ตั้งชื่อเรื่องให้เซ็กซี่หน่อยเพื่อให้เป็นสีสันแต่จริงๆแล้วอยากจะสื่อสารว่า สินค้าเองก็สามารถใส่ความเซ็กซี่หรือความเย้ายวนได้โดยเฉพาะสินค้าที่ขายสำหรับผู้หญิง แต่ปัจจุบันนี้สินค้าสำหรับผู้ชายที่อยากดูดีมีชาติตระกูลมีเยอะมากที่เราเรียกว่า “เมโทรเซ็กชวล” ไม่ได้หมายถึงการเบี่ยงเบนทางเพศหรือผู้ชายประเภทที่สามที่สี่ แต่กำลังหมายถึงผู้ชายในเมืองที่ปรารถนาให้ตนเองดูดี ทำไมในเมือง.......ก็เพราะคนในเมืองมีรายได้มากกว่าคนในชนบทและสภาพแวดล้อมทางสังคมที่แตกต่างกันนั่นเอง เลยเป็นที่มาของสินค้าที่เราเรียกว่า SEX APPEAL เพราะเป็นสินค้าสำหรับผู้ชายที่อยากดูดิ แม้แต่นักกีฬาเดี๋ยวนี้ก็ต้องดูดีครับพี่น้องเมื่อก่อนนักกีฬาถ้าไม่อยู่ในชุดแข่งก็จะประมานว่า เสื้อยืด กางเกงวอร์ม หรือกางเกงกีฬา รองเท้าแตะ ตอนนี้ไปดูซิครับเสื้อผ้าหน้าผมนางแต่ละคนใส่เจล เสื้อผ้าดูดีแม้ตอนไม่ได้อยู่ในชุดแข่งขันก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น ชาริล แชปปุยส์ หรือ ธีรเทพ วิโนทัย หรือ ชนาธิป สงค์กระแส เป็นต้น เรียกได้ว่าต้องดูแลเสื้อผ้าหน้าผมแบบเดียวกับศิลปินกันเรยทีเดียว
โกวเล้งกล่าวไว้ว่า MEN FROM MAR / WOMEN FROM VENUS ดังนั้นเลยสรุปเอาว่าผู้ชายใช้เหตุผลมากกว่าผู้หญิงในการตัดสินใจซื้อสินค้า กล่าวอย่างนี้อาจโดนสาวๆทั้งหลายประท้วงก็ได้นิ เพราะเธอจะบอกว่าเหตุผลที่ดีที่สุดในการตัดสินใจซื้อก็คือ “ฉันชอบ พอปะ” แล้วผู้ชายยังแบ่งออกได้สองขั้ว ก็คือ HETERO พวกนี้ประมาณว่าติดดินออกเซอร์ๆ มอมแมบ กลิ่นเหงื่อ คราบน้ำลายคือสัญลักษณ์แห่งความสุขอะไรปานนั้น กับที่กล่าวข้างต้นคือ METRO พวกแบบว่าต้องเนี้ยบ ดูดี มีชาติตระกูล พวกนี้ก็จะประเคนสินค้าเสื้อผ้าหน้าผมแบบจัดเต็ม เรียกว่าไปต่างจังหวัดจะต้องมีถุงโดเรมอนใส่เครื่องประเคนหน้า ผม ตัว ครบสูตร แต่ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มใหญ่กว่าทั้งสองกลุ่มดังกล่าว คือกลุ่มที่อยู่ตรงกลางๆ ไม่ถึงกับเซอร์แต่ก็ไม่ถึงกับเนี๊ยบเรียบแปร้ ดังนั้นก็เป็นโอกาสในการที่ผู้ประกอบการจะจัดสินค้ามาตอบสนองผู้ชายกลุ่มนี้ ทั้งนี้ก็มีแนวคิดอยู่สี่ประการสำหรับผู้ชายกลุ่มนี้ ดังนี้
1.DO NOT MAKE FEMININE BENEFITS ON MALE MASCULINE หรือ อย่าให้เกิด GENDER CONTAMINATE หมายถึงอย่างเอาคุณสมบัติของผู้หญิงไปใส่ในสินค้าของผู้ชาย เพราะผู้หญิงเองต้องการ ESPIRATION BENEFIT คือประโยชน์ที่มาจากแรงบันดาลใจเช่นอยากสวยเหมือนนางงาม ผิวเนียนเหมือนดารา ฯลฯ ในขณะที่ผู้ชายต้องการ FUNCTIONAL BENEFIT คือประโยชน์ที่จับต้องได้ เช่น ความสะอาด รังแคหายไป หน้าไม่มันเป็นต้น จะขอยกตัวอย่างสินค้าดังนี้ เช่น คลีนิค ซึ่งการรับรู้ของผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าของผู้หญิง ไม่ออกสินค้าเป็น คลีนิคฟอร์เมน เลยออกสินค้า ไบโอเดิมแทน BIOTHERM แตกต่างจากนีเวียเพราะภาพลักษณ์อาจไม่ชัดเจนเหมือนคลีนิคว่าเป็นสินค้าของผู้หญิง ออกสินค้าเป็น นีเวียฟอร์เมนได้เพื่อให้สินค้าเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ชายมากขึ้น ส่วนรอรีอัล ออกรอรีอัลฟอร์เมนก็มีบรรจุภัณฑ์ที่บ่งบอกความเป็นชาย เพื่อความเฉพาะเจาะจงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเป็นสินค้าเหมาะสำหรับผู้ชายเท่านั้น
2.PREVENT THE EMOTIONAL NEGATIVE ต้องไม่สื่อสารภาพลบออกไป หมายถึงต้องสื่อประโยชน์ที่จะรับจากการใช้สินค้า มากกว่าปัญหาของลูกค้า เช่น คุณหัวล้านเลี่ยนเตียนโล่งจึงสมควรใช้แชมพูสมุนไพรตราดอกท้อคู่ สื่อไปอย่านี้รับรองเจ๊งแน่นอน ครีมโกนหนวด ก็ไม่เหมาะจะสื่อสารว่าเวลาโกนหนวดแล้วมีดโกนบาดแผลเหวะหวะ ให้สื่อสารว่าใช้ครีมโกนหนวดตราม้าบินแล้วจะโกนได้ราบเรียบดุจใยไหม หรือ รังแคคุณบานตะไทหันมาใช้แชมพูรู้รังแค รับรองเจ๊ง นามมากแล้วมีโรลออนออกมายี่ห้อหนึ่งโฆษณาได้ดีมากเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ สาวนางหนึ่งนอนอยู่ริมหาดเต่าค่อยๆเดินมา ตรงไปที่จักกะแร้นางแล้วร้องเรียกแม่ คนจำได้ทั้งเมืองแต่สินค้าเจ๊งใครจะกล้าไปซื้อละครับเพราะแสดงว่าจักกะแร้คุณต้องเน่าแล้วแน่เลยถึงมาใฃ้สินค้านี้ แต่พอสื่อว่าขาวเนียนไร้รู้ขุมขนขูจักกะแร้ได้อย่างมั่นใจ สาวๆติดตรึม
3.GIVE POWER OF PROVE ต้องสื่อสารคุณสมบัติที่จับต้องได้ ไม่ใช่ขายความหวังแบบว่า สวยเหมือนอั้มพัชราพา หรือหล่อแบบซิโก้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แต่ต้องตอบได้ว่าใช้แล้ว 15 วันเอากระดาษแตะที่หนังศีรษะแล้วมีรังแคน้อยลง หรือ ขาว 1 ระดับในชั่วชีวิตคุณ55555 เป็นต้น
4.HEALTHY NOT BEAUTY บอกแล้วว่าผู้ชายต้องขายสุขภาพมากกว่าความงาม ส่วนความงามเป็นของแถมยกเว้นนางจะเป็นผู้ชายนะยะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น