ผมไปเวียดนามครั้งแรกเมื่อปี 1996 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แล้วก็ไม่ได้ไปอีกเลยจนมาถึงปี 2003 หรือเมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสกลับไปเวียดนามอีกครั้งหนึ่งและหลังจากนั้นก็เดินทางไปเวียดนามทุกปี เพราะมีลูกค้าซึ่งนำสินค้าสีพิมพ์ผ้าของผมไปขาย ผมได้เป็นพัฒนาการของเวียดนามโดยเฉพาะโฮจิมินท์ตลอดระยะเวลา 13 ปี และปี 2015 ผมได้เดินทางไปฮานอย ยอมรับว่าน่าเป็นห่วงว่าในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้เวียดนามจะตามไทยทันหรือไม่ อาจไม่ใช่ในช่วงอายุผมแต่เชื่อได้ว่าช่วงอายุของลูกคงได้เห็นเวียดนามตามไทยทันแน่
เอเยนต์ผมในเวียดนามครั้งแรกที่มาพบผมและขอเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าผมในเวียดนามถามผมว่า
“พิกเมนท์ (ชื่อกลุ่มสินค้า) เอาไปทำอะไร?” ก็อึ่งกิมกี่เพราะคุณจะขายสินค้าผมแต่คุณยังไม่รู้เลยว่าสินค้านั้นเอาไปทำอะไร
แต่ด้วยความที่ผมก็ยังไม่มีใครเป็นคู่ค้าในเวียดนามก็เลยตามรับไป แบบ มั่ว ๆ งง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาแค่ 2 ปีเขาสามารถมียอดซื้อถึงประมาณ
70,000 เหรียญสหรัฐ ตกปีละประมาณ 2 ล้านบาทเศษ
มาปีที่แล้วมียอดขายถึง 160,000
เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยเกือบ 6
ล้านบาท
นี่คงเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและอดทนประกอบกับความเพรียพยายามจากยอดขาย 0
บาทเป็น 6 ล้านบาท
บางคนอาจคิดค้านอยู่ในใจว่าเวียดนามไม่มีทางตามเราทัน แต่ผมขอถามกลับว่าทำไมเราตามมาเลเซียทัน นำฟิลิปปินส์
และอินโดนิเซีย และที่สำคัญทำไมเกาหลีถึงแซงเราไปได้ตอนประมาณปี
1970 ประเทศไทยต้องจัดกีฬาเอเซี่ยนเกมส์ครั้งที่ 6 แทนเกาหลีใต้เนื่องจากเขาไม่มีเงินจัดการแข่งขัน
แต่มาวันนี้เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคและฟุตบอลโลกไปแล้ว อย่าคิดว่าคู่แข่งขันไม่มีทางตามเราทันหรือชนะเรา ถ้าคิดอย่างนี้เราก็จะตกอยู่ในความประมาท
เกือบทุกครั้งในเวลากลางคืนขณะเดินทางกลับที่พักผมเห็นเยาวชนเวียดนามเดินทางไปเรียนหลักสูตร หรือเรียนพิเศษต่าง ๆ
สอบถามจากเอเยนต์ก็ทราบว่าเยาวชนเวียดนามจะเรียนหลักสูตรอะไรบางอย่างในเวลากลางคืนเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการทำงานในอนาคต ผมเคยยกตัวอย่างว่าประเทศที่ผ่านสงครามประชาชนจะถูกกดดันจากสภาพแวดล้อมทำให้มีความมุมานะอดทน ตัวอย่างเช่น
เยรมัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
และเวียดนามที่ตามเรามาติด ๆ
การเจริญเติบโตทางเศษฐกิจของเวียดนามเป็นไปอย่างค่อนข้างสม่ำเสมอโดยมีภาครัฐเป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมเอกชนทำให้สามารถขับเคลื่อนเศษฐกิจได้อย่างเหมาะสม
ปีที่ผ่านมา GDP / PER CAPITA เวียดนาม อยู่ที่ 2,321 $ ส่วนของไทยอยู่ที่ 5,426 $ หรือประมานครึ่งหนึ่งของไทย วันนี้เวียดนามกำลังทำรถไฟใต้ดินสายแรกในโฮจิมินท์
นิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเพื่อรองรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ
ค่ายอมตะก็ไปเปิดนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามและประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง อีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่เติบโตอย่างเก้ากระโดดคือ อิเล็คโทรนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซัมซุง
กลับมาดูประเทศไทยของเราตลอดระยะเวลา
10 กว่าปีที่ผ่านมาก็วนเวียนอยู่กับปัญหาทางการเมือง ที่นับวันจะหาทางลงไม่เจอ ตอนนี้ลามมาถึงปัญหาทางศาสนาก็ยิ่งทำให้หดหู่ใจ หันไปอีกทางหนึ่งก็พบแต่ ”ลูกเทพ” ซึ่งจริง ๆ
แล้วก็แค่เป็นกระแสที่ผ่านมาแล้วก็คงจะผ่านเลยไปแต่ทำไมสายการบินถึงจุดประเด็นขายบัตรโดยสารลูกเทพ ไม่รู้ซีอีโอคิดได้อย่างไร จนทำให้ธุรกิจน้อย –
ใหญ่ เกาะกระแสไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร
โรงเรียนสอนภาษา
แถมด้วยศัลยกรรมเสริมความงาม ฯลฯ แล้วทำไมเวียดนามจะตามไทยไม่ทัน......หุ...หุ @@@@
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น