“เด้ง ดูด ดีด ดุ๊กดิ๊ก”
6 ตุลาคม 2567
ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครดังและเป็นไวรัลเท่ากับ “น้องหมูเด้ง” เล่นเอาหมีเนยกระแสเงียบไปเรย เพราะว่าระดับ “หมูเด้ง” นี้ ไม่ได้ดังแค่เอเชีย ดังไปทั่วโลก สำนักข่าวทั้งหลายไม่ว่าจะ CNN BBC ALJAZEERA สโมสรกีฬาดังๆทั้งหลายไม่ว่าจะพรีเมียลีก อเมริกันฟุตบอล กล่าวขานกันทั่วโลก
ซึ่งกระแสดังกล่าวนี้ถ้ามองในแง่การตลาดแล้วเราจะเรียกมันว่า
“ คาวาอี๊ มาร็เก็ตติ้ง “ ซึ่งเป็นรากศัพท์มาจากภาษาญี่ปุ่น หากแปลตรงตัวก็จะหมายความว่าน่ารัก คิกขุ ดูเป็นความหมายด้านบวก เรื่องความน่ารักที่นำมาแปลงเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น ไม่ได้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานอย่างชัดเจน แต่ก็น่าจะอนุมานว่ามาจากญี่ปุ่น เพราะในสมัยก่อนนั้นจะมีสาวๆ หน้าร้านขนมหรือร้านเสื้อผ้าเป็นหน้าตาหน้ารัก ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า “คาวาอี๊” มีความหมายตรงตัวว่าน่ารัก น่าฟัด น่ากรี๊ดกราด จนพัฒนามาเป็น พริตตี้ ที่หลายๆบริษัทนำมาใช้ในการเรียกความสนใจ โดยเฉพาะเวลาจัดกิจกรรมการตลาด เช่น มอเตอร์โชว์ การแข่งรถ การเปิดตัวสินค้า และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ
วัฒนธรรมนี้ก็เติบโตและพัฒนาการมาเรื่อยๆ รวมทั้งการมีคาแรคเตอร์ การ์ตูน สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึง “เอกลักษณ์” ทำให้เกิดการจดจำสินค้าได้อย่างแม่นยำ แม้จะเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้นหรือไม่ก็ตาม เพราะความน่ารักใครๆก็ชอบไม่ว่าเพศ หรือวัยใดก็ตาม จะมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคเพราะนอกจากจะดึงดูดความสนใจได้ยอดเยี่ยมแล้วยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ “คิกขุ อาโนเนะ” ไปด้วย
หากถามว่าใครจำหมีตัวดำ แก้มแดงกลมๆทั้งสองด้าน ผมเชื่อว่าหลายคนคงจำได้ว่าเป็นหมีน้อยน่ารัก “ หมีคุมะมง” ซึ่งเป็นหมีประจำเมืองของญี่ปุ่น “เมืองคุมาโมโตะ” ที่ผู้ออกแบบได้น่ารักสมควรแก่การจดจำ จนใครๆก็นึกถึงหมีคุมะมงเมื่อไปเยือนเมืองคุมาโมโตะ นั่นเอง
จนล่าสุดมีสวนซึ่งประดับไปด้วยหมีคุมะมงในหลายๆอริยาบท กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองคุมาโมโตะที่เรียกได้ว่า นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องไปเยือนนั่นเอง
แล้ว “หมุเด้ง “ จะต่อยอดกระแสความโด่งดังในครั้งนี้ได้อย่างไร เรียกได้ว่าอยากทำอะไรก็ต้องรีบทำ เพราะฮิปโปแคระมันโตเร็วมาก 3-5 ปีก็อยู่ในวัยเจริญพันธ์ได้แล้ว ดังนั้นต้องรีบคิด รีบทำ เช่นในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจะมี มุมสวน “หมูเด้ง” โดยเอาแนวคิดของสวนคุมะมงมาปรับใช้ก็ไม่น่าผิดกติกาแต่อย่างใด
แล้วให้กลายเป็น “ไอคอน” ของชลบุรีได้หรือไม่ ??? เพราะจริงๆแล้วฮิปโปแคระ ก็มีหน้าตาคล้ายๆกันอยู่แล้ว เรียกได้ว่าแทบจะแยกไม่ออกถ้าอายุใกล้ๆกัน แต่ที่”หมูเด้ง” โด่งดังก็สรุปได้ว่า เพราะ “จริต” มันน่ารัก “น่ารักเกินปุยมุ้ย” เลยทำให้น้องโด่งดังไปทั่วโลกนั่นเอง
อ้อ....ลืมบอกไปว่าตอนเกิดใหม่ๆทางสวนสัตว์มีการประกวดตั้งชื่อ โดยมี 3 ชื่อให้เลือก คือ หมูเด้ง หมูแดง และ หมูสับ แล้วชื่อ “หมูเด้ง” ก็ชนะเลิศจากผู้เข้าร่วมเลือกทั้งหมดกว่า 20,000 คน ชื่อนี้ตรงกับ “จริต” ของน้องเค้าซึ่งเด้งดึ๋ง จริต ที่ จิก กัด กินนม โดยรวมน่าจะเรียกได้ว่า “เด้ง ดูด ดีด ดุ๊กดิ๊ก” จนทำให้ชื่อและจริตของน้องเป็นที่จดจำได้ชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว
ที่สำคัญโลของโซเชียลมีเดียเป็นตัวเปิดประเด็น ในชื่อ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน จนสื่อต่างประเทศเข้าใจว่าจากญี่ปุ่น เป็นประเทศแรกที่ให้ความสนใจมาทำข่าวแล้วกลายเป็นกระแสในที่สุด
“รัก นะตะเอง ตะมุตะมิมาก หมูเด้ง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น