วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566

กิน ฟิน มู

 

กิน  ฟิน มู

20 ตุลาคม 2566



  เครดิตภาพ บ.จาบีน จก.

            ถ้าถามว่า “ทำไมเราซื้อสินค้าแบรนด์นี้??  เราจะคำตอบที่หลากหลาย  ไม่ว่าจะเป็น

 “ราคาถูก” สำหรับคนที่ชอบประหยัด ไม่สนใจคุณภาพ บริการเท่าที่ควร  อาจจะเป็นเพราะสองกรณี คือ เงินในกระเป๋ามีน้อย  กับ อุปนิสัยมัธยัสธ์

“บริการดี”  สำหรับคนที่เน้นบริการแพงไม่ว่าขอให้ข้าได้เป็นราชา โดยเฉพาะธุรกิจบริการ  เช่น โรงแรม  เพราะไม่ว่าจะเข้าไปใช้บริการในโรงแรมที่มีระดับเดียวกัน  ก็จะเห็นสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกัน  แต่เราเลือกไปโรงแรมใดก็จะต้องดูทำเลและการบริการเป็นสำคัญ

“คุณภาพดี” สำหรับพวกที่เน้นความคุ้มค่าอาจจะประหยัดพลังงาน  ทนทาน  ฯลฯโดยนิยามของคำว่าคุณภาพของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไปตามบริบท และ ประสบการณ์ของบุคคลนั้นๆ

“ใครๆเค้าก็ใช้กัน”  ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อน ดารา  เซเลบ หรือพรีเซนตอร์   ครีม และ อาหารเสริม  ทั้งหลาย ที่ขายบนทีวีกับออนไลน์   ชอบใช้จุดนี้เพราะว่าครีมเป็นอะไรที่ต้องอาศัยอารมณ์และความเชื่อถือเพราะ  ต้องใช้เวลานานในการเห็นผลสัมฤทธิ์  ไม่เหมือนแอร์ที่วัดได้ว่าเย็นหรือไม่ ประหยัดไฟหรือไม่โดยมีฉลากเบอร์ 5 เป็นตัวรับรอง   ซิ่งสินค้าในหมวดเหล่านี้ใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์น้อยมาก

แต่สุดท้ายแล้ว ....คำตอบที่ง่ายที่สุดคือ   “มันโดนใจ”  ซึ่งใจในที่นี่ก็คงหมายถึงอะไรก็ได้ที่มากระตุ้นต่อมคี้มึ้ง  ซึ่งภาษาของจอมยุทธ์คือ “จุดสลบ”  “จุดตาย”  ที่เรียกได้ว่าถ้าโดนแล้วหลอมละลาย ไม่ซื้อไม่ได้เดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง  อะไรประมาณนี้

ดังนั้น   “ สินค้าต้องมีจุดขาย   ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย “  มันเป็นจุดที่ผู้บริโภคใช้ตัดสินใจเพื่อเข้าไปซื้อสินค้าหรือบริการนั้น   แต่ถ้าเป็น “ มู “ เข้ามาเป็นทางเลือก

กิน ****    คือว่าร้านนี้ต้อง อร่อย  เด่น  ดัง   ดัง  มีมิชิลินรับรอง  มีเชล์ชวนชิม ซึ่งคนอายุน้อยกว่า 30 คงไม่รู้จัก  555  หรหืหรือแม่ช้อยนางรำ   อันนี้ก็น่าจะไม่รู้จัก    ที่เห็นเด่นชัดก็น่าจะเป็น  เจ๊ไฝ  ที่อาหารดูเหมือนไม่มีอะไรไข่เจียวปูที่เป็นก้อนๆ  แต่คนต้องไปเข้าคิวรอกินกัน 

            หรืออีกร้านหนึ่งที่ผมเพิ่งไปกินมาเมื่อเร็วๆนี้  “บ้านปูไข่ดอง”  ซื่งมีเชฟโน๊ตคอยบริการอยู่ที่นี่ และมีสาขาเดียว  ทีแรกนอนัดก็ก็นึกว่าจะมีแต่ปูไข่ดอง  ปรากฏว่ามีตัวเลือกอาหารเยอะมากมายแถมอร่อยทุกจานจนอดเอามาเขียนชมไม่ได้เรยครับ

ฟิน **** ที่ย่อมาจาก ฟินนาเล่ หากแปลตรงๆก็จะหมายถึง ฉากสุดท้านในละคร หรือ ตอนจบของละคร  ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะแฮปปี้เอ็นดิ้ง(เฉพาะละครไทยกระมัง)  แต่คนรุ่นใหม่เค้าหมายถึงว่า สุขสมอารมณ์หมาย  หรือสุดยอดมากไม่มาจะเสียดายประมาณนั้น  ซึ่งคงจะหมายถึง  บรรยากาศ  จุดถ่ายรูป  จุดเช็คอิน  เป็นเดอะมัสท์ที่ไม่ไปจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง  ที่สมัยนี้หากต้องการค้นหา  ก็แค่ในกูเกิ้ลใส่คำว่า “ร้านอาหารสายฟิน”  เข้าไปก็จะมีตัวเลือกแบบว่า แนะนำ  10 / 20 ร้านอาหารสายฟิน   บรรยากาศดี   ถ่ายรูป อะไรประมาณนี้  ผมก็ใช้บริการนี้ไปเจอร้าน Sheep Village ร้านอาหารริมน้ำ บรรยากาศคันทรี่ ในคอนเซ็ปต์ Farm & Restaurant ตกแต่งร้านเป็นหมู่บ้านเล็กๆ สบายๆ มีแกะด้วยนิ  เป็นต้น

มู  ****    คือสายมูเตลู  หมายถึงสายที่ชอบเรื่องลี้ลับ ไสยศาสตร์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  ฯลฯ ก็นำมาผนวกกับอาหารเพื่อความเป็นสิริมงคล   หรือจัดอาหารตามธาตุเจ้าเรื่อง  ซึ่งสาย “มู” นี้ยังไม่ค่อยมีใครนำมาเป็นจุดขายของร้านอาหารเสียเท่าใด  ใครจะเอาไปทำตามก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ   รวมทั้งจัดบรรยากาศให้เหมือนบ้านแม่มด หรือ แม่หมอ รวมทั้งมีแม่หมอมาบรรยาย หรือดูดวงให้และที่ขาดไม่ได้ก็เสริมด้วยการขายของสายมู  ของลงอาคมต่างๆด้วยก็เรียกว่าครบวงจร

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...