แต่วันนี้หลังจาก 5
ปีผ่านไปไม่มีภาพเหล่านั้นให้เห็นอีกแล้ว
ซึ่งบ่งบอกถึงความสงบที่แท้จริงแถมทางด่วนตรงจากสนามบินไฟฟ้าสว่างไสว ใช้เวลารวมแล้วประมาณ 40 นาทีก็ถึงโรงแรม ป้ายจราจร หรือป้ายบอกทาง รวมทั้งสถานที่ราชการทั้งหลายก็จะมี 3 ภาษา คือ
ภาษาอังกฤษ ภาษาสิงหล และภาษาทมิฬ
เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศแม้จะใช้ภาษาคนละภาษา ซึ่งประชากรทั้งประเทศเป็นสิงหลเป็นส่วนใหญ่เกือบ
80%
ถ้าใช้แต่ภาษาสิงหลก็จะทำให้ชาวทมิฬนั้นรู้สึกถึงความเป็นชนกลุ่มน้อย ซึ่งในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็จบลงด้วยดี
ร่วมกันพัฒนาประเทศจากที่รบพุ่งกันเองมาร่วมกันสร้างประเทศ
แตกต่างจากประเทศไทยเราจากสงบร่มเย็นมาเป็นรบพุ่งแม้ไม่เหมือนกันก็เกือบจะเหมือนหรืออาจจะเหมือนในอนาคตอันใกล้ก็ไม่รู้
ส่วนทางด้านศาสนานั้นในสมัยก่อนพุทธศาสนาของบ้านเราได้รับอิทธิพลจากศรีลังกาเป็นอย่างมากจึงเรียกว่า พุทธศาสนา”ลังกาวงษ์”
แต่ปัจจุบันนี้กลับกันไทยเราเสียอีกต้องไปทำนุบำระพระพุทธศาสนาทั้งในศรีลังกา
และอินเดีย ซึ่งสังเกตุได้จากจำนวนคนไทยที่ไปร่วมทำบุญก่อสร้าง บำรุงพระศาสนาในสองประเทศ จนชาวศรีลังกาให้ชื่อว่า พุทธศาสนา”สยามวงษ์”
ผมเองตอนไปศรีลังกาครั้งก่อนนั้นได้มีโอกาสไปกราบพระเขี้ยงแก้วที่เมืองแคนดี้
พอเจ้าหน้าที่รู้ว่าเป็นคนไทยก็อนุญาติให้เข้าไปในโถงด้านในที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว
ในขณะที่คนท้องถิ่นนั้นต้องกราบอยู่ทางด้านนอก
นับเป็นบุญที่ได้มีโอกาสกราบพระเขี้ยวแก้วอย่างใกล้ชิด ผมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ได้กรุณาอำนวยความสะดวกซึ่งเขาก็บอกว่าเขาชอบคนไทย รักคนไทย
คนไทยใจดีช่วยบำรุงพระศาสนาในศรีลังกา ฯลฯ รวมทั้งคู่ค้าผมก็นิยมชมชอบในคนไทย ประเทศไทย
สินค้าไทย
ก็เลยทำให้คุยกันง่ายขึ้นและขายของสะดวกขึ้นด้วย
ไปครั้งนี้ผมเห็นมีการก่อสร้างขนาดใหญ่โดยการถมทะเลออกไป
500 เอเคอร์ ประมาณ 1250 ไร่
เรียกว่าเป็นอภิมหาโปรเจคของศรีลังกาที่เป็นการลงทุนโดยบริษัทจีน จัดทำเป็นเมืองใหม่เลย มีทั้งสถานบริการ สวนสนุก
โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ระบบรถสาธารนะ ฯลฯ
น่าจะให้เวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี กว่าจะเสร็จโครงการ แต่ถ้าเสร็จเมื่อใดก็น่าจะเป็นแหล่งธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของศรีลังกา ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวแค่ 1 -2
ล้านคนเศษ
เทียบไม่ได้กับประเทศไทยที่มีนักท่องเที่ยวถึง 25 ล้านคนเศษ แต่อย่างประมาทไปความสุขสงบ และแหล่งอารยธรรมและพระศาสนา
อาจจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญต่อ GPP ของประเทศแน่นอน
อนึ่งสำหรับการลงทุนของนักลงทุนไทยนั้นแนะนำอยู่
3 อย่าง ท่องเที่ยว บริการ
และสุขภาพ
เพราะทั้งสามนั้นเป็นสิ่งที่ชาวศรีลังกาชื่นชอบในสินค้าไทยและคนไทยตลอดจนการบริการเป็นทุนเดินมอยู่แล้ว
แต่คงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตข้างหน้ามากกว่าจะเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เฉพาะหน้า.
สุดท้ายที่เป็นเรื่องน่าปลาบปลื้มใจคือคู่ค้าของผมทั้ง 3 ราย ได้สอบถามถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราด้วยความห่วงใย ทรงถามถึงพระราชกรณียกิจและกล่าวชื่นชมคนไทยที่มีในหลวงที่ทรงรักและทำเพื่อประเทศชาติ ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ.........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น