วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562

ภาพลักษณ์ไม่ใช่ลักภาพ





            ภาษาไทยวันละคำวันนี้เสนอคำว่า  “ภาพลักษณ์”  ซึ่งหากไปเปิดดูในพจนานุกรมสองเล่มที่คิดว่าเป็นมาตราฐานในการค้นขว้า  จะพบว่ามีความหมายดังนี้
พจนานุกรมฉบับ  ราชบัณฑิตยสถาน  จะหมายถึง
ภาพลักษณ์  ภาพที่เกิดจากความนึกคิดหรือที่คิดว่าควรจะเป็นเช่นนั้น จินตภาพ ก็ว่า.
พจนานุกรม  แปลไทย-ไทย อ.เปลื้อง  ณ นคร  จะหมายถึง
ภาพลักษณ์  ภาพที่เกิดจากความนึกคิดหรือที่คิดว่าควรจะเป็นเช่นนั้น.
           ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562  นี้  คำๆนี้รู้สึกว่าเป็นที่สนใจสำหรับนักการเมือง    ในการสร้างภาพลักษณ์ให้โดยใจกับกลุ่มเป้าหมายที่จะขอคะแนนเสียง  จนถึงกับมีการปรับปรุงภาพลักษณ์  ซึ่งในบทความนี้มิได้ประสงค์จะกล่าวถึงในแง่ของการเมือง  แต่จะกล่าวถึงในแง่ของมุมมองว่าถ้านักการเมืองเป็นสินค้าที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้สอดคล้องกับลูกค้าเป้าหมายที่จะมาลงคะแนนเท่านั้น
                ดังนั้นภาพลักษณ์ในที่นี่ของผมจึงหมายถึง
            “คือส่วนผสมของภาพจำ (ในอดีต) ระหว่างตัวตนที่แท้จริง  กับสิ่งที่จะต้องมีการปรับปรุง หรือสร้างขึ้นเพื่อให้ตรงกับความรู้สึกของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง 
            แต่มันก็มีเส้นบางๆหากก้าวข้ามจากสิ่งที่ตนเองเป็นอย่างพลิกฝ่ามือ  ก็จะทำให้เห็นว่าเป็น  “ลักภาพ”  ไม่ใช่ “ภาพลักษณ์”  คือหมายถึงไปลักเอาภาพของคนอื่นมาใส่ในภาพของตนเองนั่นเอง  
            กรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือกรณี “ลุงตู่”  ที่ทีมงานปรับภาพเสียจนคนรู้สึกได้ว่ามัน “ลักภาพ” เพราะเป็นการเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง  และไม่มีมูลฐานหรือองค์ประกอบของความจริงเพียงพอต่อการเชื่อถือ ถ้าภาษาวัยรุ่นคงหมายถึง  “เวอร์ ไป”   จากบุคลิกของคนที่เข้มแข็ง  เกรียวกราด  ชี้หน้า  พูดห้วนๆ (ตามปทัศฐานของชายชาติทหาร ซึ่งไม่ได้ผิดอะไร )  ฯลฯ   จนมาเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส  คิกขุ  อาโนเนะ เรียกได้ว่า  คนดูแล้วก็เกิดความขัดแย้งในภาพที่เห็นกับภาพจำ (คือภาพที่ฝังอยู่ในความทรงจำ  จากประสบการณ์ในอดีต  
            หากผมเป็นทีมงานก็จะปรับปรุงเพียงแค่ให้ภาพที่ออกมาลดความดุดันลง  ให้ภาพรู้สึกอบอุ่นขึ้นมานิดนึง  ไม่ต้องถึงกับทำให้ดูเหมือนคิกขุประมาณนั้น    ก็จะเป็นการที่เหมาะสมกว่า    เราลองนึกดูนะครับว่าคนๆหนึ่งมีอัตลักษณ์ของตนเองมา 65 ปีจะให้มาเปลี่ยนแปลงใน 2 เดือน   มันก็เลยดูเหมือนก้าวข้ามข้อเท็จจริงไปจนทำให้คนดูรู้สึกว่าเป็น  “ลักภาพ” มากกว่านั่นเอง
            ต่างจากนักการเมืองคนอื่นๆที่ก็ต้องสร้างภาพลักษณ์  แต่ที่เห็นมาก็ไม่มีใครเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง  และก็มิได้หมายความว่าการเข้มเข็งดุดันจะเป็นเรื่องผิด  ดูอย่าง พล.ต.อ.เสรี เตมีย์เวศ  ก็เข้มแข็ง  ดุดันกร้าวร้าว  ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด  ลุงกำนัน ก็เช่นกัน  สามารถแสดงตัวตนที่เป็นตนเองอย่างแท้จริง ...........  อย่าลืมว่าการสร้างภาพลักษณ์นั้นจะมีเส้นแบ่งบางๆระหว่าง  ตัวตนที่แท้จริง  กับ  ภาพที่ต้องการให้รู้สึก  หากก้าวข้ามข้อเท็จจริงไปมากก็กลายเป็น “ลักภาพ”นั่นเอง
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...