วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

“SEASONAL MARKETING “



“SEASONAL MARKETING “
23  พฤษภาคม 2557
ดร.พงษ์ศักดิ์ สวัสดิเกียรติ
ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ  ม.เกษตรศาสตร์



            และแล้วการปฏิวัติรัฐประหารก็เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกจนได้เมื่อวานนี้ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นครั้งที่ 19 ในรอบ 82 ปี นับแต่ปี 2475  แต่คำถามว่าสมควรหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตอบแต่ว่าในเวทีโลกซึ่งครั้งนี้สหรัฐอเมริกา  ออกแถลงการณ์ที่ตรงไปตรงมาอย่างไม่น่าเชื่อ  ซึ่งบางท่านก็อาจจะว่า สหรัฐไม่ใช่พ่อ  ก็ถูก  เพราะก็เคยมีนายกอีกฝั่งหนึ่งก็เคยบอกว่า ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ     ส่วนลูกหลานไทยก็บอกได้คำเดียวว่า  ไทยแลนด์โอนลี่    เลยคิดว่าช่วงนี้เป็นเทศกาลปฏิวัติ    พอดีน้องคนนึงที่ทำงานบ่นในไลน์ว่าดีใจจุงเบยที่ปิดทีวีด้วย  เพราะคนจะหันมาซื้อดีวีดี (ของแท้) ที่น้องเค้าขายอยู่เป็นรายได้เสริม   เพราะผู้คนคงเซ็งจุงเบยที่ต้องกลับบ้านเร็วเพราะติดเคอร์ฟิวแถมถึงบ้านยังไม่มีรายการทีวีดูอีก   แม้มี 100 กว่างช่อง  ทั้งเคเบิล  ดิจิตอล  ดาวเทียม  ฯลฯ   อย่างนั้นคนจะต้องซื้อหนังชุด  ดีวีดี ฯลฯ ไปดูที่บ้านแน่นอน     นี่ซิ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส  ดังนั้นสมควรเปิดสาขา ช่องทางการขายเพิ่มขึ้นชั่วคราวโดยพลัน   แถมแช่งให้ปิดทีวีซักเดือนอีกด้วยโอ้ยยยอยากดู  AXN  CNBC  BBC  DIVA   ฯลฯ  ครับพี่น้อง
            การตลาดแบบนี้เค้าเรียกว่า การตลาดตามฤดูการ “SEASONAL  MARKETING” เพราะยอดขายมันจะมาตามฤดูกาลนั่นเอง   พอพูดถึงฤดูกาลฝรั่งเคยถามผมว่าประเทศไทยมีกี่ฤดูผมบอกว่ามี   3 ฤดู  คือ ร้อน ร้อนมาก  และร้อนที่สุด  อึ้งกิมกี่ไปเรย   ซึ่งฤดูกาลแบบนี้เป็นฤดูกาลตามสภาพภูมิกาอากาศ   แน่นอนว่าถ้ามีแต่ร้อนแบบบ้านเราคนขายเสื้อผ้าก็คงงั้นๆ   เพราะชุดเดียวเสียวได้ทุกฤดูกาลนั่นเอง   แต่ถ้าประเทศที่มี  ร้อนฝุดๆ   หนาวม๊วก   และฝนหนัก  แถมมีหิมะด้วย  โอ้ยขายเสื้อผ้ากัน 4 ฤดูกาลเลยชิมิ  หรืออย่างในประเทศญี่ปุ่นทำไมตอนนี้มีคนไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเยอะมากๆขอบอก    หลายคนอาจจะบอกว่าไม่ต้องมีวีซ่า  ก็ถูกแต่ไม่หมดเพราะที่สำคัญอีกสองประการคือ   ค่าทัวร์ถูกลงอันเป็นผลมาจากค่าเครื่องบินถูกลง(โลว์คอสแอร์ไลน์) หรือคงที่แต่คนรายได้มากกว่าเมื่อสิบปีที่ผ่านมา    และอีกประการคือ  ญี่ปุ่น  เที่ยวได้ทุกฤดูกาล   หน้าหนาวเพิ่งผ่านไปคนไปญี่ปุ่นไปฮอกไกโด  ไปดูเทศกาลหิมะ (หาอ่านได้จากเรื่อง โอฮาโยฮอกไกโดที่ผมเขียนไว้แล้ว)    นี่กำลังเย็นสบายไปดูกำแพงน้ำแข็งกัน  ดูทุ่งลาเวนเดอร์  ดูโน่นนั่นนี่โอ้ยดูได้ทั้งปี   ปีที่แล้วผมไปญี่ปุ่นสองครั้ง ฮอกไกโด  กับ โอกินาวา  พรุ่งนี้ ( 24 พค 57 )  จะไปนาโงย่า  อีกอิอิ   เห็นยังว่า  ต้องทำให้ฤดูไม่เป็นฤดู  คือต้องพยายามขายให้ได้ทุกเวลานั่นเอง      บรรหารบุรี เอ้ย สุพรรณบุรีก็เป็นตัวอย่างที่ดีเที่ยวได้ทุกฤดูกาล  ทุกเทศกาลสำราญบานแจ่มใส หุหุ.....................
           

            งั้นก็ขอสรุปประเด็นเด็ด   เด็ดยอดขาย  กระจายทุกเทศกาล ก็แล้วกันดังนี้
                        1.หาโอกาสจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง  หนาวก็ไปได้  ร้อยสบายๆ   ฝนเหรอไม่มีคนเที่ยวระยอง  รร.ก็จัดอบรมสัมนาซิเพราะมีสถานที่อยู่แล้ว  แค่เชิญวิทยากรระดับที่คนอยากฟังไป  หรือทำตลาดดีๆ เพราะมีโรงงาน ธุรกิจอยู่เยอะ  ต้นทุนการจัดฝึกอบรมเราก็น้อยกว่าบริษัททั่วไป  รร.อาจมีธุรกิจใหม่เป็นการถาวรไปเลยก็ได้
                        2.หาโอกาสจากเทศกาล  วันหยุด   ไม่มีเทศกาลก็จัดให้มีเทศกาลซิ  เช่น  หุ่นฟางนกที่ชัยนาท    เทศกาลมีอยู่แล้วตรุษจีน แต่บรรหารบุรีจัดแบบว่าใครๆก็อยากมาจนนครสวรรค์ต้องทบทวนเรย
                        3.หากโอกาสที่เหมาะสมจัดเทศกาลของตนเอง  ตอนปี 2000 มีตำนานว่าเมืองหนึ่งในเปรูจะธรณีสูบอะไรประมาณนี้   ร้านอาหารร้านหนึ่งจึงจัดเทศกาลขายดินเนอร์พิเศษฟาดกำไรไปหลายตังอยู่      หรือง่ายๆก็ทุกวันก่อตั้งห้างสรรพสินค้า  วันเกิดซ้อสามก็ได้
                        4.แต่ต้องระวังหากสภาพแวดล้อมเปลี่ยน   เกิดฮอกไกโดปีนี้หิมะไม่ตก   หรือตกน้อย  จะทำอย่างไร  หรือมีพายุหิมะไปเรยแบบสุดๆ    ก็ตัวใครตัวมันครับ
                        5.ต้องมีแผนการและวิธีการที่เหมาะสม   เรียกว่ามีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไรเรย   รวมทั้งการประเมินผลด้วยเช่น  บางธนาคารอุตสาห์ทำมาสค้อตครบรอบการก่อตั้งธนาคาร  ทำสติกเกอร์ในแอพลายน์  แต่ก็ทำแค่นั้นมันก็ได้แค่นั้นตอนนี้ไม่มีใครจำมาสค๊อตตัวนั้นได้เลย  จิงๆๆๆ   มันต้องมีแผนต่อยอดใช้การลงทุนนั้นให้คุ้มค่า
                        6.ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด  รวมทั้งสื่อใหม่ๆ  โซเชียลมีเดียที่ทรงพลังทั้งถูกตัง  ถูกตัว  แค่ทำให้ถูกต้อง  ก็ถูกใจเจ้าของบริษัทแล้วววว
                        7.อุปกรณ์  เครื่องมือ  อาจจะนำมารียูสใช้ในปีถัดไปได้อีก  อย่าทิ้งขว้างแถมเป็นขยะรกโลกอีก
                        8.สร้างเอกลักษณ์    อัตลักษณ์  ของงาน   ของเทศกาล  เป็นของตนเอง   นครพนมมีไหลเรือไฟ   สุรินทร์มีงานช้าง   ด่านซ้าย เลยมีผีตาโขน  อุบลแห่เทียนเข้าพรรษา  ภูเก็ตมีรีกัตต้า(แข่งเรือใบ) สุโขทัยมีลอยกระทง     จังหวัดอื่นๆ  ต้องหาเทศกาลมาขายแล้วแต่ต้องให้โดนใจด้วยนะครับ
                        9.เวลามีจำกัด  ต้องเร่งสร้างยอดขาย  เตรียมพร้อม  วันว.เวลา น.  จัดเต็ม   หากผิดพลาดต้องรอปีหน้านะครับ
                        10.หาพันธมิตร(ทางธุรกิจ) นะครับ  ช่วยกันออกตัง  ช่วยกันโปรโมท   ลดทุนเพิ่มคนลูกค้า
            สิงคโปร์อีกประเทศที่ได้เคยยกตัวอย่างไว้หลายคราว  ไทยแลนด์แดนแห่งสยามเมืองยิ้มได้พยายามโดย ททท.   ว่า  เมืองไทยเที่ยวได้ทุกเดือน  เมืองไทยไม่ไปไม่รู้(ว่ามีงี้ด้วยเหรอ)      ประมานนี้   นี่ก็น่าจะโปรโมทเทศกาล  เขตทหารห้ามเข้า  โดยมีโปรโมชั่น  ถ่ายรูปกับทหารและรถถังฟรีที่เดียวในสามโลก  ที่ปฏิวัติแล้วประชาชนเฉยๆแต่นักท่องเที่ยวหดหมดเพราะลองนึกดูว่าถ้ามีปฏิวัติในประเทศ...XXX  เราจะกล้าไปเที่ยวหรือไม่???   ใครบอกที................หนูไม่รู้     รู้แต่ว่าเมือคืนโชคดีไม่ได้ดูข่าวออกมาจากคาราโอเกะติดเคอร์ฟิวเลยหาเรื่องไม่กลับบ้านเรย....................ไชโย..............$$$$$

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...