ไปไหนใครๆก็ถามว่า “ประเทศไทย 4.0 คืออะไร ดีอย่างไร
ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไร ?? ฯลฯ “ นับเป็นคำถามประจำปี 2559 เรยทีเดียว อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อประเทศไทยเป็น 4.0 อันนี้เป็นคำถามที่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่...........หากถามว่าจะเป็นประเทศไทย
4.0 เมื่อใด ???? อันนี้ขอค้างไว้เพราะต้องตอบว่าไม่รู้จริงๆ ท่านนายกลุงตู่พูดทุกว่าว่าจะให้ชาวนาเป็น “ชาวนา 4.0” ผมเองฟังสป๊อตวิทยุแล้วยังงงๆ
ว่าชาวนาจะต้องโน่น นั่น นี่
แต่ทำอย่างไรครับท่าน ??? ชาวนาก็งงเหมือนสมัยหนึ่งนานมากแล้วพวกเด็กๆ ที่อ่านบทความนี้อาจจะ งงๆๆๆ มีเพลงผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุมชาวบ้าน
แจ้งว่าทางการเขาสั่งมาว่าให้เลี้ยงเป็ดและสุกร แต่พอชาวบ้านถามว่าสุกรคืออะไรซึ่งผู้ใหญ่ลีไม่รู้จัก(คงรู้จักแต่หมู....มั้ง) ก็เลยตอบว่าสุกรนั้นไซ้ร “คือหมาน้อยธรรมดา” ฮากันไปสามวันแปดคืน
กรณีนี้ก็เช่นเดียวกันเราสานฝัน “ประเทศไทย 4.0” จนทุกกระทรวง กรม
พากัน 4.0 ไปหมด
แต่พอหันไปกระทรวงดิจิตอลฯ
ก็งงเป็นแถวเพราะกระทรวงนี้ตั้งมาเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559
โดยจัดตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวางแผน ส่งเสริม และพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
แต่พี่น้องเชื่อหรือไม่ครับจนถึงวันนี้ยังไม่มีรัฐมนตรีประจำกระทรวงนี้เรย 3 เดือนเต็มๆ ดังนั้นงานก็จะเดินแบบ “อนาล๊อค” ไปพลางๆก่อนซะงั้น
ประเทศไทย 4.0
ต้องเริ่มต้นที่ “ราชการ 4.0 ก่อนครับ” เพราะตอนนี้มีแต่คนแซวว่า “ราชการยังเป็น 1.0 “ อยู่เรยครับพี่น้อง ส่วนเอกชนไม่ต้องห่วงครับเขาไปไกลแล้วครับเพราเขาต้องปรับตัวเองเพื่อความอยู่รอด
จะเห็นได้ว่ากิจการหลายอย่างต้องล้มหายตายจากเราไป ที่เห็นๆกันก็จะมี “สกุลไทย” และ “นสพ.บ้านเมือง” ที่อยู่รับใช้คนไทยมา 61 ปี
และ 44 ปีตามลำดับ ก็เพราะไม่ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี่
และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นับวันจะอิงแอบกับเทคโนโลยีที่อยู่บนมือถือ ฯลฯ
เอาตัวอย่างอีกกรณีหนึ่งก็ได้ครับ
นั่นก็คือการที่พสกนิกรต้องไปรอเข้าคิวเพื่อกราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาถึง
70 ปี ทำไมต้องให้คนไทย คนเฒ่าคนแก่
ไปรอถึง 6-7 ชั่วโมง ทำไมไม่จัดทำระบบจองคิวด้วยเทคโนโลยีครับมีกระทรวงดิจตอลก็เหมือนไม่มี เข้าใจว่าแรกๆก็คงจะฉุกละหุกแต่นี่ผ่านมา 60
วันแล้วยังไม่เห็นเป็นรูปร่างเลยครับ ข่าวเล่าวว่าหลังปีใหม่น่าจะเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนดิจิตอล ผมไม่เชื่อว่ากระทรวงนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่เก่งๆเรื่องเทคโนโลยี่ แต่เชื่อว่ามันติดที่ระบบและวิธีคิด ( MIND SET ) มากกว่า
ท่านอาจจะห่วงคนที่ไม่สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้
อันนี้เป็นความปรารถนาดีแต่ก็มิใช่ว่าจะให้ทุกคนลำบากเหมือนกันหมดด้วยการเข้าคิว
6-7 ชั่วโมง (ล่าสุด น่าจะเหลือ 3-5 ชม)
ก็แก้ด้วยการให้ทุกคนไปลงทะเบียนจองที่ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย
และ ไปรษณีย์ไทยได้หรือไม่ครับ ................ อ้าว
..แล้วจะไม่กลัวมั่วเหรอครับ...!!! ง่ายนิดเดียว เลขประชาชน 13 หลักมีไว้ทำแมวอะไรครับ !!! กลัวเข้าคิวแล้วเอาคิวไปขาย......!! ก็ตรวจบัตรแสดงตน พร้อมบัตรคิวซิครับพี่น้อง ใครเอาบัตรคิวมาขายใช้ ม.44 ขัง 7
วันเรยให้มันรู้ไป อย่าไปอ้างโน่น นี่
นั่น เพราะไอ้ที่ไปยืนเข้าคิวกันก็เห็นข่าวว่ามีการมั่ว แซง
โดยแฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยู่ในกระทรวง กรม กองต่างๆนั่นแหละตัวดี ตาสี ตาสา ยายมี ยายมา ก็เข้าคิวจนเป็นลมเป็นแร้งไป..............
เฮ้อ.......เอาอย่างนี้ดีกว่าผมไปเขาค้อเมื่อวันหยุดที่ผ่านมาซึ่งเป็นภาคบังคับ ต้องแวะกินไก่ย่าง “นิวบัวตอง” ดูแล้วนึกถึงกระทรวงดิจตอลขึ้นมาทันใด ร้านไก่ย่างมีบัตรคิวครับพี่น้องไอ้ที่รู้สึกว่ารอแต่พอมันมีเลขทำให้รู้สึกว่ามันมีความก้าวหน้า เหลืออีก ..XXX คิวก็ถึงเราแล้ว คือแบบว่ารอแบบมีความหวัง ประมาณการชีวิตได้ถูกต้อง ถ้าต้องรอไอ้โปรแกรมที่มันเป๊ะเวอร์ของกระทรวงดิจิตอล แล้วอีกสามชาติค่อยได้ใช้นะ ผมว่าไปซื้อไอ้เครื่องออกบัตรคิวแบบ “ร้านไก่ย่าง
!!!!!! “
มาใช้ก่อนดีหรือไม่ครับ
ราชการไทยจะได้ปรับไปสู่ 2.0
ก่อนปีใหม่นะครับ @@@@@@@@
โดนใจค่ะ ไม่เอาไทยแลนด์ 4.0 ขอเกรด 4.00 แทนดีกว่าค่ะอาจารย์ขาาาา.......
ตอบลบ