วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

“ทำไมคนถึงเชื่อ”





  • ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่การรับสมัครรับเลือกตั้งผ่านไปเรียบร้อยมีพรรคการเมืองต่างๆส่งผู้สมัครถึง 40 พรรคการเมืองเมือง แต่ก็คงเป็นที่รู้กันดีว่าคงแข่งกันแค่สองพรรคการเมืองคือพรรคเพื่อไทย กับ พรรคประชาธิปัตย์ การหาเสียงก็เข้มข้นและชิงไหวชิงพริบกันมาโดยตลอด ไม่ว่าเราจะเรียกว่า”ประชานิยม” หรือ “ประชาภิวัฒน์” พฤติกรรมก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันคงต่างกันแค่ชื่อและปริมาณว่าใครจะให้มากกว่า และแน่นอนว่าการรณรงค์หาเสียงซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “หา” ซึ่งวิธีการ”หา” นั้นมีหลายวิธีเราคงไม่ต้องพูดถึงวิธีที่ผิดกฎหมายไม่ว่าจะโดยอำนาจเงิน หรือ อำนาจรัฐ เพราะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องปวดหัว(จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) เรามาดูวิธีที่ไม่ผิดกฎหมายดีกว่า ซึ่งก็มีอยู่วิธีเดียวคือ “ทำให้เชื่อ” ก็เลยเกิดคำถามว่า “ทำอย่างไรคนจึงเชื่อ” ซึ่งเป็นคำถามที่นักบริหารทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ผู้นำสูงสุด นักขาย นักโฆษณา สามี(ต้องทำให้ภรรยาเชื่อ) ฯลฯ ไม่ว่าใครก็ตามแม้กระทั้งพระสงฆ์องค์เจ้าก็ต้องทำให้ศานิกชนเชื่อในกฎแห่งกรรม (แต่คงไม่ต้องแก้กรรมแบบแม่ชีนะ) แน่นอนว่าทุกคนในโลกนี้ก็ต้องทำให้คนบางคนเชื่อในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งเป็นแน่แท้ แล้ว”ทำไมคนถึงเชื่อ” ก็เป็นคำถามที่เราควรจะเรียนรู้เพื่อที่จะไปถึงวิธีการที่จะทำให้คนเชื่อและปฏิบัติตามความประสงค์ของเรา ผมก็เลยของมองหาสาเหตุสิงจูงใจที่จะทำให้เชื่อ BELIVE ดังนี้

  • B-ehavior พฤติกรรมครับเพราะพฤติกรรมมีผู้ให้ความหมายคำว่า “ พฤติกรรม” (behavior) ไว้มาก ที่น่าสนใจเช่น เวดและทาฟรีส (Wade and Tavris 1999 : 245 ) อธิบายว่า พฤติกรรมคือการกระทำของคนเราที่สังเกตได้ แต่ผมอยากจะเพิ่มเติมในกรณีนี้ว่าเป็นการกระทำที่ทำเป็นประจำ นั้นก็คือถ้าคนใดมีพฤติกรรมที่เชื่อได้ง่าย ขาดการวิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือขาดองค์ความรู้แล้ว ก็จะเชื่อได้ง่ายฟังอะไรมาก็เชื่อไปหมด ข่าวต่างๆเรียกได้ว่าฟังปุ๊บเชื่อปั๊บเลยลองดูว่ามีฟอร์เวิร์ดเมล์ข่าวคราวมากมายในโลกไซเบอร์แห่งนี้ ข่าวหนึ่งที่ฮือฮามากก็คือ “ไข่ปลอม” ลองใช้วิจารณญาณดูนะครับว่าต้นทุนผลิตไข่ปลอมจะแพงกว่าไข่จริงหรือไม่ และราคาขายไข่มันคุ้มกับที่จะผลิตไข่ปลอมหรือไม่ ถ้าเป็นแบงค์ปลอมหรือทองปลอมน่าจะคุ้มค่ากว่าหรือไม่

  • E-motion อารมณ์ครับ บางครั้งอารมณ์พาให้เราเชื่อดูอย่างโฆษณาต่างเป็นงัยครับ เอาดาราดังๆมาทำเป็นพรีเซนเตอร์สวยใสไร้สมองและคิดว่าถ้าเราใช้ครีมยี่ห้อนี้แล้วจะใสปิ้งเหมือดาราคนนั้นคนนี้ หรือการเอาสิ่งของมาล่อหลอกด้วยของขวัญกำนัลทำให้เชื่อว่ารักเราปรารถนาดีต่อเรา (ดูคุ้นเหมือนนักการเมืองกำลังทำกันอยู่นะ) ดูเหมือนว่าการแสวงหาความรักจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องมากอยู่เสียหน่อยนะครับ ซึ่งคงไม่ได้หมายถึงความรักในแบบคู่รักเท่านั้น หมายถึงรักในองค์กร รักในพรรค รักในสินค้า รักในผู้นำ ฯลฯ

  • L-ove แน่นอนใครไม่รู้จักความรักคงไม่มีนะครับแต่ถ้าหากถามนิยามของความรักคงจะมีน้อยคนที่ตอบได้ แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้นิยามไว้ว่า ความรัก เป็นอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเสน่หาและความผูกพันทางอารมณ์อย่างแรงกล้า ในบริบททางปรัชญา ความรักเป็นคุณธรรมแสดงออกซึ่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และความเสน่หาทั้งหมดของมนุษย์ แต่มาเกี่ยวพันกับ”ความเชื่อ” ในเรื่องนี้อย่างไร ตอบง่ายๆและสั้นๆว่า “ก็มันรัก” เลยทำให้เชื่อทุกอย่าง ดูอย่างคุณทักษิณ หรือ คุณอภิสิทธิ์ หรือคุณสนธิ (พันธมิตร) พยายามสร้างให้คนรักและลงคะแนน”โหวต” หรือ “โนโหวต” แน่นอนก็จะมีสาวกอยู่ส่วนหนึ่งที่เชื่ออย่างหัวปักหัวปำและปฏิบัติตาม “ก็แบบว่ามันรักงะ” ขอยืมสำนวนวัยรุ่นมาใช้หน่อยนะครับ

  • I-ntention แน่นอนว่าความสนใจทำให้เชื่อเช่นเราสนใจในเรื่องการเสี่ยงโชค มีความหวังกับการเสียงโชค เราก็เลยเชื่อว่าการหมั่นซื้อหวยไม่ว่าจะบนดินใต้ดินจะทำให้เรารวย ซึ่งมันก็ไปสอดคล้องกับพฤติกรรมของเรานั่นเอง การที่เราสนใจเรื่องข่าวสารต่างๆหรือโลกไซเบอร์เราก็จะมีข้อมูลข่าวสารต่างๆเข้ามาและหากขาดการวิเคราะห์สังเคราะห์แล้วก็จะทำให้เชื่อได้โดยง่าย ดังนั้นจึงมีการแย่งพื้นที่ข่าวสารต่างๆทั้งทางตรงและทางอ้อม ต้องพยายามปรากฏให้เป็นข่าวอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ “สาวก” ลืมเลือนและจะได้เชื่ออย่างต่อเนื่องนั่นเอง

  • V-ote ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับจะโหวตหรือไม่โหวตนะครับ แต่อยากให้หมายถึงว่าเสียงส่วนใหญ่ว่างัยก็เอาด้วย นั้นไม่ร้ายเท่าว่าเสียงส่วนใหญ่ว่างัยก็เชื่อไปหมดดังนั้นเวลาจัดม๊อบก็ต้องจัดให้มีปริมาณมากๆไม่ว่าจะเสื้อเหลืองเสื้อแดง เพราะมันแสดงถึงพลังว่ามีคนเชื่อเยอะอยู่พอสมควรแก่การที่เราจะเชื่อบ้าง เขาถึงมีคำว่า “จัดตั้ง” แต่จะรวมถึง “จัดหา” หรือเปล่าก็แล้วแต่จะพิจารณา

  • E-valuate การประเมินถานการณ์ ซึ่งก็คือหากไม่แสวงหาข้อมูลหรือบริบทอื่นๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาอย่างถ่องแท้ ลองดูการหาเสียงของพรรคการเมืองหนึ่ง บอกว่าจะตรึงราคาน้ำมันเบนซินซึ่งไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาตรึงราคา”เบนซิน” และที่สำคัญจะหาเงินที่ไหนมาตรึงราคาเบนซิน ถ้าหากมีคนลงคะแนนให้พรรคนี้ด้วยนโยบายหาเสียงแบบนี้ก็เรียกได้ว่า มิได้ประเมินสถานการณ์ หรือแสวงหาเหตุผลและความเป็นไปได้แม้แต่น้อย ตรงนี้เราเห็นได้จากการนโยบายหาเสียงของพรรคต่างๆ อยากให้ทุกคนถ่ายภาพป้ายหาเสียงของทุกพรรคไว้ ว่าจะทำโน่นนั่นนี้บางพรรคขนาดกำหนดเงื่อนเวลาไว้เลยว่า 99 วันบ้าง บางพรรคก็บอกว่าประเทศไทยจะไม่มีคนว่างงานเลย (มันจะเป็นไปได้อย่างไร) สงสัยจะคิดว่าคนไทยมีนกเอี้ยงเกาะอยู่บนหลังกระมัง

  • เคยอ่านจากที่ไหนก็ไม่รู้ว่า “บางคนหลอกคนบางคนได้บางเรื่อง บางคนหลอกคนทั้งหมดได้บางเรื่อง บางคนหลอกคนบางคนได้ทุกเรื่อง แต่ไม่มีใครหลอกคนทุกคนได้ทุกเรื่อง” อย่าลืมนะครับไม่ว่า “ประชานิยม” หรือ “ประชาวิวัฒน์” ล้วนทำ ประเทศ “วิบัติ” ได้เพราะของฟรีไม่มีในโลกขึ้นอยู่กับว่าใครจ่ายเท่านั้นเอง หากยังงงก็ให้ไปอ่านบทความของผมในเรื่อง “ของฟรีไม่มีในโลก” แต่สุดท้ายแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้เราจะได้ ไม่คนสวยก็คนหล่อเป็นนายกแต่จะแน่นอนหรือไม่เพราะ “โหรเนวิน” ออกมาฟันธงว่าทั้งสองคนไม่ได้เป็นนายก ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ “เชื่อ” หรือไม่ ????????

1 ความคิดเห็น:

  1. ผมไม่เชื่อโหรเนวิน เพราะผมใช้ E-valuate ครับ แต่ที่รู้คือเก่งจริงน่าจะตึงเบนซินตอนนี้ เพราะพรุ่งนี้น้ำมันขึ้นแล้วจ้าว!

    ตอบลบ

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...