วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

“CHANGE OR DIE ??”



          


                   ประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่า “ไดโนเสาร์”  เป็นสัตว์ที่เคยมีอยู่เมื่อหลายพันปีก่อน  แต่ไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเลยทำให้สูญพันธุ์ไปในที่สุด   แต่แมลงสาบสามารถอยู่เล็ดลอดปลอดภัยจนถึงยุคปัจจุบัน   ชีวิตมนุษย์และองค์กรทั้งทางธุรกิจหรือองค์กรอื่นๆก็ตาม  ย่อมต้องปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อม  บริบทของสังคม  พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป   และนับวันการเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีวงจร หรือ เวลาสั้นมากๆ   อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยี่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว   ในสมัยยุคแรกเริ่มฮารด์ดิสขนาด 5 เม็กกะไบท์ตัวแรกของโลกมีขนาดใหญ่มากเรียกว่าต้องใช้รถโพลค์ลิพท์ขนกันเลย   ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1956 โดยไอบีเอ็ม  ระยะเวลาแค่  60 ปี วันนี้ 1 เทรทราไบท์ มีขนาดเท่าฝ่ามือ  อันนี้อาจจะมีคนแย้งว่าใช้เวลาตั้ง 60 ปี   ก็เพื่อให้เห็นขนาดของความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านน้ำหนัก แล ความจุ    เพราะเราเองคงตระหนักได้เองว่าภายในปีสองปีมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วบ้าง
            หลายองค์กรไม่สามารถรับการเปลี่ยนแปลงได้ก็ต้องล้มหายตายจากไปในที่สุด  คงไม่มีใครเชื่อว่า  บริษัทโกดักเป็นผู้ที่คิดค้นกล้องดิจิตอลเป็นบริษัทแรกในปี 1975   แต่ติดกับดักความภาคภูมิใจว่าเป็นบริษัทที่ผลิตฟีล์มที่ดีที่สุดในโลก  โนเกียเป็นบริษัทที่มียอดขายโทรศัพท์มือถือที่ขายดีที่สุดในโลก  แต่ไม่ปรับตัวสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยี่ที่เปลี่ยนแปลงไป  วันนี้โนเกียหายไปจากตลาดเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วครับ  กลับกลายเป็น เจ้าผู้ครองตลาดโทรศัพท์มือถือ  ห้ารายแรกคือ  ซัมซุง  แอปเปิ้ล  หัวเหว่ย  ออปโป  วิโว่  รวมกันครองตลาดถึง 58 %  ที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นๆรวมกันอีก 42 %  ซึ่งแต่ละรายไม่ถึง  4 % ของตลาด   ทำไมซัมซุงยอดขายเป็นอันดับ 1  เพราะเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  รวมทั้แอปเปิ้ลด้วยเช่นกันซึ่งผมเคยเขียนไว้ในบทความเมื่อหลายปีก่อนว่าถ้าแอปเปิ้ลไม่ออกรุ่นหน้าจอใหญ่แล้วอนาคตตลาดจะเล็กลงเรื่อยๆ    ซึ่งในที่สุดแอปเปิ้ลก็ออกรุ่นหน้าจอใหญ่มาจริงแต่ก็ช้าไปหลายปี  จนวันนี้ 2016 ซัมซุงครองเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนไปเรียบร้อยโรงเรียนคิมแล้วครับ
            กลับมาบ้านเราบ้างขอยกตัวอย่างบริษัท ปตท.  ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจพลังงานน้ำมันนั้นมันสั่นคลอดอันด้วยมีสาเหตุจาก  ราคาน้ำมันที่ลดลง  ปริมาณการใช้น้ำมันที่ไม่เติบโต หรือ ลดลงในบางประเทศเพราะว่าเศรษฐกิจถดถอย  ที่สำคัญที่สุดคือ  รถไฟฟ้า  ที่จะมาแทนที่รถยนต์ใช้น้ำมันในเวลาอันใกล้นี้     ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยกินกาแฟอเมซอน   ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟไทยที่น่าจะมียอดขายและจำนวนสาขามากเป็นอันดับหนึ่งของไทย  ปีที่ผ่านมายอดขายอเมซอนของพี่ ปตท.นั้นมียอดขายถึง  6,000  กว่าล้านบาท  ตีว่ากำไรแค่ครึ่งหนึ่งนั้นก็มากถึง 3,000 ล้านบาทต่อปีแล้ว  และเมื่อเร็วๆนี้ทาง ปตท.  รับเป็นผู้บริหารค้าปลีกให้กับทางการท่าอากาศยาน  ก็อาจจะเป็นอีกก้าวกับการเปลี่ยนแปลงของ ปตท. ที่ต้องปรับตัวในภาวะธุรกิจพลังงานจากน้ำมันไม่หอมหวานเหมือนเมื่อก่อน
            จังหวัดต่างๆในประเทศไทยที่เคยมีข่าวกันอยู่เป็นระยะๆว่ามียุทธศาสตร์จังหวัด  หรือ กลุ่มจังหวัด ก็เห็นประกาศกันมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ   แต่ผลของยุทธศาสตร์ต่างๆเหล่านั้นอาจจะไม่ค่อยได้เห็นเป็นรูปธรรมมากนัก  จนเมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา  เห็นข่าวชิ้นหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีใครเอามาเป็นประเด็นต่ออาจจะไม่มันเหมือนข่าว  “หญิงไก่”  หรือ ข่าวดารากระมัง  นั่นก็คือ คุณทศ  จิราธวัฒน์ ประธานกลุ่มเซ็นทรัล  ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมภาคเอกชนที่เข้ามาช่วยงานรัฐบาล  ได้ประกาศแนวคิด  แปลงอยุธยาให้เป็น “เกียวโต”  เพราะถ้าลำพังอยุธยาจะขายแต่สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์  และนิมคมอุสาหกรรม ก็คงจะหากินไปได้แต่ก็คงไม่เติบโตและก้าวหน้าเพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก   โดยมีเป้าหมายที่ GDP จากการท่องเที่ยวจะเพิ่มถึง 10 เท่า  /  รายได้ต่อหัวของประชากรในอยุธยาเพิ่มจาก  170,000 บาทในปี 2014  เป็น 450,000 บาท ในปี 2025  หรืออีก 9 ปีจากนี้    โดยมีแผนงานเนรมิตรอยุธยา 12 ด้าน  ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว  ที่พัก  การแสดง การคมนาคม  ความปลอดภัย  ทัศนียภาพ  ฯลฯ  โดยจะต้องมีการลงทุนจากภาครัฐเป็นจำนวนมากพอสมควร  ก็นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงที่หากทำได้จริงแล้วอยุธยาจะก้าวกระโดดอย่างแน่นอน    เชื่อแนวคิดและทฤษฎีของคุณทศ  จิราธิวัฒน์  แต่ก็ยังหวั่นๆว่านานไปการปฏิบัติตามแนวคิดหรือแผนนี้จะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด    ส่วน ปตท. ผมเชื่อว่าสามารถปรับตัวได้อย่างแน่อนนเพราะผู้บริหารแต่ละท่านนั้น    สุดยอดทั้งนั้น    แต่ก็ทั้งนี้ก็อย่างประมาทเพราะเราเคยเห็นบริษัทใหญ่อายุเป็น 100 ปี ล้มมาแล้วมากมาย  เหมือนกับฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ   โปรตุเกส ยังเป็นแชมป์บอลยูโร 2016 ได้เรย...................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...