วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566

F ทั้ง 7 เฮ็ดทุกวันเด้ออ้าย

 

 

 


              วันที่เขียนบทความนี้คือ 10.10  ที่เป็นโปรเลขเบิ้ลในตำนานของประเทศจีน   ที่เริ่มต้นจากวันคนโสด 11.11 ที่อาลีบาบานำมาใช้ในการโปรโมท  ขายสินค้าแบบลดถล่มทลาย   ซึ่งได้สร้างยอดขายแบบว่าล้มสถิติกันทุกๆปีไป   แต่การมุ่งเน้นที่เซลโปรโมชั่นอย่างเดียวในเทศกาลต่างๆ  ที่ทุกค่ายก็ทำเหมือนๆกัน แถมเมื่อทำบ่อยๆจนจับมุขได้แล้ว  ลูกค้าก็จะรอเพื่อมาซื้อในช่วงการลดราคานั้นๆ    ทำให้อาจจะไม่ตอบโจทย์ในด้านผลประกอบการที่มุ่งเน้นที่การทำกำไร   แต่ก็มิได้หมายความว่าโปรแรงๆอย่างนั้นไม่ต้องทำนะครับ   คงทำอยู่แต่ให้เพิ่มคุณลักษณะของสมาชิกในองค์กรในอีก 7 มิติ  ซึ่งทั้ง7มิตินี้จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น    ซึ่งในที่ขอเรียกว่า    F ทั้ง 7 เฮ็ดทุกวันเด้ออ้าย   โดยจะขอขยายความดังนี้

 

1.FRESH  หมายถึงความสดชื่นแจ่มใส  ซึ่งแน่นอนที่สุดในชีวิตจริงของคนเรานั้น  คงไม่มีใครที่จะสดชื่นแจ่มใสได้ตลอดเวลา  เพราะงานมันเครียดยิ่งในภาวะ ศก.แข่งขัน และปรับตัว   จึงต้องมีการปรับตัว และหาวิธีคลายเครียด

            2.FRIEND  มิตรภาพและการมีเพื่อนฝูงที่  เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ   อยู่โดดเดี่ยวไม่ได้แล้วเช่นเอสเอ็มอีหากจะซื้อเครื่องบรรจุซึ่งมีราคาแพง    คงไม่มีงบประมาณเพียงพอหรือไม่คุ้มทุนแต่หากหาพันธมิตรที่อยู่ในละแวกเดียวกัน   มาร่วมใช้เครื่องแพคกิ้งนี้ก็จะช่วยลดต้นทุน  หรือผู้ซื้อเครื่องก็อาจจะมีรายได้เพิ่มจากการรับจ้างแพคกิ้ง    หรือการใช้ระบบการขนส่งแบบพูลใช้ร่วมกันช่วยให้ประหยัดค่าขนส่งในภาพรวม  ร่วมโปรโมชั่นที่ภาษาการตลาดเรียกว่า Co-Promotion  โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจบริการมาร่วมมือ  เพราะต้นทุนการบริการมีแต่ต้นทุนผันแปร  หรือบางบริการก็ไม่มีต้นทุนเพิ่มเรย  เช่น โรงภาพยนต์ มีคนน้อยหรือมากได้เวลารอบฉายก็ต้องฉายภาพยนต์นั้น     /   รพ. เล็กๆสามารถใช้แล้ปร่วมกันหรืออาจะร่วมกันจัดซื้อยา อุปกรร์ทางการแพทย์  ทำให้เพิ่มอำนาจการต่อรองเพราะซื้อในปริมาณที่มากขึ้นแปลงคู่แข่งเป็นพันธมิตรนั่นเอง

            3.FUN  ต้องทำให้สินค้า และองค์กร  ตลอดจนพนักงานนั้นรู้สึกได้ถึงความสุข  มีส่วนร่วมในสังคม  มีคาแรคเตอร์  สังเกตุได้จากองค์กรในญี่ปุ่นจะมีคุณลักษณะองค์กรที่มีสตอรี่  ดูแล้วร็สึกสดชื่อนแจ่มใส  มีการยืดเส้นยืดสายในตอนเช้า  ทำให้พนักงานรู้สึกกระตือรือร้น (และแถมต้องมาให้ทันกิจกรรม ทำให้ไม่มาสายอีกด้วย )  หรือการทีตัวการ์ตูนที่ทำให้สามารถในการจดจำและสร้างตัวตนขององค์กรและสินค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ  เช่น  น้องอุ่นใจของเอไอเอส   หรือ ก๊อตจิ  ของปตท. เป็นต้น

4.FAIR   การค้าขายต้องเป็นธรรม  และมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม   ซื่งถ้าจะทำจริงก็แค่สอดรับกับ  BCG    หรือ  SCG

โดยที่  BCG มี 3 องค์ประกอบสำคัญคือ 

B = Bioeconomy คือ การนำทรัพยากรชีวภาพมา ผลิตให้คุ้มค่าที่สุดโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย

C = Circular economy ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมีแนวทางคือ การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด ของที่ใช้ในการผลิตต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

G = Green economy เป็นระบบเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นการสร้างนวัตกรรมรวมถึงการจัดการสภาพสังคมให้ กระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

และ นำสู่หลักปฏิบัติ ESG หากต้องการดำเนินการได้ตามเป้าหมาย BCG Model ต้องอาศัยการทำธุรกิจที่ประณีตมีสิทธิภาพตามหลัก ESG Model  คือการให้ความสำคัญต่อ
E = Environment ธุรกิจที่ไม่สร้างผลกระทบ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
S = Social สร้างผลลัพธ์ที่ดีให้ชุมชนและสังคม
G = Governace มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีและบริหารงานอย่างซื่อสัตย์โปร่งใส  
จัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียตลอดทั้งห่วงโซ่การทำธุรกิจ

   5.FIT  องค์กรต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา  เหมือนมนุษย์ต้องฟิตร่างการอยู่เสมอ หาองค์ความรู้ใหม่ๆ   เทคนิค  ช่องทางตลาด  สินค้าใหม่  วิธีคิดใหม่ๆ 

            6.FIRM  ไม่อ้วนอุ้ยอ้าย รีดไขมัน ส่วนเกิน  ซึ่งในที่นี้มิใช่แค่พนักงานที่มีล้นเกินความต้องการ หรือ พนักงานที่ขาดประสิทธิภา   ยังรวมถึงการวางแผนในด้านสินค้าคงคลัง สินค้าสำเร็จรูป  ที่จะต้องมีการวางแผนที่เหมาะสม  และพร้อมที่จะผลิตหรือส่งมอบให้ลูกค้าได้ทันในเวลาที่ต้องการ   และการลดต้นทุนอื่นๆเช่นพลังงานอาจจะใช้โซล่าเซลที่ทุกวันนี้ราคาคุ้มค่าแก่การลงทุน  หากใช้ในเวลากลางวันจะสามารถลดค่าพลังงานไฟฟ้าได้ 15-20 เปอร์เซนต์เลยทีเดีย   การวางแผนเรื่องต้นทุนทางการเงิน  อัตราดอกเบี้ยที่พศ.นี้มีแต่ปรับขื้นดูทรงแล้วโอกาสปรับลงคงอีกไม่ต่ำกว่า  3-5 ปี

            7.FAIL  ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับความผิดหวัง   ศึกษาสาเหตุแห่งความล้มเหลว   และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่โดยอาศัยประสบการณ์และความุ่งมั่น 

   “เพราะไม่มีใครทำอะไรแบบเดิม  แต่หวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป”

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขายรัย...ทำไมเราอิน (มาก)

                                                   เครดิตภาพจาก "เฟสบุคไทรสุก"           สองอาทิตย์ก่อนไปเห็นน้องคนหนึ่งที่เป็...