วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เย้ายวน รัญจวนใจ



                  ตั้งชื่อเรื่องให้เซ็กซี่หน่อยเพื่อให้เป็นสีสันแต่จริงๆแล้วอยากจะสื่อสารว่า   สินค้าเองก็สามารถใส่ความเซ็กซี่หรือความเย้ายวนได้โดยเฉพาะสินค้าที่ขายสำหรับผู้หญิง  แต่ปัจจุบันนี้สินค้าสำหรับผู้ชายที่อยากดูดีมีชาติตระกูลมีเยอะมากที่เราเรียกว่า  “เมโทรเซ็กชวล”  ไม่ได้หมายถึงการเบี่ยงเบนทางเพศหรือผู้ชายประเภทที่สามที่สี่  แต่กำลังหมายถึงผู้ชายในเมืองที่ปรารถนาให้ตนเองดูดี   ทำไมในเมือง.......ก็เพราะคนในเมืองมีรายได้มากกว่าคนในชนบทและสภาพแวดล้อมทางสังคมที่แตกต่างกันนั่นเอง  เลยเป็นที่มาของสินค้าที่เราเรียกว่า SEX APPEAL   เพราะเป็นสินค้าสำหรับผู้ชายที่อยากดูดิ   แม้แต่นักกีฬาเดี๋ยวนี้ก็ต้องดูดีครับพี่น้องเมื่อก่อนนักกีฬาถ้าไม่อยู่ในชุดแข่งก็จะประมานว่า  เสื้อยืด  กางเกงวอร์ม หรือกางเกงกีฬา  รองเท้าแตะ  ตอนนี้ไปดูซิครับเสื้อผ้าหน้าผมนางแต่ละคนใส่เจล  เสื้อผ้าดูดีแม้ตอนไม่ได้อยู่ในชุดแข่งขันก็ตาม  ไม่ว่าจะเป็น  ชาริล แชปปุยส์  หรือ  ธีรเทพ วิโนทัย   หรือ ชนาธิป สงค์กระแส เป็นต้น  เรียกได้ว่าต้องดูแลเสื้อผ้าหน้าผมแบบเดียวกับศิลปินกันเรยทีเดียว

                โกวเล้งกล่าวไว้ว่า  MEN FROM MAR    /  WOMEN FROM VENUS    ดังนั้นเลยสรุปเอาว่าผู้ชายใช้เหตุผลมากกว่าผู้หญิงในการตัดสินใจซื้อสินค้า  กล่าวอย่างนี้อาจโดนสาวๆทั้งหลายประท้วงก็ได้นิ   เพราะเธอจะบอกว่าเหตุผลที่ดีที่สุดในการตัดสินใจซื้อก็คือ  “ฉันชอบ  พอปะ”    แล้วผู้ชายยังแบ่งออกได้สองขั้ว  ก็คือ HETERO พวกนี้ประมาณว่าติดดินออกเซอร์ๆ  มอมแมบ กลิ่นเหงื่อ  คราบน้ำลายคือสัญลักษณ์แห่งความสุขอะไรปานนั้น   กับที่กล่าวข้างต้นคือ METRO พวกแบบว่าต้องเนี้ยบ ดูดี มีชาติตระกูล  พวกนี้ก็จะประเคนสินค้าเสื้อผ้าหน้าผมแบบจัดเต็ม   เรียกว่าไปต่างจังหวัดจะต้องมีถุงโดเรมอนใส่เครื่องประเคนหน้า ผม ตัว ครบสูตร   แต่ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มใหญ่กว่าทั้งสองกลุ่มดังกล่าว  คือกลุ่มที่อยู่ตรงกลางๆ ไม่ถึงกับเซอร์แต่ก็ไม่ถึงกับเนี๊ยบเรียบแปร้  ดังนั้นก็เป็นโอกาสในการที่ผู้ประกอบการจะจัดสินค้ามาตอบสนองผู้ชายกลุ่มนี้   ทั้งนี้ก็มีแนวคิดอยู่สี่ประการสำหรับผู้ชายกลุ่มนี้  ดังนี้

                1.DO NOT MAKE FEMININE BENEFITS  ON MALE MASCULINE   หรือ  อย่าให้เกิด  GENDER CONTAMINATE     หมายถึงอย่างเอาคุณสมบัติของผู้หญิงไปใส่ในสินค้าของผู้ชาย  เพราะผู้หญิงเองต้องการ ESPIRATION BENEFIT  คือประโยชน์ที่มาจากแรงบันดาลใจเช่นอยากสวยเหมือนนางงาม  ผิวเนียนเหมือนดารา ฯลฯ  ในขณะที่ผู้ชายต้องการ  FUNCTIONAL BENEFIT คือประโยชน์ที่จับต้องได้  เช่น ความสะอาด  รังแคหายไป   หน้าไม่มันเป็นต้น    จะขอยกตัวอย่างสินค้าดังนี้  เช่น คลีนิค ซึ่งการรับรู้ของผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าของผู้หญิง  ไม่ออกสินค้าเป็น คลีนิคฟอร์เมน  เลยออกสินค้า ไบโอเดิมแทน BIOTHERM   แตกต่างจากนีเวียเพราะภาพลักษณ์อาจไม่ชัดเจนเหมือนคลีนิคว่าเป็นสินค้าของผู้หญิง   ออกสินค้าเป็น  นีเวียฟอร์เมนได้เพื่อให้สินค้าเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ชายมากขึ้น   ส่วนรอรีอัล  ออกรอรีอัลฟอร์เมนก็มีบรรจุภัณฑ์ที่บ่งบอกความเป็นชาย  เพื่อความเฉพาะเจาะจงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเป็นสินค้าเหมาะสำหรับผู้ชายเท่านั้น

                2.PREVENT THE EMOTIONAL NEGATIVE   ต้องไม่สื่อสารภาพลบออกไป  หมายถึงต้องสื่อประโยชน์ที่จะรับจากการใช้สินค้า  มากกว่าปัญหาของลูกค้า  เช่น    คุณหัวล้านเลี่ยนเตียนโล่งจึงสมควรใช้แชมพูสมุนไพรตราดอกท้อคู่   สื่อไปอย่านี้รับรองเจ๊งแน่นอน      ครีมโกนหนวด ก็ไม่เหมาะจะสื่อสารว่าเวลาโกนหนวดแล้วมีดโกนบาดแผลเหวะหวะ  ให้สื่อสารว่าใช้ครีมโกนหนวดตราม้าบินแล้วจะโกนได้ราบเรียบดุจใยไหม     หรือ   รังแคคุณบานตะไทหันมาใช้แชมพูรู้รังแค รับรองเจ๊ง     นามมากแล้วมีโรลออนออกมายี่ห้อหนึ่งโฆษณาได้ดีมากเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์   สาวนางหนึ่งนอนอยู่ริมหาดเต่าค่อยๆเดินมา  ตรงไปที่จักกะแร้นางแล้วร้องเรียกแม่   คนจำได้ทั้งเมืองแต่สินค้าเจ๊งใครจะกล้าไปซื้อละครับเพราะแสดงว่าจักกะแร้คุณต้องเน่าแล้วแน่เลยถึงมาใฃ้สินค้านี้  แต่พอสื่อว่าขาวเนียนไร้รู้ขุมขนขูจักกะแร้ได้อย่างมั่นใจ  สาวๆติดตรึม 

                3.GIVE POWER OF PROVE  ต้องสื่อสารคุณสมบัติที่จับต้องได้    ไม่ใช่ขายความหวังแบบว่า สวยเหมือนอั้มพัชราพา  หรือหล่อแบบซิโก้เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง   แต่ต้องตอบได้ว่าใช้แล้ว 15 วันเอากระดาษแตะที่หนังศีรษะแล้วมีรังแคน้อยลง  หรือ ขาว 1 ระดับในชั่วชีวิตคุณ55555   เป็นต้น

                4.HEALTHY NOT BEAUTY  บอกแล้วว่าผู้ชายต้องขายสุขภาพมากกว่าความงาม  ส่วนความงามเป็นของแถมยกเว้นนางจะเป็นผู้ชายนะยะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...