วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

“อาลีบาบา มาแว้ว”





อาลีบาบา มาแว้ว
ดร.พงษ์ศักดิ์  สวัสดิเกียรติ
ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ม.เกษตรศาสตร์
กรรมการบริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการพิสิษฐ์กรุ้ป

                   ถ้าถามคนทั่วไปว่า อาลีบาบา นึกถึงอะไรจะมีคำตอบอยู่ สองคำตอบ    1. ไม่รู้  2.นิยายอาหรับราตรี 1001    แต่ถ้าถามคนในเมืองจีนที่มี่อยู่ 1,393,783,836   คน  คิดเป็น 19.24%  ขอบประชากรโลก     ส่วนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตของจีนนั้นหากเปรียบเทียบกับ    จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกโดยประมาณ 2.095 พันล้านคน หรือ 30.2 % ของประชากรทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือน มีนาคม 2554) โดยเมื่อเปรียบเทียบในทวีปต่าง ๆ พบว่าทวีปที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือ เอเชีย โดยคิดเป็น 44.0 % ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด และประเทศที่มีประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือประเทศจีน คิดเป็นจำนวน 384 ล้านคน  ซึ่งคนจีน 384 ล้านคนนี้มีน้อยคนมากที่จะไม่รู้จัก  อาลีบาบา   เพราะเป็นเว็บที่มีคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก   คนจีนบางคนเคยบอกด็วยซ้ำว่าทุกคนน่าจะเคยใช้บริการของอาลีบาบา กันทุกคนแล้ว     
                   ขอขยามความธุรกิจของอาลีบาบาเผื่อท่านที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน   อาลีบาบา เป็นธุรกิจที่เป็นเว็บสำหรับธุรกิจเป็นหลัก  โดยมีเว็บ ชื่อ “ALIBABA.COM” ดำเนินธุรกิจ B2B คือเป็นธุรกิจสำหรับหาคู่ค้าทั้งขายและซื้อสินค้าสำหรับองค์กรธุรกิจ   ผมเองก็เป็นผู้ใช้งานมาตั้งแต่อาลีบาบายังไม่ดังเท่าใด   ซึ่งเดิมนั้นสำหรับหาสินค้าในเมืองจีนเท่านั้นแต่ปัจจุบันก็ขยายตัวมีสินค้าทุกประเภทและทุกประเทศทั่วโลก    นอกจากนี้แล้วยังมีเว็บชื่อ TAOBAO.com” เว็บนี้สำหรับ C2C  คือเป็นประมาณว่าเป็นผู้ค้าบุคคลมาเปิดร้านซื้อขายสินค้ากัน  ผู้บริโภคก็ไปเซิชหาสินค้าหาซื้อได้ตามสะดวก  และเว็บสุดท้าย “TMALL.COM” เป็นธุรกิจแบบ B2C  คือให้ธุรกิจขนาดเล็กมาเปิดเว็บขายสินค้าให้กับผู้บริโภคทั่วไป  ซึ่ง2เว็บหลังนี้เจริญเติบโตตามจำนวนประชากรที่ใช้อินเตอร์เน็ตและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น    ซึ่งรายละเอียดคงหาอ่านจากหลายๆแหล่งข้อมูล   แต่อยากจะขอบอกว่าถ้าเคยใช้บริการแล้วจะติดใจมากผมเพียงแค่เคยเข้าไปใช้บริการเว็บ อาลีบาบา  หลังจากนั้นมีผู้ค้ารายใหม่ๆเข้ามาและมีสินค้ากับทีผมเคยแสวงหาไว้มันจะส่งมาแจ้งให้ทราบโดยตลอดเรยนับว่าทุ่นเวลาสำหรับการหาแหล่งซัพพลายวัตถุดิบหรื่อเครื่องจักร   ในเวลาเดียวกันก็เป็นแหล่งที่จะเสนอขายสินค้าของเราได้อีกทางหนึ่งด้วย
                   แต่เมื่ออาลีบาบาเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกานี่ซิน่าสนใจกว่า  เพราะมูลค่าที่เสนอขายคือ  25,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา  คิดเป็นเงินไทย  800,000 ล้าน.....ต้องอุทานว่า อุต๊ะ  มากว่า อเมซอน  มากว่าเฟสบุค  ตอนเข้าตลาดเสียอีก  แถมราคาหุ้นเมื่อซื้อขายก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปิดที่ 93.89 เหรียญ/หุ้น  จากราคาเปิด 68 เหรียญ  ทำให้มูลค่าหุ้นทั้งหมดของอาลีบาบา ในวันปิดตลาดวันแรกคือ 231,400 ล้านเหรียญ  คิดเป็นเงินไทย  7.4 ล้านล้าน  บาท  หรือประมาณ งบประมาณรัฐบาลไทย  3  ปี  (โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง  งบประมาณประเทศไทย 3 ปี)   ทำให้แจ๊คหม่าซึ่งเป็นซีอีโอรวยไม่รู้เรื่องเรยเพราะเขาใช้เวลาตั้งแต่ปี  2538 เพียง 19 ปีเท่านนั้นเพราะเขาเห็นโอกาสทางธุรกิจซึ่งในขณะนั้นประเทศจีนยังมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพียงอยู่หยิบมือเดียว  และในปี 2542 มีคนงานเพียง 18 คน แต่ในปัจจุบันมีถึง  20,000 คน  อะไรจะประมาณนั้นหากไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นอยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษโดยยอมลงทุนปั่นจักรยานไปยังโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยว    และอาสาเป็นไกด์พาเที่ยวฟรีเพื่อให้ได้มีโอกาสฝึกพูดภาษาอังกฤษ   ที่สำคัญไปกว่านั้นในวันเวลาก่อนที่หุ้นจะเข้าตลาดซึ่งตอนนั้นผมอยู่ที่เซียงไฮ้พอดี   มีทีวีช่อง CNBC ไปสัมภาษณ์ซึ่งผมประทับใจเขาอยู่สองประเด็น  (ส่วนประเด็นที่เหลือฟังไม่รู้เรื่องมั้ง  5555 )  คือ
                   ผู้ดำเนินรายการถามว่ามีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจอย่างไร  แจคหม่า  บอกว่า เขาเรียงลำดับความสำคัญบุคคลที่เกี่ยวพันกับบริษัทดังนี้      ลูกค้า    ต่อด้วยพนักงาน   และสุดท้ายคือผู้ถือหุ้น     สรุปโดยรวมว่าเมื่อสองกลุ่มแรกรักและภักดีต่อองค์กรแล้วผู้ถื้อหุ้นก็ได้ประโยชน์เอง   โดยจะต้องทุกวถีทางที่จะสนอบตอบความต้องการของลูกค้านั้นเอง   ก็เป็นหลักการตลาด 101  ที่ทุกคนเข้าใจหมด เพราะเรียนมาเล่มเดียวกันแต่ต่างกันที่การนำหลักไปแปรเป็นแนวปฏิบัติ
                   ส่วนประเด็นที่สองผู้ดำเนินรายการถามว่ามีใครเป็นไอดอลหรือว่าแรงบันดาลใจหรือไม่   ไม่น่าเชื่อว่าแจคหม่า  ตอบว่า   ฟอเรสกัมป์  ซึ่งก็คือชื่อตัวละครในภาพยนต์เรื่อง  “DUMP AND DUMBER”  ซึ่งเป็นคนทึ่มๆอะไรประมาณนี้แต่ก็ประสบความสำเร็จ   แจคหม่า บอกว่า  WHO ARE WHAT YOU ARE    ผมอนุมานเอาว่าคุณเป็นใครไม่สำคัญเท่าคุณเป็นตัวคุณเอง  ก็ประสบความสำเร็จได้....................เหมือนผม.....แต่ก็อยากจะบอกน้อง แจ้คว่าแม้พี่นี้จะหน้าตาหล่อเหล่ากว่าน้องมากมายแต่คงมีความสามารถไม่เท่าน้องแน่นอน........

                    ...... หัวคิดนาย หล่อมาก หวะ........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...