วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

จอร์เจีย..เมียไปด้วย




                มีกระแสข่าวหนึ่งที่สะกดนักท่องเที่ยวว่า  “วิวยุโรปแต่ราคาเอเชีย”  จะเป็นประเทศอะไรไปไม่ได้นอกจาก “จอร์เจีย”  เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนที่พักอาหารราคาถูกเหมือนอยู่ในเอเชีย  แต่ว่าวิวนั้นสวยเหมือนยุโรป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าหนาวมีหิมะปกคลุม แถมพิเศษสำหรับพาสปอร์ตไทยไม่ต้องวีซ่าแถมอยู่ได้ 365  วันทำให้เป็นประเทศที่น่าค้นหาอีกประเทศหนึ่ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวเองไม่พึ่งบริษัททัวร์    และเดือตุลาคมนี้ภรรยาเกษียณพอดีเลยว่างพร้อมท่องโลกกัน  ก่อนที่สุขภาพจะไม่เอื้ออำนวยอวยชัยให้ท่องเที่ยว แน่นอน สว.อย่างพวกเราซึ่งคนที่เดินทางร่วมทริปส่วนใหญ่ก็ 60 อัพเพราะเป็นเพื่อนภรรยานั่นเอง      ซึ่งก็มีมุมมองของประเทศนี้มาฝากกันแบบสบายๆครับ
                ก่อนเดินทางผมก็สงสัยว่าจอร์เจียมันอยู่ตรงไหนและเป็นยุโรปหรือเอเชียกันแน่ๆ    จึงได้ไปค้นคว้า ตามที่ “ลุงตู่” แนนะนำประชาชนว่า ให้ค้นคว้าจากกูเกิ้ล    ...อิอิ...  ก็พบว่า   เป็นประเทศที่อยู่ทางตะวันออกของทะเลดำในคอเคซัสตอนใต้ ในอดีตเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต มีอาณาเขตทางเหนือจรดประเทศรัสเซีย ทางใต้จรดประเทศตุรกี ประเทศอาร์มีเนีย และประเทศอาเซอร์ไบจาน   จากเดิมเป็นประเทศในสหภาพโซเวียตเพิ่งได้รับเอกราชตอนโซเวีตแตกเมื่อง  9 เมษายน  2534    และขอฟันธงว่าจอร์เจียอยู่ในทวีปยุโรปโดยดูจากเกณฑ์ภูมิศาสตร์  และดูจากในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์นั้นไม่มีประเทศจอร์เจียอยู่ในสารบบ  มีข้อสังเกตว่า  (ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด)  ถ้าเป็นในเอเชียชื่อประเทศจะลงท้ายด้วย  “สถาน”  เช่น อุซเบกิสถาน  คาซัคสถาน  ส่วนถ้าเป็นยุโรปจะลงท้ายด้วย “เอีย”  เช่น ลัตเวีย  ลิทัวเนีย  เอสโตเนีย  ดังนั้นจึงขอตอบแบบตีขลุมเอาเองว่าจอร์เจีย  ก็ควรอยู่ในยุโรป  .......
                ประเทศนี้มีประชากรแค่ 4 ล้านคนเศษเท่านั้นเองน้อยกว่ากรุงเทพของเราเสียอีกและสินค้าส่งออกที่สำคัญคือ  อัลลอย ทอง เหล็กและเหล็กเส้น ไวน์ และน้ำแร่   สำหรับคอไวน์แล้วขอบอกว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังซึ่งขอบอกว่าถูกมากขวดละ 200-300 บาท  วิสกี้ถูกกว่าหงษ์ทองบ้านเราสียอีก  แต่........สิ่งที่จอร์เจียกำลังให้ความสำคัญคือ  “อุตสาหกรรมท่องเที่ยว”  เพราะว่ามีมรดกโลกถึง 3 แห่ง คือ  อารามเกลาที  โบราณสถานแห่งมสเคทา  และ สวาเนทีตอนบน  ซึ่งได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนสองแห่ง 
ส่วนสถานที่ร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงและเป็นจุดเช็คพอยท์คือ มหาวิหารซาเมบา (Sameba Cathedral)   เป็นสัญลักษณ์แห่งจอร์เจียยุคใหม่ เริ่มสร้างปี  2004   เพื่อเฉลิมฉลองปี 2000  นับเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ  มองเห็นได้จากทุกจุดในกรุงทบิลิซีซึ่งเป็นเมือง  เป็นจุดเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนก็ว่าได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาค่ำคืน  ไม่เชื่อก็ลองดูภาพนี้เพราะทริปนี้  “จอร์เจีย....เมียไปด้วย”





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...