วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2567

“เด้ง ดูด ดีด ดุ๊กดิ๊ก”

 

“เด้ง  ดูด  ดีด ดุ๊กดิ๊ก”  

6 ตุลาคม 2567



 

            ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครดังและเป็นไวรัลเท่ากับ “น้องหมูเด้ง”  เล่นเอาหมีเนยกระแสเงียบไปเรย  เพราะว่าระดับ “หมูเด้ง” นี้ ไม่ได้ดังแค่เอเชีย   ดังไปทั่วโลก  สำนักข่าวทั้งหลายไม่ว่าจะ CNN  BBC  ALJAZEERA   สโมสรกีฬาดังๆทั้งหลายไม่ว่าจะพรีเมียลีก   อเมริกันฟุตบอล  กล่าวขานกันทั่วโลก

  

  ซึ่งกระแสดังกล่าวนี้ถ้ามองในแง่การตลาดแล้วเราจะเรียกมันว่า

“ คาวาอี๊ มาร็เก็ตติ้ง “  ซึ่งเป็นรากศัพท์มาจากภาษาญี่ปุ่น  หากแปลตรงตัวก็จะหมายความว่าน่ารัก คิกขุ ดูเป็นความหมายด้านบวก    เรื่องความน่ารักที่นำมาแปลงเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น   ไม่ได้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานอย่างชัดเจน  แต่ก็น่าจะอนุมานว่ามาจากญี่ปุ่น    เพราะในสมัยก่อนนั้นจะมีสาวๆ หน้าร้านขนมหรือร้านเสื้อผ้าเป็นหน้าตาหน้ารัก   ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า    “คาวาอี๊” มีความหมายตรงตัวว่าน่ารัก น่าฟัด น่ากรี๊ดกราด จนพัฒนามาเป็น  พริตตี้  ที่หลายๆบริษัทนำมาใช้ในการเรียกความสนใจ   โดยเฉพาะเวลาจัดกิจกรรมการตลาด  เช่น  มอเตอร์โชว์   การแข่งรถ  การเปิดตัวสินค้า  และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ     

วัฒนธรรมนี้ก็เติบโตและพัฒนาการมาเรื่อยๆ  รวมทั้งการมีคาแรคเตอร์  การ์ตูน  สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึง  “เอกลักษณ์”  ทำให้เกิดการจดจำสินค้าได้อย่างแม่นยำ  แม้จะเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้นหรือไม่ก็ตาม   เพราะความน่ารักใครๆก็ชอบไม่ว่าเพศ  หรือวัยใดก็ตาม   จะมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคเพราะนอกจากจะดึงดูดความสนใจได้ยอดเยี่ยมแล้วยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ “คิกขุ อาโนเนะ” ไปด้วย

หากถามว่าใครจำหมีตัวดำ  แก้มแดงกลมๆทั้งสองด้าน   ผมเชื่อว่าหลายคนคงจำได้ว่าเป็นหมีน้อยน่ารัก   “ หมีคุมะมง”   ซึ่งเป็นหมีประจำเมืองของญี่ปุ่น  “เมืองคุมาโมโตะ”   ที่ผู้ออกแบบได้น่ารักสมควรแก่การจดจำ    จนใครๆก็นึกถึงหมีคุมะมงเมื่อไปเยือนเมืองคุมาโมโตะ นั่นเอง


 

จนล่าสุดมีสวนซึ่งประดับไปด้วยหมีคุมะมงในหลายๆอริยาบท   กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองคุมาโมโตะที่เรียกได้ว่า   นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องไปเยือนนั่นเอง

แล้ว  “หมุเด้ง “  จะต่อยอดกระแสความโด่งดังในครั้งนี้ได้อย่างไร   เรียกได้ว่าอยากทำอะไรก็ต้องรีบทำ  เพราะฮิปโปแคระมันโตเร็วมาก  3-5 ปีก็อยู่ในวัยเจริญพันธ์ได้แล้ว  ดังนั้นต้องรีบคิด  รีบทำ   เช่นในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจะมี  มุมสวน “หมูเด้ง”  โดยเอาแนวคิดของสวนคุมะมงมาปรับใช้ก็ไม่น่าผิดกติกาแต่อย่างใด

แล้วให้กลายเป็น  “ไอคอน” ของชลบุรีได้หรือไม่  ???    เพราะจริงๆแล้วฮิปโปแคระ  ก็มีหน้าตาคล้ายๆกันอยู่แล้ว  เรียกได้ว่าแทบจะแยกไม่ออกถ้าอายุใกล้ๆกัน  แต่ที่”หมูเด้ง” โด่งดังก็สรุปได้ว่า  เพราะ  “จริต”  มันน่ารัก   “น่ารักเกินปุยมุ้ย”  เลยทำให้น้องโด่งดังไปทั่วโลกนั่นเอง

อ้อ....ลืมบอกไปว่าตอนเกิดใหม่ๆทางสวนสัตว์มีการประกวดตั้งชื่อ  โดยมี  3  ชื่อให้เลือก คือ  หมูเด้ง หมูแดง และ หมูสับ    แล้วชื่อ “หมูเด้ง”  ก็ชนะเลิศจากผู้เข้าร่วมเลือกทั้งหมดกว่า 20,000 คน   ชื่อนี้ตรงกับ “จริต”  ของน้องเค้าซึ่งเด้งดึ๋ง   จริต ที่ จิก กัด  กินนม โดยรวมน่าจะเรียกได้ว่า   “เด้ง  ดูด  ดีด ดุ๊กดิ๊ก”   จนทำให้ชื่อและจริตของน้องเป็นที่จดจำได้ชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว

ที่สำคัญโลของโซเชียลมีเดียเป็นตัวเปิดประเด็น   ในชื่อ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน จนสื่อต่างประเทศเข้าใจว่าจากญี่ปุ่น   เป็นประเทศแรกที่ให้ความสนใจมาทำข่าวแล้วกลายเป็นกระแสในที่สุด    

“รัก นะตะเอง  ตะมุตะมิมาก  หมูเด้ง”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...