วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

WINTER LOVE SONG



           

            ชื่อบทความวันนี้ดั้งเดิมเป็นชื่อภาพยนต์ทางทีวีของเกาหลีเค้าที่ชื่อว่า “เพลงรักในสายลมหนาว”   แต่คงไม่ได้เขียนเกี่ยวกับภาพยนต์เรื่องนี้เพียงแต่ชื่อมันสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว   ที่มีอีเวนต์คอนเสิรท์ตามสถานที่ต่างๆที่มีความหนาวเป็นเพื่อนนั่นเอง    เมื่องสามปีก่อนได้มีโอกาสไป  “มันใหญ่มาก”  ที่เขาใหญ่แน่นอนต้องเป็นบัตรฟรีจากเสริมสุขด้วยความอนุเคราะห์จากเพื่อนรักที่ชื่อ คุณปริญญา  เพิ่มพานิช  ที่ไปไม่ใช่หลงไหลในเสียงเพลงแต่อยากไปสัมผัสบรรยากาศสายลมหนาว  และ คอนเสิร์ตที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน    เจ้าหน้าที่ตรวจบัตรเข้างานแซวเล่นๆว่า “ลุงมารอรับหลานเหรอครับ”  มันคงบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าใครบ้างที่เข้ามาดูคอนเสิรต์นี้    ลูกค้าเป้าหมายชัดเจนมากเพราะทั้งสปอนเซอร์  และนักร้อง แนวเพลงซึ่งมีเวทีหลายเวทีมากๆ  เข้าใจว่าเป็นคอนเสิรต์ที่มีเวทีแสดงมากที่สุดในประเทศไทย   รวมทั้งมีเวที/บูท ในการจัดกิจกรรมต่างๆมากมาย  เรียกว่าไปดูคอนเสริต์  และนอนในบริเวณงานได้เรยสามวันสามคืน 

            
     ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ได้รับบัตรฟรีอีกแล้วครับท่านแต่ว่าแนวคอนเสิรต์นี้สอดคล้องกับ สว.อย่างเรา  แค่ชื่อก็ชัดเรย  “YESTERDAY ONCE MORE”  เป็นแนวยุค 80 จัดที่หัวหินซึ่งได้สัมผัสกับลมหนาวนีสๆ  ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ   เพราะก่อนหน้านั้นมีคอนเสิรต์ทีกรุงเทพ ชื่อ “ THE PALACE” ก็เจาะยุค 80  ทั้งสองงานผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการคือ “คริสตัล”  น้ำดื่มมาตราฐาน NSF ของค่ายเสริมสุขนั่นเอง   แน่นอนว่าคนในยุค 80 วันนี้เป็นคนที่การงานก้าวหน้ามั่นคง  และมีกำลังซื้อมากแถมมีพฤติกรรมจับจ่ายใช้สอยมากกว่าคนในยุค 60 ที่ต้องผ่านศึกสงครามอยู่ในยุคสร้างชาติต้องประหยัดมัธยัสต์  จนเราจะสังเกตุได้ว่าสินค้าที่หลายๆค่ายมาให้ความสำคัญกับคนยุค 80 มากขึ้นกว่าเดิมเพราะความกล้าจับจ่ายใช้สอย   บัตรราคาต่ำสุด 2000 บาทแถมต้องนั่งพื้นยังขายได้  คิดเอาเองแล้วกันว่าบัตรที่มีเก้าอี้นั่งจะราคาเท่าใด  ทั้งงานคาดว่าคนจะประมาณ 5000 คนได้ 

             สายลมหนาวและบรรยากาศใกล้ปีใหม่ทำให้อารมณ์ของผู้บริโภคมีอารมณ์จับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น  ทำให้มีคอนเสิรต์ในช่วงเดือน พฤศจิกายนและธันวาคมรวมแล้วเกือบ 20 งาน  ไม่ว่าจะเป็น สามคอนเสิรต์ที่กล่าวถึงไปแล้ว  ยังมี  “มันไก่มาก” ออกแนวบู๊ๆสำหรับ นักเรียน รด.

“เชียงคานเคาท์ดาวน์”  “ปายอินเลิฟ”  “เมจิกมิวสิคที่เขานกยูง”  “EST  Present โสดเสียงสูง” แน่อนสำหรับคนโสดและคนอยากโสด อิอิ... ฯลฯ  อีกมากมาย

            จะเห็นได้ว่าคอนเสิรต์เหล่านี้มีองค์ประกอบอยู่ 4 อย่างที่ทำให้ประสบความสำเร็จหรือไม่   1.ผู้จัด Organizer   2.ศิลปิน  3. คนฟังกลุ่มเป้าหมาย  4.สถานที่  และ บรรยากาศ  หรือฤดูกาล   ดังนั้นหน่วยราชการ  อบจ.  สถานที่ท่องเที่ยว  หรือ อปถ.ใด อยากให้ท้องถิ่นของตนเองมีคนมาท่องเที่ยวลองหาแนวทางที่จะนำทั้งสี่ส่วนมามิกซ์กันให้ลงตัวที่เหลือก็คือเงินหมุนเวียนในท้องถิ่นของท่านนั่นเองครับผม.........


ศรีลังกาพาสุขใจ



                    
                ผมไปศรีลังกาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ได้พบความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายประการ  เลยอยากจะนำมาแลกเปลี่ยนกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครจำได้เมื่อก่อนนี้เราจะนึกถึงอยู่สองเรื่องถ้าพูดถึงศรีลังกา   คือกบฎพยัคทมิฬอีแลม  และ ศาสนาพุทธ    ขอนำเรื่องกบฎพยัคทมิฬอีแลมมาคุยกันก่อน  คือตอนปี 2509 ที่ผมเดินทางไปศรีลังกาครั้งแรกนั้นเป็นช่วงแรกๆที่มีการสงบศึกยุติการสู้รบในศรีลังกา  และทั้งสองฝ่ายคือรัฐและกบฎได้มาพูดคุยสันติภาพที่ภูเก็ตของเราก็หลายครั้ง    เครื่องบินจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเดินทางไปถึงที่โคลอมโบเมืองหลวงศรีลังกาประมาณเที่ยงคืน   ดังนั้นการเดินทางเข้าไปยังกลางเมืองหรือโรงแรมก็จะต้องผ่านบ้านเมืองที่เพิ่งยุติสงครามกลางเมือง  ก็จะมีด่านตรวจที่มีทหารถือปืนอยู่หลายด่าน  ประกอบกับถนนหนทางนั้นมืดเป็นส่วนใหญ่  รถลาก็ไม่มากนักทำให้รู้สึกว่าต้องตื่นอยู่ตลอดเวลาและนึกว่าเราจะปลอดภัยไปถึงโรงแรมหรือไม่   การเดินทางแค่ 30 กม.เศษจึงรู้สึกว่าน่ากลัวอยู่ไม่น้อย   
                 แต่วันนี้หลังจาก 5 ปีผ่านไปไม่มีภาพเหล่านั้นให้เห็นอีกแล้ว  ซึ่งบ่งบอกถึงความสงบที่แท้จริงแถมทางด่วนตรงจากสนามบินไฟฟ้าสว่างไสว   ใช้เวลารวมแล้วประมาณ  40 นาทีก็ถึงโรงแรม    ป้ายจราจร หรือป้ายบอกทาง  รวมทั้งสถานที่ราชการทั้งหลายก็จะมี 3 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ  ภาษาสิงหล และภาษาทมิฬ  เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศแม้จะใช้ภาษาคนละภาษา   ซึ่งประชากรทั้งประเทศเป็นสิงหลเป็นส่วนใหญ่เกือบ 80% ถ้าใช้แต่ภาษาสิงหลก็จะทำให้ชาวทมิฬนั้นรู้สึกถึงความเป็นชนกลุ่มน้อย  ซึ่งในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็จบลงด้วยดี   ร่วมกันพัฒนาประเทศจากที่รบพุ่งกันเองมาร่วมกันสร้างประเทศ   แตกต่างจากประเทศไทยเราจากสงบร่มเย็นมาเป็นรบพุ่งแม้ไม่เหมือนกันก็เกือบจะเหมือนหรืออาจจะเหมือนในอนาคตอันใกล้ก็ไม่รู้
            ส่วนทางด้านศาสนานั้นในสมัยก่อนพุทธศาสนาของบ้านเราได้รับอิทธิพลจากศรีลังกาเป็นอย่างมากจึงเรียกว่า  พุทธศาสนา”ลังกาวงษ์”  แต่ปัจจุบันนี้กลับกันไทยเราเสียอีกต้องไปทำนุบำระพระพุทธศาสนาทั้งในศรีลังกา และอินเดีย   ซึ่งสังเกตุได้จากจำนวนคนไทยที่ไปร่วมทำบุญก่อสร้าง  บำรุงพระศาสนาในสองประเทศ  จนชาวศรีลังกาให้ชื่อว่า  พุทธศาสนา”สยามวงษ์”   ผมเองตอนไปศรีลังกาครั้งก่อนนั้นได้มีโอกาสไปกราบพระเขี้ยงแก้วที่เมืองแคนดี้  พอเจ้าหน้าที่รู้ว่าเป็นคนไทยก็อนุญาติให้เข้าไปในโถงด้านในที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว  ในขณะที่คนท้องถิ่นนั้นต้องกราบอยู่ทางด้านนอก  นับเป็นบุญที่ได้มีโอกาสกราบพระเขี้ยวแก้วอย่างใกล้ชิด    ผมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ได้กรุณาอำนวยความสะดวกซึ่งเขาก็บอกว่าเขาชอบคนไทย  รักคนไทย  คนไทยใจดีช่วยบำรุงพระศาสนาในศรีลังกา ฯลฯ    รวมทั้งคู่ค้าผมก็นิยมชมชอบในคนไทย  ประเทศไทย  สินค้าไทย  ก็เลยทำให้คุยกันง่ายขึ้นและขายของสะดวกขึ้นด้วย
            ไปครั้งนี้ผมเห็นมีการก่อสร้างขนาดใหญ่โดยการถมทะเลออกไป 500 เอเคอร์ ประมาณ 1250 ไร่  เรียกว่าเป็นอภิมหาโปรเจคของศรีลังกาที่เป็นการลงทุนโดยบริษัทจีน  จัดทำเป็นเมืองใหม่เลย  มีทั้งสถานบริการ  สวนสนุก  โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ระบบรถสาธารนะ ฯลฯ  น่าจะให้เวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี กว่าจะเสร็จโครงการ  แต่ถ้าเสร็จเมื่อใดก็น่าจะเป็นแหล่งธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของศรีลังกา  ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวแค่ 1 -2 ล้านคนเศษ  เทียบไม่ได้กับประเทศไทยที่มีนักท่องเที่ยวถึง 25 ล้านคนเศษ    แต่อย่างประมาทไปความสุขสงบ  และแหล่งอารยธรรมและพระศาสนา  อาจจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญต่อ GPP ของประเทศแน่นอน  
            อนึ่งสำหรับการลงทุนของนักลงทุนไทยนั้นแนะนำอยู่ 3 อย่าง   ท่องเที่ยว   บริการ  และสุขภาพ  เพราะทั้งสามนั้นเป็นสิ่งที่ชาวศรีลังกาชื่นชอบในสินค้าไทยและคนไทยตลอดจนการบริการเป็นทุนเดินมอยู่แล้ว   แต่คงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตข้างหน้ามากกว่าจะเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เฉพาะหน้า.
               สุดท้ายที่เป็นเรื่องน่าปลาบปลื้มใจคือคู่ค้าของผมทั้ง 3 ราย  ได้สอบถามถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราด้วยความห่วงใย   ทรงถามถึงพระราชกรณียกิจและกล่าวชื่นชมคนไทยที่มีในหลวงที่ทรงรักและทำเพื่อประเทศชาติ   ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ.........

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...