วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

อุตสาหกรรมกีฬาไม่มีดีสรัปชั่น

               

                           ข่าวร้ายและข่าวร้ายกว่าของเกือบทุกอุตสาหกรรมก็คือการดีสรัป (Disruption)   ธุรกิจทั้งหลายต่างวิตกว่าจะก้าวต่อไปได้อย่างไร  เพราะว่าพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้สินค้าหลายตัว  ตลอดจนอาชีพหลายอาชีพอาจจะต้องสูญพันธ์ไปในไม่ช้า   แต่ว่าหากดูให้ลึกลงไปในแต่ละอุตสาหกรรมแล้ว  จะมีสามอุตสาหกรรมที่นับวันจะเติบโตขึ้นคือธุรกิจบบริการ  ธุรกิจท่องเที่ยว และ ธุรกิจกีฬา   เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของทั้งเทคโนโลยีและพฤติกรรมมันมาเข้าทางอุตสาหกรรทั้งสามข้างตน   ซึ่งสามารถเติบโตได้มากกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลก  และ ของประเทศไทยด้วยซ้ำ 
   สำหรับอุตสาหกรรมกีฬาซึ่งเป็นอุตสาหกรรมย่อยในสองอุตสาหกรรนั้นแล้วมีแต่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด   โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชียและแปซิฟิคเพราะการเติบโตของเศรษฐกิจและรายได้ต่อหัวของชาวเอเชียและแปซิฟิคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ต่างกับทวีปอเมริการและยุโรปที่ติดกับดักเศรษฐกิจจนประชาชนขาดกำลังซื้อ  ส่วนทวีปอัฟริกาก็ยังมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการบริโภคสินค้าในสามอุตสาหกรรมนี้   ดังนั้นสิ่งที่รัฐและเอกชนไทยควรให้ความสนใจก็คือการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬา  อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่างต่อเนื่องและบูรณาการกัน  ล่าสุดจากการประกาศเมืองกีฬาเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ จำนวน 6 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดกระบี่  ทั้ง 6 จังหวัดนี้ได้มีพัฒนาการมาในระดับหนึ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุรีรัมย์    ล่าสุดได้ประกาศเพิ่มเมืองกีฬาอีก 10 จังหวัดในปี พ.ศ. 2562 มีจังหวัดที่เสนอตัวเป็นเมืองกีฬา รวม 10 จังหวัด ประกอบด้วย 1. จังหวัดอุบลราชธานี 2. จังหวัดเชียงราย 3. จังหวัดนครราชสีมา 4. จังหวัดจันทบุรี 5. จังหวัดยะลา 6. จังหวัดพัทลุง 7. จังหวัดสงขลา 8. จังหวัดตรัง 9. จังหวัดภูเก็ต 10. กรุงเทพมหานคร  ซึ่งก็ได้รับการรับรองและอนุมัติทั้งหมด  รวมแล้วประเทศไทยมี 16 จังหวัดที่เป็นเมืองกีฬา หรือ SPORT CITY
                สิ่งที่เป็นคำถามต่อมาคือเมื่อได้รับการประกาสเป็นเมืองกีฬาแล้วยังไงต่อ ???   อย่างที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า อุตสาหกรรมกีฬานั้นมันสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ    ไม่ใช่ว่าจะคิดแต่กิจกรรมกีฬาแต่เพียงอย่างเดียว  ต้องมองว่ากิจกรรมกีฬานั้นเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้นในการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอื่นๆให้เติบโต  ต้องบูรณาการและสานประโยชน์ทุกภาคส่วนให้เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้   ชี้แจงชุมชนให้รับทราบถึงข้อดีข้อเสียของกิจกรรมต่างๆเหล่านั้นและประโยชน์ที่จังหวัด ท้องถิ่น และชุมชนนั้นได้รับ หากมีกิจกรรมกีฬาก็ต้องมีการเดินทาง การพักผ่อน และการท่องเที่ยวตามมา เกิดการจับจ่ายใช้สอย  สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่นที่บุรีรัมย์ได้จัดแข่ง MOTO GP  ปัญหามลพิษทางเสียงจะต้องเกิดขึ้นกับชุมชนใกล้เคียง  แต่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นอย่างไร  และที่สำคัญ  “การแบ่งปัน และจัดสรร ผลประโยชน์ ที่เหมาะสม”  ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้อุตสาหกรรมกีฬานั้นเติบโตอย่างยั่งยืนในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...