10 มกราคม 2566
โลกธุรกิจนับวันแต่จะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจของโลกมีปัญหา ปี 2023 นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2023 จากเดิมที่ระดับ 2.9% มาอยู่ที่ 2.7% และเศรษฐกิจไทยปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.4 ต่อปี ส่วนปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นที่ร้อยละ 3.8 ต่อปี และอาจจะดีมากไปกว่านั้น เพราะเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ทางการจีนอนุญาติให้คนจีนออกนอกประเทศและคนต่างชาติที่จะเข้าจีนไม่ต้องกักตัวแล้วย จะทำให้มียอดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน เห็นได้ว่าสูงกว่าการเจริญเติบโตของไทยนั้นดีกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ทั้งนี้หากดูในภาพรวมก็จะเป็นอย่างนั้นเพราะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตเพียงเล็กน้อยก็เพราะถูกสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีขนาดของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ที่เศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือติดลบทำให้ค่าเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 2.7 % เท่านั้น แต่หากเทียบในอาเซียนแล้วเรายังเติบโตน้อยกว่า เวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น
แล้ว.......เราจะดำรงอยู่ได้อย่างไรในภาวะที่ยากลำบากนี้
คำตอบ.......ก็คือการปรับตัวและพัฒนาสินค้าและองค์กรให้ตอบสนอง A to J Pay attention อันได้แก่
AUTOMATION สินค้าจะมีนวตกรรม เติมความอัตโนมัติบางประการลงไปในสินค้าและบริการ ตัวอย่างง่ายเช่น การซื้อของออนไลน์ในปัจจุบันแพลทฟอร์มสามารถจำจำพฤติกรรมของลูกค้าว่า สนใจอะไร ชอบไม่ขอบสินค้าอะไร หรือแม้แต่เค่ใส่เบอร์โทรศัพท์ลงไปก็จะเติมข้อความอื่นๆ เช่น ชื่อ ที่อยู่ อีเมล์ ฯลฯ ตามที่ได้บันทึกไว้ ไม่ต้องมากรอกซ้ำอีก รวมทั้งตัวสินค้าเองก็ต้องเพิ่มความเป็นอัตโนมัติลงไปด้วย
BIO DEGRADABLE สินค้า ภาชนะบรรจุ หรือสารประกอบของสินค้า สามารถย่อยสลายได้ ยิ่งถ้าไม่เหลือขยะได้เลยยิ่งดี เรียกได้ว่าประมาณ ZERO WASTE จนทำให้เกิด BIO ECONOMY นั่นเอง
COST เรื่องของต้นทุนที่ไม่ใช่แต่แค่เรื่องของต้นทุนทางการเงิน คือ ราคาเท่าใด? เพราะต้องคำนึงถึงต้นทุนทางด้านพลังงาน ต้นทุนในการติดตั้ง/ลงทุน และที่สำคัญต้นทุนทางด้านจิตใจ ซึ่งก็คือ แบรนด์ นั่นเอง
DELIVERY การขนส่งสินค้า ที่นับรวมไปถึงการบริการการติดตั้ง การบริการหลังการขาย และ การสอนการใช้งานอีกด้วย ซึ่งอาจจะเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า เช่นวีรสุ ขายสินค้าเครื่องครัว มีการสอนการทำอาหารเครื่องดื่ม ก็สามารถขายวัตถุดิบ และอุปกรณ์เครื่องมืออื่นๆได้อีก
ECO FRIENDLY PRODUCT การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การผลิต การขนส่ง วัตถุดิบ ฯลฯ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แล้วยังหมายรวมถึง EMOTION คืออารมณ์ร่วมในสินค้าและองค์กร ซึ่งการทำให้สินค้ามีเรื่องราวและความรู้สึกที่ดีๆในมุมมองของลูกค้าแล้ว ก็จะสามารถสร้างลูกค้าที่จะเป็นลูกค้าที่ยั่งยืนได้ในอนาคต เพราะรักแล้วรักเลยมิแปรเปลี่ยน ซึ่งการใช้อารมณ์ในการซื้อมากกว่าเหตผลทำให้ราคาเป็นเรื่องรองที่ใช้ในการตัดสินใจนั่นเอง
GOOD GOVERNANCE มีธรรมาภิบาล รวมทั้งการรับผิดขอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ ตลอดจนโลกใบนี้
HEALTHY มิได้หมายถึงสินค้าที่เป็นอาหารเสริม SUBPLEMENT แต่หมายถึงสินค้านั้นดีต่อสุขภาพทั้ง กาย ใจ และ จิตวิญญาณ ผู้บริหารจะต้องเติมเต็มความต้องการในสินค้า บริการ และ องค์กรนั้นให้พร้อมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทั้งสามด้านดังกล่าวข้างต้น
INDIVIDUALIZATION สินค้ามีควาเฉพาะเจาะจง ทั้งส่วนบุคคล หรือ กลุ่มบุคคล ซึ่งในโลกปัจจุบันและเทคโนโลยี่สามารถทำได้ เช่น รองเท้าที่มีสีสันเฉพาะตน เสื้อที่สามารถพิมพ์ภาพหรือชื่อของเราบนเสื้อนั้นได้ รถยนต์ที่สามารถเลือกสีเบาะรถได้ เป็นต้น
JOYFUL ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความสุข เมื่อจะมาซื้อ มาใช้ มาซ่อม มาติดต่อ กับองค์กร พนักงานจะต้องมีความสุขเพื่อที่จะบริการลูกค้าได้อย่างมีความสุขมากกว่านั่นเอง
แน่นอนที่สุด ........แต่ละองค์กร แต่ละสินค้า คงไม่สามารถเติมทุกข้อได้หมดหรือจนล้นทุกข้อ ต่างก็มีข้อจำกัดตามคุณลักษณะของสินค้า และบริการ ตลอดจนบริบทที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละองค์กร
เพียงแต่........ได้คำนึง และใส่ใจ กับพยายามเติมเต็มแต่ละข้อได้มากที่สุดแล้วก็เชื่อด้ว่า องค์กรและสินค้าของคุณจะ มี “ความยั่งยืน” ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น