เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าปัจจุบันการถ่ายทอดมวยนั้นมีเกือบทุกวันบางวันมีมากกว่าหนึ่งสนามด้วย จากเดิมในสมัยก่อนมีการถ่ายทอดแค่สองสามสนาม
ปัจจุบันสถานีต่างๆก็สามารถมีเวทีเป็นของตนเองและมีสื่ออยู่ในมือในการถ่ายทอดสู่ผู้ชมในทุกระดับ
วันนี้เราจะเห็นได้ว่ารายได้ค่าบัตรผ่านประตูเข้าชมกีฬามวยไทยนั้นไม่ได้เป็นรายได้หลักหรืออาจไม่มีรายได้จากบัตรผ่านประตูเลยเช่น “ไทยไฟต์” แต่รายได้หลักมาจากการถ่ายทอดและค่าโฆษณาเป็นสำคัญ ดังนั้นการมีพันธมิตรทางธุรกิจและหรือ
สปอนเซอร์ทั้งในส่วนของการจัดการแข่งขัน
หรือ
การถ่ายทอดจึงเป็นเรื่องทีทางผู้จัดกีฬาทั้งหลายจะให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ
ซึ่งการเลือกพันธมิตรหรือผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์นั้นในสมัยก่อนๆ ก็เพียงแต่อาศัยความสัมพันธ์หรือบารมีของผู้หลักผู้ใหญเป็นสำคัญ แต่จากการที่ธุรกิจกีฬานี้สามารถสื่อสารเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ทำให้หลายๆบริษัทให้ความสำคัญกับ SPORT MARKETING มากขึ้นเรื่อยๆ เราจะเห็นได้ว่ามีสินค้าใหม่ๆเข้ามามีส่วนในธุรกิจนี้มากขึ้นเป็นลำดับ เพราะใช้ทุนน้อยกว่าแต่ตรงกลุ่มเป้าหมายแถมสามารถวัดผลได้อีกด้วย
จากที่แต่เดิมก็จะมีเพียงธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศไม่ว่าจะเป็น ช้าง สิงห์ ซีพี ปตท. ฯลฯ เท่านั้น หรือบางครั้งเราอาจจะเห็นความร่วมมือทางธุรกิจที่อาจจะไม่สัมพันธ์กันเสียเท่าใด
เรียกได้ว่าลูกค้าคนละกลุ่มเป้าหมายเลยก็ว่าได้ เช่น BNK
48 กับ
ทีมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
แต่ก็เชื่อได้ว่าทั้งสองธุรกิจจะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น