วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

“เมืองกีฬา พาชาติรุ่งเรือง”



            



                      เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสได้ไปลงแข่งขันวิ่งในรายการ  “บุรีรัมย์มาราธอน 2017”  แต่อย่าคิดว่าผมมีปัญญาแข่งมาราธอนนะครับ  เพราะการจัดการแข่งขันในครั้งนี้มีการแบ่งการแข่งขันออกเป็นสี่ระยะ ประกอบด้วย มาราธอน (42.195 กโลเมตร) ฮาฟมาราธอน (21.1กิโลเมตร) มินิมาราธอน (10 กิโลเมตร) ฟันรัน(5.5 กิโลเมตร) ออกสตาร์ทจากสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยวิ่งออกสตาร์ทจากสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต  ซึ่งเป็นสนามแข่งรถที่ได้มาตราฐานโลก สามารถจัดแข่งรถ F1 ได้    ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ, สนามฟุตบอล ไอ-โมบาย สเตเดี้ยมที่ตอนนี้กลายเป็นแลนด์มาร์ค แหล่งท่องเที่ยวที่คนมาบุรีรัมย์ต้องแวะถ่ายรูปเหมือนไปเยือนเมืองแมนเชสเตอร์ต้องไปแอคอาร์ทที่หน้าสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด   ผ่านพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวิ่งเข้าเส้นชัยที่ บุรีรัมย์ คาสเซิ่ล นับเป็นการแนะนำบุรีรัมย์ในอีกมุมมองหนึ่ง  ที่นอกเหนือจากฟุตบอลที่โด่งดังในระดับเอเชียมาแล้ว    ไม่ต้องเดาก็คงจะทราบว่าผมคงมีปัญญาวิ่งแค่ 5.5 กม.  แต่ก็มีเป้าหมายว่าวันหนึ่ง “ฉันจะวิ่ง 10 กม.ให้ได้ “  คอยดูนะเธอ .......และคนที่ไปร่วมวิ่งนั้นน่าจะเกินครึ่งคือคนทีที่มาจากจังหวัดต่างๆรวมทั้งจากต่างประเทศ  การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันครั้งที่ 1  และมีแผนที่จะพัฒนาไปสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ  เช่นเดียวกับ  บอสตันมาราธอน  โตเกียวมาราธอน  หรือ ภูเก็ตลากูน่ามาราธอน    พยายามหาข้อมูลว่ามีคนมาร่วมวิ่งกี่คนแต่ก็ไม่มีข้อมูลตรงนี้ซึ่งพอจะประมาณการคร่าวๆได้ว่า   น่าจะไม่น้อยกว่า 20,000 คน  มีทั้งไทยและคนต่างชาติเพราะว่าการโปรโม"บุรีรัมย์ มาราธอน" ให้ก้าวขึ้นมาเป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่เป็นมาตรฐานระดับสากล การแข่งขันครั้งนี้ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย และในอนาคตทราบว่าจะพยายามผลักดันให้บรรจุเข้าอยู่ในโปรแกรมการแข่งขันระดับโลก ด้วยการทำให้ผ่านการรับรองจาก สหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) ระดับ บรอนซ์ลาเบล ในอนาคต     การแข่งขันครั้งนี้มีเงินรางวัลให้ชิงชัยกัน 6,130,500 บาท เป็นการวิ่งที่ชิงเงินรางวัลสูงที่สุดในประเทศไทย แบ่งเป็น รางวัลทำลายสถิติโลก 3.6 ล้านบาท ทำ รางวัลทำลายสถิติประเทศไทย 1 ล้านบาท รางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำหรับนักวิ่งจากภาคเหนือ, ภาคกลาง และภาคใต้ ที่สามารถชนะการแข่งขัน 10 อันดับแรกในระยะมาราธอน ทั้งประเภทชาย และหญิง ไม่จำกัดรุ่นอายุ รวมทั้งสิ้น 20 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท และรางวัลสำหรับนักวิ่งทั้งประเภททั่วไป    อะไรจากมากมายประมาณนั้นเล็กๆไม่ใหญ่ๆ......บิ๊ก เน.  จัดเต็มครับพี่น้อง  แน่นอน “ช้าง”  เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ   และ  “วาริก” เป็นผู้ผลิตเสื้อสำหรับนักวิ่งทุกคนซึ่งปกติแล้วเสื้อที่แจกในการแข่งขันต่างๆผมไม่เคยเอามาใส่   แต่สำหรับ “บุรีรัมย์”มาราธอนแล้วผมนำมาใส่   แต่......ไม่ใส่ในวันวิ่งคร้าบพี่น้อง   ต้องใส่สีแตกต่างๆเวลาถ่ายรูปจะได้เห็นและหาง่ายครับ  “หน้าตาไม่ดีต้องใช้สีช่วย  คิคิ “   (ดูภาพประกอบ ดิ)



                ส่วนผลการแข่งขันมาราธอนรางวัลทั้งหลายตกเป็นของนักวิ่งจากต่างชาติทั้งสิ้นซึ่งก็ไม่แปลกอะไร  เพราะเป็นการแข่งขันนานาชาติ   จากตัวเลขข้างต้นว่าประมาณการ  20,000 คน   โดยผมเอาค่าใช้จ่ายของผมเป็นเกณฑ์ซึ่งใช้ไปประมาณ 15,000 บาท  เพราะเดินทางด้วยเครื่องบินสองคนกับภรรยาเมื่อรวมค่าเช่ารถ  ค่าโรงแรม  ค่าอาหาร แล้วก็ตกประมาณนี้  บางคนก็มากหรือน้อยกว่านี้  รวมแล้ว 20,000 x 15,000  ก็จะเป็นเงินกระตุ้นเศรษฐกิจถึง  300 ล้านบาท เมื่อรวมกับกิจกรรมอื่นๆเข้าไปอีกผมคาดว่าคงไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท  หากเงินนี้หมุนเวียนไป 8 รอบ  ก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง  2,400 ล้านบาท   นับเป็นเงินไม่น้อยทีเดียวนะครับ ....... แล้วถ้าประเทศไทยมีการจัดกิจกรรมอย่างนี้  ทุกเดือนหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามบริบทของจังหวัดนั้นๆละครับจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขนาดใด   เราเห็นแล้วว่าปีที่ผ่านมา 2559  ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้โต 3% นิดๆคือ  “การท่องเที่ยว”  ซึ่งกีฬาก็เป็นตัวที่ทำให้เกิดการท่องเที่ยวและมาอย่างต่อเนื่องทุกๆปีได้อีกด้วย    
     
    หาจุดขาย  หาจุดโชว์  หาจุดกระตุ้น  ของแต่ละจังหวัดให้เจอ  ....


                พอดีได้ไปมีส่วนร่วมเล็กๆในคณะอนุกรรมาธิการการกีฬาในเรื่องยุทธศาสตร์  ก็ได้ข้อสรุปมาข้อหนึ่งกีคือกการดำเนินการจัดตั้งโครงการเมืองกีฬา (สปอร์ต ซิตี้) โดยคัดเลือกจังหวัดต่างๆ เพื่่อเน้นให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างทั่วถึง  ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนของ  จังหวัดภูเก็ต  จังหวัดชลบุรี  และ จังหวัดบุรีรัมย์   และจังหวัดที่มีศักยภาพคือ จังหวัดนครราชสีมา  และ จังหวัดเชียงใหม่  เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ทางชลบุรีโดยเทศบาลบางแสน ก็ได้จัด บางแสนมาราธอน 21 ขึ้น ผมก็โชคดีที่ได้ไปร่วมงานอีก  จัดได้สุดยอดมากเลยและเชื่อว่าทุกๆปีจะมีคนไปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะอยู่ใกล้ กทม.การเดินทางสะดวก  ตอนนี้กำลังจะจัดไตรกีฬานานาชาติขึ้นอีกเละมีกิจกรรมกีฬาอย่างต่อเนื่อง  ประมาณการกันว่าจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท  โดยที่ทั้งปีชลบุรีจัดกีฬาต่างๆโดยมีเงินหมุนเวียนประมาณ 5 พันล้านบาทครับพี่น้อง    และ โดยส่วนตัวขอแถม จังหวัดสุพรรณบุรี อีกซักจังหวัดเพราะ มิถุนายน2560  นี้ก็จะมีการจัดวิ่งมาราธอน  ซึ่งผมมีเป้าหมายว่าจะวิ่ง 10 กม. ให้ได้ โปรดอใจรอดู.....เดี๋ยวก็รู้ว่า........วิ่ง....หรือ.....เดิน........แต่ก็เพลินนะตัวเอง @@@  5555








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...