารมณ์ซื้อของว่างั้น >>>>>>>    เพราะเมื่อมีการเดินทางเกิดขึ้นก็จะเกิดการจับจ่ายใช้สอย  ประมาณการกันว่าจะมีคนไทยเดินทางถึง 4 ล้านคน   ยิ่งเป็นการเดินทางระยะเวลาหลายๆวันแล้วการจับจ่ายใช้สอยก็ยี่งมากขึ้นตามจำนวนวันนั่นเอง   ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวทั้งหลาย  รวมถึงศูนย์การค้า  การคมนาคมขนส่ง  ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็ต้องมุ่งเน้นการแสวงหายอดขายในช่วงนี้กันอย่างสุดขั้ว    เพราะเวลามันผ่านมาแล้วมันผ่านไปและต้องรอไปอีกปีหนึ่งทเศกาลนี้ถึงกลับมาอีกครั้ง   

                                ช่วงสงกรานต์ก็จะมีสินค้าที่เป็นคู่กัดกันตลอดกาลและจะขายดีช่วงเทศกาลนี้  เพราะมันเป็นฤดูร้อนที่ทุกคนต้องหิวกระหาย  ยิ่งอยู่นอกบ้านแล้วอากาสร้อนมากๆเช่นนี้ยิ่งทำให้กระหายน้ำดื่มเป็นอย่างแรง .......  น้ำดำ  ซึ่งแต่ก่อนมีคู่กันอภิมหาอมตนิรันดร์กาลอยู่เพียงคู่เดียว  คือ  โค้ก  กับ เป็บซี่   ปีนี้ได้ตัวเสริมที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นน้องใหม่ไฟแรงแซงด้วยช่องทางการจัดจำหน่าย  อย่าง เอส มาเป็นตัวกระตุ้นตลาดด้วยแล้วทำให้ตลาดคึกคักเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นตลาดที่หอมหวลมูลค่าถึง 45,000 ล้านบาทนะจะบอกให้.....

                                เอส  ที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “EST”  ที่หากเอา EST ไปต่อท้ายตัวใดแล้วมันหมายถึง ที่สุด   เช่น COOLEST BIGGEST   BEST  TALLEST   เป็นต้น  แถมออกเสียงเป็น  เอส ที่เป็นอักษรแรกของบริษัทเสริมสุขอีกเสียด้วย   ได้ทุ่มงบประมาณทุ่มเงินในช่วงเทศกาลนี้ถึง  30 ล้านบาท จากงบประมาณทั้งปีที่ 300 ล้านบาท   โดยสามารถแทรกตัวเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักของการจัดงานสงกรานต์ที่   

                ถนนข้าวสาร        ในกรุงเทพมหานคร  โดยแย่งการเป็นผู้สนับสนุนหลักมาจากโค้ก

                ถนนข้าวเหนียว   ในขอนแก่น

                งานสงกรานต์พัทยา

                งานสกรานต์อุดรธานี

                งานสงกรานต์จันทบุรี



                นับเป็นการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการแข่งขัน ระหว่าง  โค้ก  กับ เป็บซี่  ไปเป็นโค้ก กับ เอส  แทนอย่างไม่ต้องสงสัย  นี่ถ้าหากว่าไม่มีตลาดโมเดิ้นเทรดแล้วป่านนี้เป็บซี่อาจจะต้องเก็บของกลับบ้านไปแล้ว   เพราะสูญเสียตลาดในส่วนต่างจังหวัด  และตลาดร้านอาหารตามสั่ง  หรือร้านอาหารทั่วๆไป  ซึ่งเป็นตลาดขวดแก้วให้กับทั้งโค้ก และเอสไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา    จนเป็บซี่ ต้องออกกลยุทธเรื่องขนาดโดยมีกระป๋องสลิม  ขวด PET   มาแต่ก็เอาไม่อยู่เพราะแท้จริงแล้วสิ่งที่เป็บซี่ขาดก็คือ   ขวดแก้ว  และ  การกระจายสินค้าสู่ตลาดที่เรียกว่า เทรดดิชั่นแนล (ตลาดดั้งเดิม  เช่น ร้านอาหารตามสั่ง  ร้านค้าทั่วไป  ตู้แช่   ร้านกาแฟข้างถนน  ร้านส้มตำ ฯลฯ)  ที่เป็นตลาดส่วนใหญ่ ของน้ำดำ 
                แล้วสงกรานต์นี้ทำให้ผมสงสัยว่าเรามีถนนตระกูลข้าวอยู่ที่ไหนบ้าง   พอไปค้นหาก็พบว่ามีมากมายดังนี้   ถนนข้าวหอมมะลิ  ร้อยเอ็ด  /  ถนนข้าวเม่า  มหาสารคาม / ถนนข้าสังข์หยด พัทลุง / ถนนข้าวโพด  ชัยนาท  / ถนนข้าวต้ม  นครนายก  / ถนนข้าวแดง  ตาก  / ถนนข้าวเหนียวทุเรียน  จันทบุรี  .............น่าจะมีถนนข้าว....อื่นๆอีกใครตอบได้ช่วยบอกทีเถอะ @@   อนาคตคงมีออกมาเรื่อยๆ    ถนนข้าวมันไก่   ถนนข้าวหมูแดง  แน่ๆ.......
                

                 แต่มีสินค้าตัวหนึ่งออกแคมเปญมาช่วงสงกรานต์  ขอบอกว่าเมพมากๆ   กล้องวงจรปิด  ไว้จับ / ปราม  ขโมยก็ยังมาตักตวงยอดขายจากเทศกาลสงกรานต์กะเขาเหมือนกัน   เรียกว่าไม่ให้หลุดเทรนด   เพราะช่วงสงกรานต์ฝากบ้านไว้กะตำรวจแถมมีวงจรปิดเป็นตัวเสริมก็ดีมิใช่น้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...